สาวเดือดโพสต์โซเชียลถามสระผมร้านเสริมสวยกลางเมืองอ่างทอง ถูกเรียกเก็บเงินถึง 600 บาท ขณะที่เจ้าของร้านแจงคิดราคาปกติใช้แชมพูม่วงและผมยาวพิเศษ เตรียมปรึกษานักกฎหมายหลังมีนักเลงคีย์บอร์ดโพสต์ทำเสียหาย
สังคมโซเชียลในพื้นที่อ่างทองแห่แชร์ข้อความของหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งโพสต์ข้อความหลังไปสระผมที่ร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งกลางเมืองอ่างทองและถูกเรียกเก็บเงินถึง 600 บาท โดยมีข้อความว่า “สอบถามผู้รู้ค่ะ ไปสระผมมาที่ร้านในตลาดอ่างทอง สระด้วยแชมพูธรรมดาสองรอบ ตามด้วยแชมพูม่วงหนึ่งรอบ นวดด้วยแชมพูม่วงหนึ่งรอบหมักทิ้งไว้ 10-15 นาที ล้างออก ฉีดวิตามิลผม ไดร์หนีบ ราคา 600 บาท แพงไปใหมคะ ความคิดส่วนตัวคือแพงมาก (แล้วอันนี้คือถามช่างที่เคยสระประจำค่ะเขายังบอกแพงมาก)"
โดยหลังจากโพสต์ไปได้ไม่นานมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่บอกกันเป็นเสียงเดียวกันว่าแพงมากจากราคาปกติ 100-150 บาท แม้จะใช้แชมพูม่วงซึ่งเป็นแชมพูสำหรับผมที่ทำสีก็ตาม และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบว่าราคาดังกล่าวเป็นการซ้ำเติมผู้บริโภคในช่วงวิกฤติโควิด-19ในช่วงนี้อีกด้วย
หลังทราบเรื่องผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ น.ส.กุ๊ก (นามสมมติ) อายุ 39 ปี เจ้าของโพสต์ดังกล่าวเปิดเผยว่าเมื่อหลายวันก่อนตนเองมาทำธุระที่ตลาดอ่างทองและอยากสระผมจึงหาร้านแถวที่ตนเองมาทำธุระ และเห็นว่าร้านนี้ไม่มีคนจึงเข้าไปใช้บริการเพราะไม่อยากจะเสียเวลา โดยบอกช่างให้สระผมแต่ขอให้ใช้แชมพูม่วงเนื่องจากตนเองไปทำสีผมมา ซึ่งทางช่างก็โอเคจึงเริ่มทำโดยไม่ได้ถามราคาก่อน และให้สระหลานซึ่งมาด้วยกันด้วย โดยทางช่างก็ทำตามกระบวนการของช่างใช้เวลาไปกว่าชั่วโมงครึ่ง
หลังเสร็จตนเองก็ซื้อครีมบำรุงผมอีกส่วนหนึ่งแต่เมื่อคิดเงินมาตนเองถึงกับตกใจเนื่องจากทั้งหมดเป็นเงินถึง 1,140 บาท เมื่อแยกครีมบำรุงผมออกไปแล้วก็ราคาสระผมเฉพาะของตนสูงถึง 600 บาท ซึ่งตนเองก็ตกใจมากเพราะไม่คิดว่าจะแพงขนาดนี้ขณะที่เคยสระทั่วไปอย่างแพงสุดไม่เกิน 180-250 บาท แต่นี่กระโดดขึ้นไปถึง 600 บาทเลยทีเดียว แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงออกมาโพสต์ถามว่าราคาขนาดนี้แพงหรือไม่ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบว่าราคานี้มันสูงเกินไปหรือไม่ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงโควิด-19 น่าจะเห็นใจลูกค้าบ้างราคาขนาดนี้ลูกค้ารับไม่ได้
ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังร้านเสริมสวยซึ่งเป็นร้านที่น้องกุ๊กเข้าไปทำผมจนเกิดประเด็นดราม่าในเรื่องของราคาการสระผม พบว่าภายในร้านมีการปิดป้ายราคาการให้บริการอยู่บริเณด้านหน้ากระจก พบพี่หนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 59 ปี เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า น้องกุ๊กเข้ามาสระผมที่ร้านจริง โดยขอให้ใช้แชมพูม่วงซึ่งเป็นแชมพูสำหรับผมทำสี และผมของน้องเสียมากจึงใช้แชมพูเคราตินล้างผมก่อนก่อนที่จะใช้แชมพูม่วงและครีมนวดม่วงโดยต้องหมักไว้ 10-15 นาทีก่อนที่จะใช้เวลาทั้งสิ้นกว่า 1 ชั่วโมง ลักษณะคล้ายการทำสปาเส้นผม เป่าไดร์หนีบ จนเสร็จซึ่งหลังทำเสร็จน้องก็พอใจยังถ่ายรูปไว้ดูด้วย ส่วนตนคิดว่าเป็นราคาที่เหมาะสมเพราะน้องผมยาวมากและคิดราคาตามสภาพและความยาวของผม ตนเอง แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงมีการนำไปโพสต์เช่นนี้ รวมถึงมีผู้มาแสดงความคิดเห็นจนร้านเสียหาย เบื้องต้นก็ได้ปรึกษาทนายเพื่อเตรียมดำเนินการทางกฎหมายต่อไป