เทียบชัด! ทนาย 2 ฝ่ายใครผลงานเด่น แม่ชมพู่มั่นใจทีมอัจฉริยะ ขอบคุณสิระแต่ไม่พบ (คลิป)

9 มิ.ย. 64

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.64 เวลา 09.50 น. ที่โรงแรมมุกดาวิว มุกดาหาร นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ ได้เปิดตัวทีมทนายความที่เข้ามารับหน้าที่ดูแลเพื่อสู้คดี โดยบรรยากาศมีชาวบ้านกกกอกประมาณ 15 คน อาทิ พ่อแบม นางส้มโอ แม่ดอน 3 พยานในคดี, แม่ถอน เจ๊หมี และยายแตงโม นำดอกกุหลาบสีแดงและสีขาว มาเป็นกำลังใจครอบครัวน้องชมพู่

 

เวลา 10.00 น. นายวิริยะ พงษ์อาจหาร หรือ อุ๊บ วิริยะ ได้เดินทางมาให้กำลังใจครอบครัวน้องชมพู่ พร้อมติดตามการแถลงข่าวด้วย

467729

เวลา 10.30 น. นางสาวิตรี นายอนามัย วงศ์ศรีชา พร้อมด้วยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม รวมถึงนายวินัย ชุมสวัสดิ์ ทนายความที่จะเข้ามารับหน้าที่ดูแลคดีให้แม่น้องชมพู่ ได้เซ็นรับเป็นทนายความ นอกจากนี้ยังมีนายสากล ไกรษร ร่วมนั่งโต๊ะเดียวกับทั้ง 4 คนด้วย 

950128

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้แถลงข่าวเปิดตัวทนายความว่า ตนได้รับมอบอำนาจจากครอบครัวน้องชมพู่โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการจัดหาทีมทนายความทำหน้าที่เป็นโจทย์ร่วมกับแม่น้องชมพู่ ในนามชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม

652094

สำหรับทีมทนายความของตนมี 4 คน ทีมแรกนำทีมโดยทนายวินัย ชุมสวัสดิ์ และมีทนายความอีก 1 คน ซึ่งทนายความ 2 คนดังกล่าวจะดูแลในเรื่องของคดีน้องชมพู่

ทีมที่ 2 มีทนายความ 2 คน ซึ่งจะดูแลในเรื่องของการปกป้องสิทธิ์ ในการดำเนินคดีกับผู้ละเมิด ครอบครัวน้องชมพู่ ทั้งทางแพ่ง และอาญา

สำหรับทนายอีก 3 คน นอกเหนือจากทนายวินัยแล้ว ตนยังไม่ขอเปิดเผย ยังไม่ถึงเวลา ให้รอติดตามตอนต่อไป ตนเชื่อมั่นการทำงานของชุดสืบสวนสอบสวน ภายใต้การนำทีมของผบ.ตร. และก็ขอขอบคุณนายสิระ ที่จะเข้ามาพบครอบครัวน้องชมพู่ในวันที่ 12 มิ.ย.64

883019

แต่ตนขอบอกตรงนี้เลยว่า จะไม่อนุญาตให้นายสิริ มาพบครอบครัวน้องชมพู่ เพราะตนคิดว่าไม่เกี่ยวกับประเด็นการเมือง คดีนี้ไม่อยากให้เป็นประเด็นทางการเมือง เพราะคดีของน้องชมพู่เป็นคดีฆาตกรรม

130158

นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังบอกอีกว่า ตนทำงานช่วยเหลือเหยื่อมามากกว่า 9 ปี ซึ่งในส่วนของคดีน้องชมพู่ ตนได้ลงพื้นที่มามากกว่า 7 เดือน เชื่อมั่นในการทำงานของชุดสืบสวนสอบสวน ซึ่งถือว่าทีมพระกาฬ อีกทั้งตนยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมว่ามีหลักฐานสามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้ คดีน้องชมพู่อยู่ระหว่างรออัยการสั่งฟ้อง ถ้าสั่งฟ้องก็จะเป็นโจทก์ร่วมทันที

โดยตนไม่อยากฝากอะไรถึงทนายความอีกฝ่าย แต่ที่ต้องเปิดตัวทีมทนายวันนี้ เพราะที่ผ่านมาสังคมผิดเพี้ยนไปมาก ผู้สูญเสียถูกกล่าวหาว่าฆ่าลูกตัวเอง ส่วนผู้ต้องหากลับกลายเป็นคนดัง ทั้งนี้ไม่มีผู้ต้องหาคนไหนจะพูดความจริงกับทนาย เขาย่อมพูดแต่ความดี ไม่พูดความชั่วของตัวเอง ตนยืนยันว่า ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม อยู่เคียงข้างผู้สูญเสีย ไม่เคยอยู่ฝั่งโจร และยืนยันว่าชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำทีมทนายเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวน้องชมพู่ ครอบครัวน้องชมพู่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแม่แต่บาทเดียว ส่วนเรื่องคดีบุกรุกป่าไม้ ความคืบหน้าล่าสุดภายในสิ้นเดือนมิ.ย.64 จะนำสำนวนไปสั่งฟ้อง ซึ่งจะมีผู้ต้องหา 3 ราย คือ ยูทูเบอร์ 2 ราย และตัวหลักอีก 1 ราย

726726

นายวินัย ชุมสวัสดิ์ หัวหน้าทีมทนายความ เปิดเผยว่า ตนไม่ได้มีความกังวลใจเรื่องอะไร แต่อยากจะชี้แจงเรื่องอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยครอบครัวของน้องชมพู่ว่า เรื่องนี้ฮีโร่ที่แท้จริงคือเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เชี่ยวชาญที่วิเคราะห์หลักฐานต่าง ๆ รวมถึงพนักงานอัยการที่รับเรื่องส่งฟ้อง ส่วนตัวก็ได้เข้ามาให้กำลังใจและปรึกษาเรื่องของทางด้านกฎหมาย ยืนยันเรื่องนี้ไม่ได้เป็นศึกของทนาย เพราะความจริงเรื่องนี้ คือ ความสูญเสียของครอบครัวน้องชมพู่

109649

ส่วนสถิติที่ทนายความอีกฝ่ายเอาออกมาชี้แจงให้เห็น เรื่องนี้ต้องดูก่อนว่าเป็นความจริงหรือไม่ ยังไม่ขอออกความเห็น ซึ่งตนก็ไม่ได้กังวลเรื่องการหาจุดอ่อนของหลักฐานต่าง ๆ เพราะเชื่อว่าตำรวจมีหลักฐานค่อนข้างชัดเจนและหลายอย่าง แต่ไม่สามารถที่จะเอามาเปิดเผยได้ และไม่มีวันเปิดเผยออกมา ตนไม่กังวลหากทนายฝั่งลุงพล จะไปร้องต่อนายสิระ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยพยานหลักฐานทั้งหมด เพราะจากประสบการณ์ในการทำงานทางด้านกฎหมายมา ตนยืนยันว่าพนักงานสอบสวนจะเปิดพยานหลักฐานออกมาน้อยมาก

683899

ในส่วนของสำนวนการสอบสวน ยังพูดอะไรมากไม่ได้ แต่คิดว่าจะใช้ตรงนี้ในการต่อสู้ เรียกได้ว่าทั้ง 2 ฝั่งต้องใส่นวมไปชกกันด้านในศาล ส่วนเรื่องที่ลุงพลได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ตนก็ได้พูดคุยและให้กำลังใจแม่น้องชมพู่ว่าไม่เป็นผลอะไร การปล่อยตัวผู้ต้องหาเป็นหลักทั่วไป แต่ศาลก็ไม่ได้ละเลย ในสิ่งที่แม่น้องชมพู่ร้องขอต่อศาล ถ้าหลังจากนี้ผู้ต้องหาทำผิดเงื่อนไขก็จะยื่นคำร้องต่อศาลอีกครั้ง

410402999316

สำหรับประวัติ นายษิทรา เป็นชาวอ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ครอบครัวมีอาชีพค้าขาย จบมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล จากนั้นคว้าปริญญาตรี 2 ใบ รัฐศาสตรบัณฑิต และนิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง การศึกษาสูงสุด ปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต รุ่นที่ 19 มหาวิทยาลัยเกริก ต่อมาประกอบอาชีพทนายความตั้งแต่ปี 2547 ระหว่างนั้นทำโครงการทนายพบประชาชน ตั้งโต๊ะให้คำปรึกษาช่วยเหลือทางกฎหมาย ตามชุมชนและงานบุญต่าง ๆ

736268602277

 

ประวัตินายอัจฉริยะ

สำหรับประวัตินายอัจฉริยะ เป็นชาวจ.สุราษฎร์ธานี โดยเส้นทางชีวิตเริ่มจากอาชีพวิศวกร เพราะจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ด้านวิศวกรรมโยธา ก่อนจะเริ่มเป็นที่รู้จักในคดีทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น คดีครูจอมทรัพย์ และคดีมาตกรรมน้องหญิง 

ด้านนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า วันนี้รู้สึกดีใจและโล่งใจ เพราะทีมทนายแบ่งเบาความทุกข์ ซึ่งตนไม่ได้กังวลใจอะไร และเชื่อมั่นว่าตำรวจมีหลักฐานที่เชื่อถือได้

510189

หลังจากแถลงข่าวเสร็จ ครอบครัวน้องชมพู่ ได้มอบช่อดอกไม้ให้กับนายอัจฉริยะ และทนายวินัย หลังยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ จากนั้นชาวบ้านกกกอกได้นำดอกกุหลาบมามอบให้กับครอบครัวน้องชมพู่ และทนายความ เพื่อเป็นกำลังใจ

535544

โดยนายอัจฉริยะ ได้มอบเสื้อสีขาว ซึ่งเป็นเสื้อของชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เป็นของที่ระลึกให้กับครอบครัวน้องชมพู่ ชาวบ้าน และพยานในคดี บางส่วนเมื่อได้รับแล้วก็นำมาสวมใส่ทันที 

927779

หลังแถลงข่าวครอบครัวน้องชมพู่ กล่าวว่า หลังจากได้เปิดตัวทนายความแล้ว พวกตนก็รู้สึกอุ่นใจ สบายใจ และมีกำลังใจ เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก ที่มีคนจะมาช่วยตนในเรื่องของคดีความ ทำให้หลังจากนี้ตนจะได้ไม่ต้องห่วง และไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว

568969

กรณีที่นายอัจฉริยะแถลงข่าวว่า ไม่อนุญาตให้นายสิระ มาพบเจอกับตนในวันที่ 12 มิ.ย.64 ตนก็ได้พูดคุยกับนายอัจฉริยะ ก่อนหน้านี้แล้ว จึงได้ตกลงกันว่าไม่พร้อมให้นายสิระ มาเจอ และให้นายอัจฉริยะ แถลงข่าวในวันนี้ไปแล้ว ตอนนี้เรียกได้ว่าตนมีทีมทนายแล้ว อะไรที่เห็นควรหรือไม่ควร ตนก็จะให้ทีมทนายความเป็นผู้ตัดสินใจร่วมด้วย 

326448538115

ส่วนเรื่องเครื่องซินโครตรอน ตนไม่กังวลใจแต่อย่างใด คิดว่าเครื่องดังกล่าวได้รับมาตรฐาน ยอมรับว่าวันนี้รู้สึกมีความสุข รู้สึกอุ่นใจมาก ๆ ตนได้เห็นภาพชาวบ้านนำดอกกุหลาบมาให้กำลังใจ ทำให้รู้สึกอบอุ่นที่มีชาวบ้านกกกอกจริง ๆ มาให้กำลังใจ ชาวบ้านกลุ่มนี้ไม่เคยทอดทิ้งตน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตนเขาก็จะอยู่ข้าง ๆ เสมอ 

ส่วนทางด้านนายอนามัย วงศ์ศรีชา หรือ พ่อน้องชมพู่ กล่าวสั้น ๆ ว่า ตนก็รู้สึกสบายใจและโล่งอก ที่ได้เปิดตัวทนายความ และหลังจากนี้ก็จะเข้ามาต่อสู้กันตามกระบวนการกฎหมาย 

822637

นายวินัย ชุมสวัสดิ์ หัวหน้าทีมทนายความฝั่งแม่น้องชมพู่ เปิดเผยว่า การเข้ามารับหน้าที่ครั้งนี้ได้รับการติดต่อจากนายอัจฉริยะ และได้มีการพูดคุยกับแม่น้องชมพู่ ไปบ้างบางส่วนแล้ว ส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกกังวลใจหรืออึดอัดใจ เพราะติดตามข่าวมาตั้งแต่ต้นและรู้ความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด

ส่วนการแบ่งหน้าที่ ตนจะรับหน้าที่หลัก และจะมีทนายสากล เข้ามาช่วย แต่ในการขึ้นว่าความจะเป็นตน พร้อมกับทำหน้าที่ซักพยานฝั่งผู้ต้องหา และขั้นตอนหลังจากนี้จะเก็บรวบรวมข้อมูล ส่วนใดเป็นประโยชน์ก็จะเสนอให้พนักงานสอบสวน ส่วนทนายอีก 2 คนก็จะคอยดูเรื่องสิทธิ์ที่อาจมีบุคคลที่สามทำให้กระทบต่อความรู้สึกของพ่อแม่น้องชมพู่

กรณีที่สังคมมองว่ากำลังเกิดศึกทนายความ ส่วนตัวไม่ได้มองแบบนั้น แต่ถือเป็นเรื่องการทำงานมากกว่า ไม่มีเรื่องส่วนตัวอะไรมาเกี่ยวข้อง และขั้นตอนหลังจากนี้หากส่วนไหนที่สังคมสงสัยก็จะต้องพูดคุยผ่านสื่อเพื่อให้สังคมเข้าใจ รวมถึงชาวบ้านได้เรียนรู้ไปพร้อมกัน แต่ส่วนไหนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับคดีก็จะต้องไปว่ากันในชั้นศาลเท่านั้น

การที่ตนได้มีโอกาสเข้ามาทำหน้าที่ ก็ได้มีการพูดคุยและให้กำลังใจ พร้อมทั้งอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนหรือวิธีการฝั่งนายไชย์พล ได้รับการประกันตัว โดยการได้รับการประกันตัวก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่สามารถจะทำได้ ทั้งนี้ในฐานะโจทก์ก็มีสิทธิ์ที่จะปกป้องสิทธิ์ตัวเอง รวมถึงช่วยเป็นหูเป็นตา โดยเฉพาะเรื่องของเงื่อนไขการประกันตัว หากกระทำผิดเงื่อนไขก็สามารถยื่นเรื่องต่อศาล เพื่อให้ถอนการประกันตัวได้

133529

นายอัจฉริยะ เรือยรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญกรรม เปิดเผยว่า การตั้งโต๊ะแถลงและเปิดตัวทีมทนายความฝั่งของแม่น้องชมพู่ ได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ไม่ได้เดินทางมาร่วมในการแถลงข่าววันนี้ แต่ขอเก็บไว้เป็นความลับ ยังไม่บอกว่าเป็นใคร เนื่องจากจะใช้ในการต่อสู้และดำเนินคดีกับกลุ่มที่หมิ่นประมาท และกลุ่มยูทูเบอร์ หรือเกรียนคีย์บอร์ดที่พาดพิงและกระทบสิทธิ์ของพ่อแม่น้องชมพู่ ส่วนที่ 2 จะเป็นทีมที่เข้ามาดูแลเรื่องของคดีความโดยตรง ซึ่งจะขึ้นว่าความในชั้นศาล นำโดยนายวินัย ชุมสวัสดิ์ หัวหน้าทีมทนายความ และมีนายสากล ไกรษร เป็นทีมทนายที่เข้ามาช่วยเสริมอีกคน

297145811127

ส่วนกรณีที่ กระแสสังคมมองว่าเป็นการเปิดศึกทนาย และเตรียมที่จะขึ้นชกร่วมกันระหว่างทีมทนายของนายไชย์พล กับแม่น้องชมพู่  เรื่องนี้ตนไม่ได้มองเช่นนั้น แต่เป็นการให้ความช่วยเหลือในฐานะผู้สูญเสียและฝั่งที่ไม่มีเงินเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม เพราะต้องการให้พ่อแม่น้องชมพู่กลับไปใช้ชีวิตทำมาหากินได้อย่างปกติสุข และการเข้ามาช่วยเหลือครั้งนี้ ก็ไม่ได้มีการคิดค่าใช้จ่ายกับครอบครัวน้องชมพู่แต่อย่างใด เพราะว่า “คนยากจน ต้องมีที่พึ่ง”

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า สังคมอาจมองว่าการเปิดตัวทีมทนายของแม่น้องชมพู่ มีมากถึง 4 คน และยังมีตนเป็นที่ปรึกษาหลัก แต่ส่วนของฝั่งนายนายไชย์พล มีเพียงแค่ทนายตั้ม ตนมองว่าทุกอย่างคือสิทธิ์ที่ดำเนินการได้ เพราะทนายความแต่ละคนมีความเชี่ยวชาญและเก่งในมุมที่ต่างกัน แต่ในฝั่งของทนายตั้ม ก็มีทนายอีกคนที่คอยช่วยเหลือและดำเนินการแทน มีฉายาว่า “กุนเชียง” ซึ่งทนายคนดังกล่าวจะเป็นคนที่ขึ้นว่าความแทนทนายตั้ม เพราะเจ้าตัวไม่ขึ้นว่าความด้วยตัวเองอย่างแน่นอน เป็นเรื่องที่รู้ดีอยู่แล้ว ทั้งนี้ตนไม่มีความกังวลใจที่เข้ามาอยู่ในทีมของแม่น้องชมพู่ เพราะเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเชื่อมั่นในพยานหลักฐานของคดี รวมถึงเชื่อมั่นในตัว ผบ.ตร.

ส่วนเรื่องของเครื่อง “ซินโครตรอน” ตนรู้จักเครื่องนี้ และเป็นเครื่องที่ใช้ตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ สามารถบ่งชี้และทำให้เกิดความแม่นยำ ตนจึงเชื่อมั่นในการทำงาน 1 ล้านเปอร์เซ็นต์ แต่บางอย่างคือเนื้อหาที่ระบุไว้ในสำนวนจึงไม่อยากนำออกมาพูด แต่กรณีเส้นผม 36 เส้น ตนก็ยังมั่นใจว่าเส้นผมเหล่านั้นเป็นเรื่องไสยศาสตร์ แต่ไม่ใช่มีเพียงแค่ที่ถูกนำเสนอข่าว เพราะข้อมูลจริง ๆ มีมากกว่านั้น แต่ไม่สามารถบอกได้ “เรื่องเส้นผม สิ่งที่พวกคุณรู้ มันมีมากกว่านั้น และเกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์อย่างแน่นอน”

187337

ในวันนี้ "อุ๊บ วิริยะ" ก็ได้เดินทางมาให้กำลังใจครอบครัวน้องขมพู่ และทีมทนายความ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเชื่อมั่นในทีมงานของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เนื่องจากว่านายอัจฉริยะ ลงพื้นที่และติดตามคดีน้องชมพู่มากว่า 7-8 เดือน และยังรู้สึกโล่งใจ อุ่นใจ กับทีมทนายชุดนี้อีกด้วย อย่างน้อยต่อจากนี้ครอบครัวน้องชมพู่จะไม่ได้โดดเดี่ยวเดียวดาย

ทั้งนี้ตนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าหลักฐานไม่หนาแน่น ก็คงไม่สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้ ตำรวจต้องมีหลักฐานที่เด็ดกว่านี้แน่นอน และก็เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม หลังจากนี้ตนคิดว่าพ่อแม่น้องชมพู่ คงนอนอิ่มมีความสุข เด็กจะต้องไม่ตายฟรี และคนร้ายจะต้องได้ชดใช้กรรม ตนเชื่อว่าทนายความทั้ง 2 ฝั่ง ต้องแบ่งฝั่งแบ่งฝ่ายกันอยู่แล้ว เพราะต่างต้องทำให้ลูกความชนะ และหนังม้วนนี้คงต้องใช้เวลาอีกนาน แต่คิดว่าทนายทั้ง 2 ฝั่ง สมน้ำสมเนื้อแล้ว

นอกจากนี้ ตนยังได้มอบของขวัญให้กับทีมของนายอัจฉริยะอีกด้วย เพื่อเป็นการให้กำลังใจในการทำงาน หลังจากนี้ตนจะเดินทางกลับ กทม. และถ้าครอบครัวน้องชมพู่มีปัญหาหรือต้องการกำลังใจ ตนก็พร้อมจะมาให้กำลังใจเสมอ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส