จากกรณีที่ "มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี" ออกมาโพสต์ว่ามีผู้หญิงอายุ 50 ปีที่ถูกสามีทำร้ายร่างกาย และทำร้ายลูก หลังจากเมายานั้น
วันที่ 9 มิ.ย. 64 นางมาลี ทองสุก อายุ 50 ปี อาศัยอยู่ที่ ม.2 ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ บอกว่า ตนประกอบอาชีพเป็นแม่บ้านอยู่ในบริษัท รายได้เดือนละ 10,000 บาท ตนเคยมีสามีมาแล้ว 1 คน มีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกสาวอายุ 26 ปี และลูกชายอายุ 23 ปี แต่เลิกกันไป 10 ไปแล้ว ไม่เคยติดต่อกันเลย เพราะเขามีภรรยาใหม่ไปนานแล้ว ส่วนสามีคนปัจจุบันของตน คือนายแสนศักดิ์ อายุ 44 ปี ในอดีตก็มีภรรยามาแล้วหลายคน
ที่ผ่านมาหลังจากเป็นสามีภรรยาและจดทะเบียนสมรสกัน นายแสนศักดิ์กับตนมีลูกชายวัย 7 ขวบด้วยกัน 1 คน ตัวเองก็ทนทุกข์ทรมานมาตลอด 10 ปี ปกติแล้วสามีจะมีอาชีพเป็นคนงานก่อสร้าง รายได้วันละ 700 บาท แต่ระหว่างทางกลับบ้านชอบแวะดื่มเหล้าบ้านเพื่อน แล้วเมากลับมาบ้านเป็นประจำทุกวัน ทำให้เงินไม่เคยเหลือเก็บ เอาไปซื้อเหล้าหมด
เวลาเมายังชอบหาเรื่องทะเลาะทำร้ายร่างกายตนด้วยการใช้มือตบ ทุบตี ใช้เท้าถีบ หรือถ้าเมามากก็จะปาข้าวของกระจายทั่วบ้านเพื่อประชดประชัน จนตู้กระจกแตก ครกแตกไปหมด ทำแบบนี้มาตลอด 9 ปี แต่ที่ผ่านมาตนก็ทน มีไปแจ้งความบ้าง 3 ครั้งที่ สภ.บางพลี แต่เรื่องก็ไม่ไปถึงไหน มีเพียงแค่ลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น
ล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 มิ.ย. 64 ตนกลับมาจากทำงานมาถึงบ้านประมาณ 15.00 น. พบว่าสามียังอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ไปทำงานเพราะบ่นว่าเจ็บบริเวณหน้าอก ตนก็เลยถามว่า "ไม่ไปหาหมอเหรอ" สามีก็ตอบว่า "ไม่ไปหรอก ยาก็จะไม่กิน" ตนก็เลยบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมถึงไม่ไปทำงาน ทำงานไม่ดีกว่าหรอ ได้เงินด้วย" เมื่อได้ยินประโยคนี้สามีก็เลยอารมณ์ขึ้น บอกกับตนว่า "นี่หาว่าฉันไม่ไปทำงานหรอ ก็บอกไปแล้วว่าเจ็บหน้าอก" ก่อนที่ตนจะบอกว่า "ไม่ใช่ เข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แค่ถามว่าเจ็บหน้าอกแล้วทำไมถึงไม่ไปหาหมอ" สามีก็เดินมาทุบไหล่ตน กระโดดถีบหลังตนจนเซ ตกกลางคืนสามีก็นั่งลับมีดลับขวานให้คม แล้ววางไว้บนฝาโอ่ง ขู่ตนว่าจะฆ่าให้ตาย ก่อนที่จะออกไปหากบหาเขียด
หลังจากนั้น เมื่อกลางวันของวันที่ 7 มิ.ย. 64 จึงตัดสินใจแจ้งเข้ามาที่มูลนิธิฯ เพราะระยะหลังมานี้ สามีก็เริ่มหันไปเสพยาบ้า ยาไอซ์หนักมากต่อหน้าลูก ทางมูลนิธิจึงประสานให้ตนติดต่อกับ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี เพื่อดำเนินคดีกับสามี
"9 ปีที่ผ่านมาที่ทนก็เพราะว่าอยู่เพื่อลูก ตอนนี้ลูกกำลังจะขึ้น ป.1 ด้วย ต้องทำงานหนักเพื่อที่จะนำเงินมาเลี้ยงดูลูก แทบจะไม่มีเวลาดูแลตัวเองเลยด้วยซ้ำ ทุกวันนี้ตนก็เลยพยายามพร่ำสอนลูกว่า ต่อไปนี้จะเป็นทั้งแม่และพ่อ จะคอยสอนลูกให้เป็นเด็กดี ลูกรู้ลูกเห็นในสิ่งที่สามีทำ ก็อย่าเอาเยี่ยงอย่าง ที่ผ่านมานี้ ถือเป็นครั้งสุดท้าย ฉันจะไม่ให้อภัยอีกแล้ว" นางมาลี กล่าว