กรณีนายสุณีย์ ตระกูลรัมย์ อายุ 66 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.บัวทอง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ แจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.อนุเปรม ทุมนานอก รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่า ถูกน.ส.อรวรรณ หรือ สม อายุ 29 ปี โกงเงินโครงการเราชนะของรัฐบาลไป 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 9,000 บาท
โดยคาดว่าน่าจะใช้กลอุบายหลอกว่าจะสมัครแทนให้นายสุณีย์ แต่อ้างว่าสมัครไม่ผ่าน แล้วซื้อซิมโทรศัพท์เบอร์ใหม่มาคืนให้ โดยที่นายสุณีย์ไม่ทราบเรื่อง
กระทั่งมีเพื่อนบ้านอีกคนมาแจ้งว่า มีเงินโครงการเราชนะเข้าอีก 2,000 บาท เมื่อตรวจเช็กพบว่าเงินโครงการเข้าบัญชีแล้วถึง 2 ครั้ง และถูกใช้เงินไปหมดแล้วรวม 9,000 บาท ตำรวจจึงได้รับไว้เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายมาเจรจากัน
ล่าสุดวันที่ 9 มิ.ย.64 สามีของนางสม อายุ 43 ปี กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนในฐานะสามีขอยืนยันว่าภรรยาไม่ได้เป็นคนเอาเงินไป เพราะรู้จักนิสัยภรรยาดีว่าไม่ใช่เป็นคนแบบนั้น ครั้งนั้นจำได้ว่าสมัครไม่ผ่าน แต่สิ่งที่ตนไม่พอใจนายสุณีย์ คือ การโผกอดภรรยาตนระหว่างการเจรจาพูดคุย ดูแล้วไม่เหมาะสม
พนักงานธนาคารกรุงไทย สาขาบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า หากต้องการที่จะติดตามตัวผู้ที่นำเงินเยียวยาไปใช้ซื้อของ ต้องไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้พนักงานสอบสวนทำเรื่องขอเลขบัญชีของร้านค้าที่ผู้นำเงินเยียวยาไปใช้ซื้อของ
เมื่อได้เลขบัญชีร้านค้ามาแล้ว ก็จะสามารถตรวจสอบว่าผู้ที่สวมสิทธิ์ไปที่ร้านใดบ้าง ซึ่งจะทำให้ไปสอบถามกับร้านค้าได้ว่าใครเป็นผู้มาซื้อ หรือสามารถไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ร้านหรือบริเวณใกล้เคียงได้ว่าใครคือผู้ที่มาซื้อของ ในขณะนี้ผู้เสียหายก็อยู่ระหว่างดำเนินการตามคำแนะนำของพนักงานธนาคาร