ชาวเน็ตสงสัยกรณีแม่ค้าถูกล่อซื้อน้ำส้ม 500 ขวด จะซ้ำรอยกับคดีเด็กสาววัย 15 ปี ถูกล่อซื้อกระทงผิดลิขสิทธิ์ หรือไม่
จากกรณีโลกออนไลน์ได้มีการแชร์โพสต์แม่ค้ารายหนึ่ง เล่าว่ามีลูกค้าอินบ็อกซ์มาสั่งซื้อน้ำส้มจำนวน 500 ขวด โดยนัดมารับของที่ร้านและจ่ายเงินสด พอถึงเวลานัด ลูกค้าถามหาน้ำส้ม 500 ขวด ที่สั่งไว้ จากนั้นลูกค้ากลุ่มนี้ได้ถามหาใบอนุญาตขายน้ำ ด้วยความกลัวจึงยอมจ่ายเงินไป 12,000 บาท โดยที่ชาวเน็ตได้ตั้งข้อสังเกตว่า เสื้อที่กลุ่มคนที่เข้ามาสวมใส่นั้นเป็นเสื้อของเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แม่ค้าถูกล่อซื้อน้ำส้ม 500 ขวด ก่อนเรียกค่าปรับ 12,000 บาท ฐานไม่มีใบอนุญาต
- จะขาย น้ำส้ม ต้องรู้กฎหมายก่อน ภาษีความหวานน้ำผลไม้ 100% ก็ต้องเสียด้วย
จากกรณีนี้ทำให้ชาวเน็ตเชื่อมโยงไปถึงคดีดังเมื่อปี 62 ที่ผ่านมา เมื่อเด็กหญิงวัย 15 ปี หารายได้เสริมรับทำกระทง ต่อมามีคนโทรศัพท์มาสั่งกระทงลายการ์ตูน ยอดรวม 510 บาท โดยมีการวางเงินมัดจำ 200 บาท พร้อมนัดรับของในตัวเมือง จ.นครราชสีมา ต่อมาเมื่อถึงเวลานัดรับของได้มีการจับกุมเด็กสาวรายนี้ เนื่องจากกระทงมีลายลิขสิทธิ์ โดยได้เสนอเรียกรับเงิน 50,000 บาท กับการปล่อยตัวและไม่ต้องติดคุก สุดท้ายผู้ปกครองเจราจายอมจ่ายเงินให้ 5,000 บาท
ต่อมามีทนายยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เด็กหญิงวัย 15 ปี ที่ถูกดำเนินคดีข้อหาลิขสิทธิ์กระทง ให้แจ้งความกลับในฐานความผิดกรรโชกทรัพย์ ใช้เอกสารปลอม แจ้งความเท็จ และกักขังหน่วงเหนี่ยว และมีผู้เสียหายอีกกว่า 50 ราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ โดยมีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกันคือมีการเรียกรับเงิน 20,000-50,000 บาท บางรายโดนเรียกเงินสูงถึง 1 แสนบาท
คดีนี้มีการสืบพยานต่อสู้คดีกัน 11 เดือน จนในที่สุด ศาลจังหวัดนครราชสีมา พิพากษาตัดสินจำคุกนายประจักษ์ โพธิผล จำเลยที่หนึ่ง 2 ปี 6 เดือน จำเลยที่สอง นายสุนันท์ จำคุก 3 ปี ส่วนจำเลยที่สาม ศาลยกฟ้อง
ทั้งนี้ กรณีคดีรีดทรัพย์เด็กหญิงวัย 15 โดยอ้างเรื่องลิขสิทธิ์ผ่านไปราว 2 ปี จนกระทั่งมาเกิดเรื่องคล้ายกันกับแม่ค้าขายน้ำส้ม จึงทำให้ชาวเน็ตจำนวนมาก ตั้งข้อสังเกตและสงสัยว่าจะเป็นคดีซ้ำรอยล่อซื้อกระทงหรือไม่ และจับตาว่าจะมีการสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร