จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก เจ๊ม้อย V plus ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ รถจักรยานยนต์รับจ้างหัวร้อนขี่รถกวดรถเมล์ ก่อนจะวิ่งขึ้นรถชักมีดขู่คนขับ ต่อว่าเรื่องการขับรถ โดยคลิปดังกล่าวมีกระเป๋ารถเมล์ที่นั่งอยู่ด้วย บันทึกวิดีโอไว้ได้นั้น
วันที่ 16 มิ.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่พูดคุยกับผู้เสียหาย ที่อู่รถเมล์สาย 98 บางแก้ว-ห้วยขวาง เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร โดยคนขับรถได้พาทีมข่าวไปดูบนรถเมล์คันที่เกิดเหตุ ซึ่งเกิดเหตุบริเวณด้านหน้ารถ หลังเบาะคนขับ โดยผู้ก่อเหตุขึ้นมาบนรถที่ประตูหน้า ก่อนจะเดินปรี่มาที่เบาะคนขับ
นายบุญยืน ทองแผ่น อายุ 42 ปี คนขับรถเมล์ เล่าว่า วันที่เกิดเหตุคือวันที่ 15 มิ.ย. 64 เวลาประมาณ 10.00 น. ขณะที่ตนเองกำลังขับรถเมล์กลับอู่รถระหว่างนั้นได้จอดป้ายรถเมล์ใกล้กลับวัดธาตุทอง ซึ่งตนเองจอดชิดซ้ายแต่ไม่ได้ชิดถนนมาก เนื่องจากมีรถจักรยานยนต์คันอื่นจอดอยู่ ขณะนั้นก็พบกับรถชายขี่วินรถจักรยานยนต์ที่มีปัญหากับตนเอง จอดอยู่ด้านหน้าพอดี
ตนเองจอดที่ป้ายรถเมล์สักพัก แต่ไม่มีผู้โดยสารก็เตรียมจะออกด้านขวา แต่จังหวะนั้นชายคนดังกล่าวก็จะขี่รถจักรยานยนต์ออกเช่นกัน โดยไม่ดูว่ารถของตนเองกำลังจะออก จึงเกือบจะชนกับช่วงท้าย ด้านซ้ายของรถเมล์ตนเอง ชายคนดังกล่าวจึงเสียหลักเล็กน้อย ตนเองเห็นว่าชายคนดังกล่าวไม่ล้มหรือบาดเจ็บ จึงขับต่อไป ต่อมาวินคนดังกล่าวก็ขี่มาประกบขวาตนเอง และพยายามบอกให้จอด แต่ตนเองไม่อยากจะจอดเพราะกลัวมีเรื่อง
แต่ระหว่างที่ติดไฟแดง รถจักรยานยนต์ก็มาจอดด้านหน้า และลงจากรถรีบเดินมาขึ้นรถเมล์ตนเองทันที จังหวะนั้นตนเองพยายามจะปิดประตู แต่ปิดไม่ทัน ทำให้ชายคนดังกล่าวขึ้นมาบนรถ และมาต่อว่าตนเองว่าขับรถไม่ดี พร้อมกับใช้มือจับบริเวณคอ ตนเองก็ตกใจ แต่พยายามอธิบายว่าขับดีแล้ว ตนเองยืนยันว่าไม่รู้จักวินคนดังกล่าวมาก่อน และมองว่าทำเกินกว่าเหตุ เพราะมีอาวุธมืดในมือ
ด้านนายบุญมั่น ขจรทรัพย์ อายุ 45 ปี ผู้ก่อเหตุ วินรถจักรยานยนต์ วัดใต้เบอร์ 28 เปิดใจว่า ช่วงที่เกิดเหตุ ตนเองกำลังจอดชิดซ้าย นำแก้วน้ำทิ้งถังขยะ แต่รถเมล์คันกล่าวจอดที่ป้ายรถเมล์ และออกรถทันที ทำให้มาเฉี่ยวที่ต้นแขนขวาเล็กน้อย จนรถของตนเองเกือบจะล้ม จึงพยายามประคองรถ และตั้งแต่จะตามไปเรียกรถเมล์คันดังกล่าวเพื่อที่จะพูดคุย แต่รถเมล์คันดังกล่าวไม่ยอมจอด จนมาถึงแยกพระโขนง จึงตัดสินใจจะลงไปพูดคุย แต่ได้ยินคำว่า "ไม่เหยียบตายก็บุญแล้ว" ด้วยความโมโหจึงขึ้นไปบนรถและพูดคุยว่าวันหลังให้ขับดี ๆ ด้วยความที่ตนเองหวงรถด้วย เพราะแต่งมาหลักหมื่นบาท กลัวรถจะเป็นรอยหากถูกชนจนล้ม
ตนเองยอมรับว่าใจร้อนเกินไป จึงทำให้ชักมีดขึ้นไปบนรถด้วย ตั้งใจจะไปขู่เท่านั้น ไม่คิดว่าจะทำร้าย และตอนแรกคิดว่าจะเรียกค่าเสียหายด้วยเหมือนกัน เพราะตนเองเกือบจะล้ม แต่กลัวว่าเหตุการณ์จะบานปลายจึงตัดสินใจลงจากรถเมล์ เรื่องชักมีดขู่และทำให้ตกใจตนเองต้องขอโทษด้วย และมีดที่ใช้ก่อเหตุก็ให้คนอื่นไปแล้ว แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ก็พกมีดเป็นประจำ เพราะใช้สำหรับซ่อมรถบ้าง ตัดของบ้าง ต่อจากนี้ก็พร้อมที่จะพูดคุยและไกล่เกลี่ยที่โรงพัก โดยไม่ได้หลบหนีไปไหน พร้อมที่จะเล่าความจริงเช่นกัน