จากกรณีรถเก๋งสปอร์ต บีเอ็มดับเบิ้ลยู รุ่น Z4 ทะเบียน 3 กก 7558 กรุงเทพมหานคร โดยมีนายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง คนขับ อายุ 50 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร และน.ส.เมย์ อายุ 18 ปี ที่นั่งมาด้วย เสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนนไปชนกับรถเก๋งซูซูกิ สวิฟต์ ทะเบียน 1ขฐ9316 กรุงเทพมหานคร ที่วิ่งมาทางตรงมุ่งหน้าเข้าตัว จ.เพชรบูรณ์
ทำให้คนขับและคนที่นั่งข้างคนขับมาที่อยู่ในรถเก๋ง สวิฟต์ เสียชีวิตทันที 2 ราย คือ น.ส.กรกฏ หิรัญ อายุ 31 ปี คนขับ และน.ส.วรรณกานต์ วรรณกายนต์ อายุ 29 ปี และคนขับบีเอ็มดับเบิ้ลยู เสียชีวิตด้วยนั้น
วันที่ 18 มิ.ย. 64 มีพิธีเก็บกระดูก น.ส.วรรณกานต์ และญาติพร้อมกับร่างทรงเดินทางไปเชิญวิญญาณที่จุดเกิดเหตุแล้วนั้น
นายพงษ์พันธุ์ สายศิริ อายุ 44 ปี ลูกพี่ลูกน้องของผู้ตาย เล่าว่า เมื่อคืนเหมือนมีเสียงเหมือนคนมาเคาะประตู เวลาประเมื่อเที่ยงคืนกว่า โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นเป็นน้องที่มาเคาะเรียก เพราะช่วงเวลานั้นไม่มีใครอยู่แถวประตูเลย สาเหตุก็อาจจะเป็นเพราะว่ายังไม่ได้มาเชิญดวงวิญญาณ หลังจากนั้นตนก็ไม่ได้เอะใจ
นายนิติ วรรณกายนต์ พ่อน.ส.วรรณกานต์ กล่าวว่า วันนี้ได้ไปทำพิธีเชิญวิญญาณที่จุดเกิดเหตุ เป็นความเชื่อตามประเพณีท้องถิ่น เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาหลานชายได้ยินเสียงประตูรั้วหน้าบ้านเสียงดังคล้ายคนเคาะ คิดว่าน้องอุ้ยอาจมาหาแต่เข้าบ้านไม่ได้ ซึ่งตนก็มองว่าอาจจะเป็นเสียงลม หรืออาจจะเป็นเสียงลูกสาวจริง จึงตัดสินใจไปเชิญวิญญาณให้ทุกฝ่ายได้สบายใจ เพราะก่อนหน้านี้ช่วงที่ไปรับศพภรรยาแค่จุดธูปบอก ไม่ได้ทำพิธีอย่างเป็นทางการ
โดยตอนนี้เชิญวิญญาณลูกสาวมาไว้ที่บ้านในเมืองเพชรบูรณ์ จากนั้นจะนำไปที่ไร่ใน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ลูกสาวจะเดินทางไปหาตนในวันเกิดเหตุ ส่วนคดีตอนนี้ยังให้ลูกสาวทั้ง 2 คนเป็นคนดูแล ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวเรื่องรถเก๋งซิตี้สีเทาดำ ออกมาให้ข่าวยืนยันไม่ได้เฉี่ยวรถบีเอ็ม แต่บีเอ็มข้ามเกาะกลางไปชนรถลูกสาวตนเองนั้น ตนยังไม่ได้ติดต่อไปหาเจ้าของรถเก๋งเทาดำคันดังกล่าวเพื่อให้มาเป็นพยาน คิดว่าหากอีกฝ่ายอยากมาช่วยเหลือก็ยินดี
ทั้งนี้ เรื่องเงินที่ญาติบีเอ็มให้มา 10,000 บาท ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องเยียวยา และฝ่ายตนก็ไม่ได้เรียกร้อง หลังจากนี้คิดว่าหากมาคุยกันที่สถานีตำรวจก็ยังพอคุยกันได้ แต่หากได้คุยกันตั้งแต่แรกตอนรับศพที่โรงพยาบาลสถานการณ์ก็น่าจะดีกว่านี้มาก ส่วนที่ญาติบอกว่าไม่ได้มีเงินมารับผิดชอบ ตนก็มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เกี่ยวกับญาติ เนื่องจากคดีต้องดูที่จำเลย กับผู้เสียหายเป็นหลัก และต้องสืบทรัพย์ผู้ตายเพื่อนำมาเยียวยาตามกฎหมายเท่านั้น
น.ส.อรพิม วรรณกายนต์ อายุ 31 ปี พี่สาวน.ส.วรรณกานต์ หรือ อุ้ย ระบุว่า เรื่องคดีต่าง ๆ ต้องรอให้ญาติทำพิธีเผาศพ น.ส.กรกฎ ซึ่งเป็นแฟนของน้องอุ้ยก่อน จากนั้นจะรอตำรวจนัดเข้าไปพูดคุย โดยส่วนของทนายก็คืออาของ น.ส.กรกฎ และรวบรวมพยานหลักฐานค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว ส่วนกล้องหน้ารถของผู้ที่ขับตามรถสวิฟต์ ซึ่งประกาศผ่านเฟซบุ๊กว่าตอนนี้ไฟล์ถูกทับไปนั้น ตนได้ติดต่อไปคุยแล้ว เพราะอยากได้หลักฐานชิ้นนี้มาประกอบด้วย และคิดว่าอาจจะต้องนำไฟล์ไปกู้ที่กรุงเทพฯ แต่ส่วนตัวมองว่าหลักฐานที่มีตอนนี้คดีน่าจะไม่พลิก เพราะมีทั้งกล้องจับความเร็วของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และพยานที่ขับตามมา
ทั้งนี้ ส่วนเงินของญาตินายสุรภักดิ์ คนขับรถบีเอ็มที่โอนเงินมาจำนวน 10,000 บาทนั้น ทางครอบครัวได้นำไปทำบุญหมดแล้ว และคิดว่าน่าจะเป็นเงินช่วยเหลือตามหลักจริยธรรม ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเยียวยาทางกฎหมาย
นางสโน รักแจ่ม อายุ 54 ปี อ้างว่าเป็นร่างทรงหลวงปู่ทบ วัดช้างเผือก เป็นพระเกจิชื่อดังในจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ไปทำพิธีเชิญวิญญาณ น.ส.วรรณกานต์ บริเวณจุดเกิดเหตุในช่วงสายของวันนี้ กล่าวว่า มีญาติมาขอให้ตนไปทำพิธีเชิญวิญญาณ น.ส.วรรณกานต์ที่จุดเกิดเหตุ เนื่องจากน้องอุ้ยกลับบ้านไม่ได้ เพราะเสียชีวิตแบบล่องลอย
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุตนเห็นผู้ตายทั้ง 2 คน คือ น.ส.กรกฎฎ และน.ส.วรรณกานต์ นั่งกอดคอกันร้องไห้ เมื่อเห็นพ่อแม่ ก็เดินมาหาแต่ไม่สามารถสัมผัสกันได้ โดยน้องอุ้ยถามตนว่าทำไมตัวเองถึงหมดอายุขัยเร็ว ตนจึงปลอบใจว่าทุกคนเกิดมาล้วนมีกรรม กรรมใครหมดเร็วก็ต้องไปก่อน จากนั้นจึงทำพิธีวางเครื่องเซ่นไหว้ จุดธูป 1 ดอก ใช้ผ้าขาวเรียกชื่อผู้ตาย ขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางที่กักกันผู้ตายไว้ ให้ปล่อยวิญญาณออกมา ก่อนจะอุ้มผ้าขาวดังกล่าวขึ้นรถไปยังบ้าน เมื่อถึงบ้านตนก็ต้องขอเจ้าที่เจ้าทางที่บ้านอีกครั้ง ให้ดวงวิญญาณได้เข้าไปในบ้านได้ กรณีที่การเชิญวิญญาณส่วนใหญ่จะใช้พระไปทำพิธีนั้น ตนก็เป็นพระที่มาอาศัยในรูปร่างชาวบ้าน เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น