กรณีเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return" ลงภาพวงจรปิด พร้อมเล่าเรื่องราวระบุว่า "ตบตีผู้หญิง...อืมม..อย่าทนเลย..แจ้งความแล้วยังไม่ไม่ออกหมายจับ อาจจะรอใบรับรองการตรวจร่างกายจากแพทย์เพื่อประกอบสำนวนละ...พี่ตั้มช่วยๆเร่งประสานงานด้วย ถ้าลูกคุณโดนแบบนี้คุณคิดว่าควรทำอย่างไรและโจทย์ได้แจ้งความแล้วทำไมถึงยังไม่ออกหมายจับ..." นั้น
วันที่ 19 มิ.ย. 64 นางสาวเมย์ ผู้เสียหาย เปิดใจว่า เหตุการณ์วันที่ 17 มิ.ย. 64 ตนเองถูกนายแอม สามีเข้ามาทำร้ายร่างกาย เหตุเพราะหึงหวงคิดว่าตนเองมีคนใหม่ ประกอบกับนายแอมมาง้อขอคืนดี แต่ตนเองไม่ยอมกลับไป เพราะเหตุผลที่ว่านายแอมเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง ทำร้ายร่างกายตัวเองบ่อยครั้ง เพราะเกิดจากอาการหลอนคิดไปเอง นายแอมชอบมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เวลาเสพก็จะเกิดอาการหลอนคิดไปเอง มักจะเข้ามาทำร้ายร่างกายตนเองบ่อยครั้ง
วันเกิดเหตุ สามีคิดไปเองว่าตนเองมีชายอื่น แต่ในวันดังกล่าวตนเองไปนอนอยู่ห้องแม่ซึ่งอยู่ห้องถัดไป ไม่ได้ไกลจากห้องของตัวเอง ทำให้นายแอมเข้าใจผิดว่าไปนอนหรืออยู่ที่อื่น จึงเกิดอาการโมโหเข้ามาบีบคอ เตะลงไปนอนบนพื้น และยังมีการกระทืบซ้ำ ทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บบริเวณกกหูซ้าย บริเวณดวงตา 2 ข้าง บริเวณท้ายทอย และมากสุดเป็นรอยช้ำเขียวที่บริเวณหน้าอก
ซึ่งที่ผ่านมาหลังจากที่แต่งงานกันได้ประมาณ 1 ปี และมีลูกน้อยวัย 6 เดือนเพศชาย ชื่อน้องสกาย ตัวเองก็ต้องเลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง เพราะจากที่ตนเองตั้งท้องและคลอดลูก นายแอมก็ไม่ได้เข้ามาดูแลแต่อย่งใด มักหายออกจากบ้านไป 3-4 วันตลอดเวลา ซึ่งทุกครั้งที่กลับมาก็จะอยู่ในอาการโมโห เพราะเกิดจากการเสพยาเสพติด ยาไอซ์ ตนเองไม่สามารถทนกับพฤติกรรมการเสพยา จึงได้พยายามทำตัวออกห่าง เพราะเคยตักเตือนและขอให้เลิกยาเสพติดแล้ว แต่เวลาที่นายแอมไม่เสพยาเสพติดจะเป็นคนที่คุยง่าย เป็นคนพูดจาดี ไม่ทำร้ายร่างกายตนเอง มีเหตุผล และแสดงความรักต่อตนเองทุกครั้ง
และก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ตามที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ ช่วงประมาณ 1 เดือนก่อน นายแอมก็หายออกไปจากห้อง ทิ้งให้ตนเองเลี้ยงลูกเพียงลำพัง หลังจากที่กลับมาก็เกิดอาการฉุนเฉียว พยายามขอมีอะไรกับตนเอง แต่ตอนนั้นตนเองด้วยที่เลี้ยงลูกเหนื่อยจึงเลือกที่จะนอนไม่ได้สนใจนายแอม จนทำให้นายแอมเข้าใจผิดว่ามีคนอื่น จึงได้มีการทำร้ายร่างกาย และฉีกเสื้อผ้าหวังจะข่มขืน และไปทำลายเสื้อผ้าในราวตาก จนเสียหาย
ส่วนเรื่องความสัมพันธ์หลังจากนี้ยอมรับว่าทุกอย่างคงจะไม่เหมือนเดิม ไม่สามารถที่จะกลับไปอยู่ในสถานะเดิมได้ ตนเองไม่ได้มีชายอื่น เพียงแค่ไม่สามารถทนกับพฤติกรรมของนายแอมได้ สามีก็ส่งข้อความมาว่า "แอมผิดไปแล้ว แอมขอโทษ" แต่สุดท้ายก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
นอกจากนี้ การที่ตนเองไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็หวังให้มีการเรียกตัวปากพูดคุยและเจรจากัน พร้อมทั้งอยากให้มีการตกลงต่อหน้าพนักงานสอบสวนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปเกี่ยวกับค่าเลี้ยงดูลูก รวมถึงทรัพย์สินที่เสียหาย ที่นายแอมเคยทำลายเสียหาย แต่ถ้าหากนายแอมไม่มาพบกับพนักงานสอบสวนหรือไม่ได้เข้ามาร่วมไกล่เกลี่ยด้วยครั้งนี้ ก็คงต้องว่าไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และพร้อมดำเนินคดีให้ถึงที่สุดในข้อหาทำร้ายร่างกาย