เด็ดหัว 2 โจรยิงสนั่นสู้ตำรวจ 9 ชม.เต็ม ใช้ที่นอนเป็นโล่รับกระสุน ประวัติโหดฆ่า 3 ศพ (คลิป)

จากกรณีเจ้าหน้าที่กำลังทำการปิดล้อมตรวจค้น กลุ่มคนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.3 ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งคนร้ายมีการใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่

ขณะปิดล้อมเจ้าหน้าที่มีความพยายามที่จะเจรจากับคนร้าย เชิญผู้นำศาสนาและผู้นำท้องถิ่นมาร่วมเจรจา เพื่อให้คนร้ายมอบตัว แต่ก็ไม่เป็นผล คนร้ายได้ยิงใส่เจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง จนเกิดการยิงปะทะหลายครั้ง เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 03.00 น.

จนกระทั่งเวลา 11.00 น. พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี ได้วิทยุขอกำลังเสริม และเฮลิปคอปเตอร์เพื่อบินตรวจทางอากาศ เป็นการข่มขวัญคนร้าย ส่วนภาคพื้นดินเจ้าหน้าที่ชุดจู่โจมใช้โล่กำบังพยายามโอบล้อมบ้านหลังดังกล่าวเพื่อเป็นการประชิดตัว และเมื่อเจ้าหน้าที่พยายามที่จะพังประตู คนร้ายที่หลบอยู่ได้ยิงใส่เจ้าหน้าที่อีกครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องหลบกระสุน มีการยิงตอบโต้กันไปมา

เจ้าหน้าที่อีกชุดโอบล้อมด้านหลัง ถูกคนร้ายยิงสวนจนทำให้เจ้าหน้าที่ล่าถอยออกมา จากการเฝ้าจับตาพบว่าคนร้ายใช้เบาะที่นอนหนาประมาณ 10 นิ้วพาดกับผนังบ้าน เพื่อทำเป็นที่กำบัง ทำให้กระสุนไม่สามารถยิงทะลุตัวคนร้ายได้

ในระหว่างการยิงปะทะเจ้าหน้าที่ยังคงใช้เครื่องขยายเสียงเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายมอบตัว ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ยิงแก๊สน้ำตา ะปาระเบิดเพื่อให้เกิดเสียงดัง แต่ก็ไม่ได้ผล คนร้ายยังคงหลบอยู่ภายในบ้านพัก มีการยิงออกมาเป็นระยะ

กระทั่งเวลา 12.00 น. เหตุปะทะก็ได้สิ้นสุดลง เจ้าหน้าที่ได้มีการวางแผนตามยุทธการณ์บุกจู่โจมอย่างหนัก มีการยิงปะทะและกันดุเดือดพร้อมเสียงระเบิดดังขึ้น 3 ครั้ง นานเกือบ 15 นาที เมื่อสิ้นเสียงปืน เจ้าหน้าที่ได้มีการเข้าไปเคลียร์พื้นที่พบศพคนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต 2 ราย ยึดอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 2 กระบอก กระสุนปืนจำนวนหนึ่งและระเบิดขว้างแบบเอ็ม26 จำนวน 1 ลูก และเสื้อผ้าพร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ

โดยหลังจากมีการยิงตอบโต้กัน เจ้าหน้าที่ระบุว่ามีคนร้ายเสียชีวิต 2 ราย ภายในรีสอร์ตดังกล่าว ทราบชื่อคนร้าย คือ นายอัมลัน มะหิเละ อายุ 36 ปี มีหมายจับ 4 หมาย ประกอบด้วย 1.เหตุยิง เจ้าหน้าที่ อส.ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 10 ม.ค.63 2.เหตุยิง อส. อ.ยะหริ่ง เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.60 3.เหตุชิงรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ อ.เมือง เมื่อวันที่ 4 ม.ค.60 และ 4.เหตุยิง นายอภิวัชญ์ ตอบพล และนายกิตติศักดิ์ ตอบพล ในพื้นที่ ต.ลุโบะยีไร อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 9 ก.ค.60

ส่วนคนร้ายอีกคน คือ นายอาดือเระ มันปุเตะ อายุ 31 ปี มีหมายจับคดีความมั่นคง 2 หมายจับ

ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.วัชรกร อ้นเงิน รอง โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี และหน่วยปฏิบัติพิเศษร่วมประจำจังหวัดปัตตานี สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่าย เข้าติดตามบังคับใช้กฎหมายผู้ก่อเหตุรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงใช้กำลังเข้าติดตามบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 04.24 น. ซึ่งในระหว่างการปฏิบัติ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4, ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง

โดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักภายใต้การมีส่วนร่วมและรับรู้ของทุกฝ่ายในพื้นที่ โดยได้เชิญผู้นำศาสนา และผู้นำในพื้นที่ ร่วมเจรจาเกลี่ยกล่อมให้คนร้ายที่อยู่ภายในรีสอร์ตเข้ามอบตัว ระหว่างทำการเจรจากลุ่มผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะ จนเกิดการยิงต่อสู้กันหลายระลอก เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. เมื่อเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบบริเวณพื้นที่โดยรอบที่เกิดเหตุ ตรวจพบคนร้ายเสียชีวิต 2 ราย

เบื้องต้น พบว่าหนึ่งในนั้นเป็นคนร้ายที่เอี่ยวคดียิงกระบะพ่อค้า ลูกสาวและหลานชาย แล้วเผา 3 ศพเสียชีวิตขณะเดินทางด้วยรถกระบะจาก อ.หาดใหญ่ ไปขายของในพื้นที่ จ.นราธิวาส เหตุเกิดในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 64 ที่ผ่านมานั้น

ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางมายังซอยคลองยาเหนือ 11 ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อพูดคุยกับนางเข็มทอง กิตติประภานันท์ อายุ 54 ปี ภรรยาของนายสุพร กิตติประภานันท์ อายุ 58 ปี และแม่ของ น.ส.จิราพร กิตติประภานันท์ อายุ 28 ปี ซึ่งเสียชีวิตในเหตุการณ์วันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา พร้อมกับหลานอีก 1 คน

นางเข็มทอง บอกว่า ตนรู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมและวิสามัญกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ได้ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ตอดตามตัวคนร้ายมาโดยตลอด ตนมองว่าการวิสามัญนั้นอาจจะเหมาะสมแล้ว เนื่องจากหากจับตัวมาได้ คนร้ายอาจหลบหนีหรือพ้นโทษจนกลับไปก่อเหตุซ้ำ

ดังนั้นวิธีนี้จึงถือเป็นวิธีที่ยุติทุกอย่าง โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่าน ตนไม่เคยที่จะได้นอนหลับสนิท ตนยังคงคิดถึงสามีและลูกสาว รวมถึงหลานชายอยู่ตลอด

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ถือเป็นเหตุการณ์ที่โหดร้าย และไม่ควรเกิดขึ้น จากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ คนร้ายนั้นเหี้ยมโหด ขับรถเข้ามาประชิดแล้วกราดยิงทันที จากนั้นก็ลากตัวออกมายิงซ้ำ ยิงรถแล้วราดน้ำมันจุดไฟเผารถจนไฟลุกไหม้