เจ้าบ่าวป้ายแดง นิว ชัยพล เปิดใจหลังขอแฟนสาวแต่งงานเป็นครั้งแรกว่า จริง ๆ ตนอยากแต่งงานนานแล้ว เพราะอยากมีลูกเร็ว ๆ แบบโตทันที่จะเล่นด้วยกัน
- นิว ชัยพล ขอแฟนสาว เมษา กิตติมา แต่งงานแล้ว บรรยากาศริมทะเลสุดโรแมนติก
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดี ๆ ของคนบันเทิง หลังจากที่นักแสดงหนุ่ม นิว ชัยพล ได้คุกเข่าเซอร์ไพรส์ขอแฟนสาว เมษา แต่งงานที่ริมทะเลแบบสุดโรแมนติก ซึ่งทุกคนก็แห่แสดงความยินดีอย่างท่วมท้น เพราะก่อนหน้านี้ ทั้งคู่ได้เลิกรากันไปนานกว่า 2 ปี ก่อนที่ฝ่ายชายจะกลับไปง้อขอคืนดี
ล่าสุด (22 มิถุนายน 2564) ว่าที่เจ้าบ่าวป้ายแดงก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรกว่า จริง ๆ ตนอยากแต่งงานนานแล้ว เพราะอยากมีลูกเร็ว ๆ แบบโตทันที่จะเล่นด้วยกัน ซึ่งกับ แฟนสาวตอนที่กลับมารีเทิร์นกัน ตนก็มีแอบคุย ๆ ไว้ว่า กลับมาคราวนี้ต้องแต่งงานแล้วนะ โดยตนก็รู้สึกว่าพวกตนทั้งคู่รู้จักกันมานานพอสมควร แล้วก็โตพอเรียกว่าถึงเวลาที่เหมาะสมที่จะแต่งงาน ซึ่งก่อนที่ตนจะเซอร์ไพรส์เขา ก็ได้คุยกับครอบครัวฝ่ายหญิงก่อนแล้ว และให้แม่เขาช่วยเลือกแหวนให้
สำหรับ 2 ปีที่เลิกรากันไป ตนก็มีคิดถึงบ้าง แล้วพอกลับมาคบกันอีก ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่ปรากฎว่ามันดีกว่าเดิมมาก จากนี้ก็คงจะรอฤกษ์ดูและรอดูสถานการณ์ ว่าจะจัดงานเมื่อไหร่ ซึ่งตนก็อยากจะได้แบบเร็วที่สุด เพราะอยากมีลูกแล้ว
ที่มาที่ไปทำไมถึงตัดสินใจขอแฟนแต่งงาน?
“ก็แก่แล้วครับ (ยิ้ม) ถ้าใครเคยสัมภาษณ์ เราก็อยากแต่งงานมานานแล้ว ตั้งแต่อายุ 25-26 เพราะคุณพ่อคุณแม่เราแต่งงานตอนนั้น แต่งเร็วปุ๊บมีลูกก็ทันเล่นกันสนุกกัน แล้วครั้งนี้พอกลับมารีเทิร์นกันก็เคยคุยกันว่า ถ้าเกิดกลับมาคุยกัน ถ้ามันดีมันโอเคเรามองถึงอนาคตอยู่แล้ว เรารู้จักกันมาก็นานแล้ว ถ้ากลับมาคบกันจริงจังก็มองถึงอนาคต แล้วพอกลับมาคบมันดีขึ้นจริง ๆ อย่างที่เราทั้งสองคนรู้สึกได้เลยไม่อยากจะเสียเวลาแล้ว ก็เลยขอแต่งงานเลยครับ”
แปลว่าตอนที่ห่างกันไป 2 ปี มีภาพแต่งงานอยู่?
“2ปีที่ห่างกันไปคือไม่ได้คุยกันเลยนะ สำหรับเรามันก็มีความคิดถึง ยังอะไรอยู่ เราก็ไม่ได้มีใคร ไม่ได้เจอใคร พอเวลาผ่านไปมีโอกาสกลับมาเจอกันเลยรู้สึกว่ากลับมาคลิกกันได้ง่ายขึ้น ด้วยอายุ ด้วยสิ่งแวดล้อมอะไรที่มันโตขึ้น ก็ทำให้ทั้งสองคนโตขึ้นและเข้าใจกันง่ายขึ้น”
กลับมาแล้วดีกว่าที่เราคิดไว้?
“ไม่ได้คาดหวังว่าจะดีหรือไม่ดี แบบเดิมก็โอเคแล้ว ถามว่ามีความกลัวไหมก็กลัวนะว่ากลับมาจะเป็นยังไง แต่ถ้าเรายังคิดถึงยังรู้สึกดีกัน ไม่ลองกลับมามันก็ไม่มีทางรู้ เลยลองกลับมาก็ได้ แต่ถ้ากลับมาเป็นแฟนจริง ๆ ก็มองถึงอนาคตเลยนะถ้าเรามองทิศทางเดียวกัน มันดีขึ้นก็กลับมาเป็นแฟน และไม่อยากเสียเวลาอะไรแล้ว ก็ขอแต่งงานเลยดีกว่า”
เรียกว่าไม่ต้องศึกษาเรียนรู้กันใหม่?
“จริง ๆ ก็รู้จักกันอยู่แล้ว แทบไม่ต้องรู้จักกันใหม่ แค่ด้วยวัยวุฒิที่มันโตขึ้นกับสิ่งแวดล้อมโตขึ้นทำให้มันถึงเวลาแล้วที่เราจะแต่งงาน”
แปลว่ากลับมาแล้วมีเป้าหมายเดียวกัน?
“น่าจะใช่ครับ กลับมาแล้วดีขึ้นเราก็มองถึงจุดเดียวกัน ไม่คิดว่ามันจะดีขึ้นนนะ แต่มันดีกว่าครั้งแรกอีกทำให้เรายิ่งมั่นใจว่าอนาคตมันจะดีขึ้น”
2ปีที่ห่างกันไป ตัวเราไม่ได้มีใครเพราะรอเค้าด้วยรึเปล่า?
“ถามว่ารอไหมก็มีความรู้สึกแรก ๆ ที่รอนะ แต่พอเวลาผ่านไปเราก็รู้สึกว่าการรอบางทีมันก็เหนื่อยนะ เราก็ใช้ชีวิตของเราปกติดีกว่า แรก ๆ เราก็เป็นเหมือนคนทั่วไปที่พอเลิกกันยังหวังยังคิดอยู่ แต่พอเวลาผ่านไปเราก็โตขึ้น เราก็มองในการทำงาน มองอย่างอื่น พอเราปล่อยวางเรื่องนี้ไปทำเรื่องอื่นให้ดีขึ้นๆ พอถึงเวลาของมันเอง มันก็กลับมาเอง เราไม่ได้คาดหวังอะไรแล้ว แค่ปล่อยไปตามชีวิตเราตามปัจจุบัน”
กลับมาแล้วหวานกว่าเดิม?
“ก็ใช่ ก็ประมาณนั้น มันดีมาก”
ก่อนทำเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานเราได้ปรึกษาครอบครัวเค้าก่อนไหม?
“ก็ได้มีโอกาสคุยกับคุณแม่เค้าก่อน ไหน ๆ ขอลูกสาวเค้าแล้วก็อยากแจ้งคุณแม่เค้าก่อน ว่าเดี๋ยวจะมีทริปนี้ไปแล้วจะขอแต่งงาน คุณแม่ก็ไม่ได้หลุดอะไร เราก็แอบให้หม่าม้าเค้าและพี่สาวเค้าช่วยเลือกแหวน เพราะหม่าม้าน่าจะรู้จักลูกสาวเค้าดี เราตั้งใจใช้แหวนของคุณพ่อคุณแม่ แต่เราก็เอาเพชรเม็ดนั้นมาทำวงเรือนใหม่ อยากให้เค้าประทับใจในแหวนเพราะต้องใส่ที่นิ้วเค้าตลอดเวลา”
มีซ้อมขอหน้ากระจกก่อนไหม?
“ไม่เคยเลยครับ แต่ในหัวเคยคิดว่าจะพูดอะไรแต่พอถึงเวลาจริงมันจำไม่ได้หรอกแต่โครงๆน่าจะประมาณที่เราตั้งใจไว้”
ไม่เหมือนในละครที่เคยเล่น?
“ไม่เหมือนเลยครับ ถ้าใครดูในยูทูบในช่องของผม ผมได้ถ่ายความรู้สึกตัวเองหลังจากขอแต่งงานไว้ เพราะมันเพิ่งเกิดขึ้น เราอยากเก็บโมเมนต์นั้นไว้ดูในอนาคต ดูตอนเราคิดถึง บางทีเก็บในฮาร์ดดิสก์มันพังไปตามกาลเวลา อัพขึ้นบนนั้นง่ายกว่าและมีหลาย ๆ คนได้ดูด้วย ก็ยินดี แต่เราอยากเก็บไว้เป็นความรู้สึกเรา”
ได้ฤกษ์หรือยัง?
“ตอนนี้ก็รออยู่ครับ ได้เอาวันเกิดของผมและเค้าไปให้อาจารย์ที่เราสนิทรู้จักดูว่ามีฤกษ์เป็นยังไงบ้าง บวกกับดูสถานการณ์แล้วเดี๋ยวจะมาแจ้งให้พี่ๆทุกคนทราบ”
เล็งไว้อยากแต่งช่วงไหน?
“เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ทำไมถึงรีบขนาดนั้น?
“ไม่ได้รีบ แต่รู้สึกว่ามันดี มันโอเคมันใช่ เราก็ไม่อยากเสียเวลา อยากอยู่ด้วยกันให้เร็วที่สุด ยิ่งอยู่ด้วยกันเร็วที่สุดเราก็ได้อยู่ด้วยกันนานขึ้น”
เมษาคิดเหมือนเราไหมว่าอยากให้เร็วที่สุด?
“ก็ได้มีการคุยกันหลังจากขอแล้วว่าอยากประมาณไหน ยังไง เค้าเองก็บอกว่าเร็วที่สุดก็ดีเหมือนกัน ด้วยความรู้สึกที่กลับมาแล้วดีขึ้นก็อยากอยู่ด้วยกันแล้ว”
มีภาพครอบครัวแล้ว?
“เรามีอยู่แล้ว เราเป็นคนอยากมีครอบครัวมีลูกนานแล้ว”
แต่งแล้วมีน้องเลย?
“ต้องถามเค้าด้วย เค้าค่อนข้างสายมู มีการดูฤกษ์การแต่งงาน การมีลูกว่าปีไหนเสริมกันไหม ผมก็ต้องรอดูเค้า”
ตัวเราล่ะ?
“เราอยากมีเลยครับ ก็เร็วที่สุดเหมือนกัน(หัวเราะ) เราโตแล้ว อยากมีลูกทันเรา ไปเที่ยวด้วยกัน”
แปลว่าพร้อมหมดแล้ว บ้านเรือนหอ?
“ก็ไม่ได้เรียกว่าพร้อมหรอก ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ผมเชื่อว่ามันไม่มีวันพร้อม100% ถ้าเราไม่ลองอยู่ด้วยกันจริงๆไม่ลองแต่งงานมันก็ได้แต่รอไปเรื่อย ๆ ถ้าประมาณหนึ่งแล้วเราก็ลองดูแล้วลุยไปด้วยกัน จับมือไปด้วยกันในอนาคตก็เป็นสเต็ปต่อไปที่เราจะได้ก้าวเดินไปด้วยกัน”
สาว ๆ หลายคนอิจฉาเมษา?
“ก็ขอบคุณครับที่อยากเป็นเมษา(ยิ้ม) ไม่รู้จะพูดอะไร แต่ก็ดีใจที่หลาย ๆ คนให้การตอบรับหรือมีฟีดแบ็กในทางที่ดีมาก ๆ ในวันที่เราลงรูปขอแต่งงานไป เป็นครั้งแรกในไอจีที่ได้แสนกว่าไลค์และคอมเมนต์เยอะมาก เราก็อ่านทุกอัน และกดหัวใจให้ด้วย กดอยู่ 2 ชม. ทุกคอมเมนต์ไปในทางที่ดีมาก ๆ เราก็ดีใจที่ทุก ๆ คน ทั้งคนในวงการและแฟนคลับเข้ามายินดี”
แพลนงานเป็นยังไง?
“แน่ๆ ก็น่าจะมีงานพิธีไทยและงานเลี้ยงงานแต่ง ที่ไหนบ้างเราดูวันก่อนว่าไปตรงกับโรงแรมที่ไหน และจำนวนแขกก็กำลังนั่งลิสต์กันอยู่ แต่ยังไม่ได้สรุป อยู่ในขั้นตอนดูทุกอย่างที่สำคัญคือรอฤกษ์ก่อน ค่อยทำหลายๆ อย่างได้”
แต่ทำให้เร็วที่สุด?
“ใช่ครับ ก็จะรีบๆ ครับ ตอนนี้วันหนึ่งต่อสัปดาห์ต้องมีวันหนึ่งต้องมาจัดการเรื่องงานแต่งงาน”
อยากขอบคุณอะไรเมษาไหม ที่กลับมาแล้วทำให้ชีวิตเรามีเป้าหมายมากขึ้น?
“จริง ๆ ก็ได้พูดกับเค้าตลอดเวลา จริง ๆ เรา2คน เป็นเหมือนเพื่อนกันที่แทบไม่ต้องคุยอะไรกัน มองตาก็รู้ใจแล้ว ใครดูยูทูบที่ผมลง เมษาเค้าพูดเลยว่า เค้าไม่รู้ว่าจะมาขอแต่งงานในทริปนี้แต่แค่ตอนที่เราเดินมา แว่บแรกเราไปถ่ายรูปเล่นตอนพระอาทิตย์ตก แล้วอยู่ ๆ เราก็หายไป จริง ๆ คือผมไปเอาแหวน แล้วแค่ผมกลับมาเค้ามองหน้าผมปุ๊บ เค้ารู้แล้วว่าขอแต่งงาน เราสองคนสนิทกันมาก ๆ เป็นเพื่อนกันมองตาก็รู้ใจแล้ว ถามว่าอยากขอบคุณอะไรก็ขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้ทุกวันมีความสุข เราไม่ได้ต้องการอะไรมาก ต้องการแค่คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจและคน ๆ นั้นก็คือคุณ”
ถ้าได้ฤกษ์แล้วโควิดยังไม่ซาล่ะ?
“ก็มีแผนสำรองแล้วเหมือนกัน รอดูสถานการณ์ อย่างน้อยก็จัดพิธีเล็กๆ ในครอบครัวก่อน แล้วค่อยจัดงานเย็นทีหลัง”