จากกรณี น.ส.สุรินทร์ แอบเสมา อายุ 30 ปี แม่เด็กร้องมูลนิธิปวีณาฯ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 64 เพื่อให้ช่วยประสานตำรวจและประชาสัมพันธ์ตามหาลูกสาว 2 คน อายุ 4 ขวบ กับ 2 ขวบ หลังถูกน.ส.รุ้งลาวัลย์ พุ่มบัว หรือ เจี๊ยบ อายุ 45 ปี พี่สะใภ้ที่เป็นพี่เลี้ยงเด็ก ลักพาตัวไปอย่างไร้ชะตากรรม ขาดการติดต่อไป
ต่อมา วันที่ 22 มิ.ย. 64 เวลา 09.00 น. ตำรวจสามารถควบคุมตัวนางเจี๊ยบได้แล้ว หลังหนีไปที่ อ.บึงสัมพันธ์ จ.เพชรบูรณ์ โดยยอมรับว่าน้องนาเดีย 2 ขวบ จมน้ำเสียชีวิต แต่กลัวความผิดจึงนำศพไปฝังไว้ข้างบ้านหมู่ 2 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี คุมตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุบริเวณบ่อน้ำซีเมนต์ข้างบ้าน ขณะมาถึงมีญาติของน้องนาเดียพยายามเดินเข้ามาหานางเจี๊ยบ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกันเอาไว้ ไม่ให้เข้ามาใกล้ผู้ต้องหา เพราะเกรงจะเกิดการปะทะ
จากนั้นนำนางเจี๊ยบไปที่บ่อซีเมนต์ เป็นจุดที่น้องนาเดียร์จมลงไปในบ่อ นางเจี๊ยบนำร่างน้องนาเดียขึ้นมาจากบ่อน้ำ แล้วนำร่างน้องนาขึ้นมาปั๊มหัวใจและผายปอด แล้วจึงอุ้มเข้าไปในบ้าน โดยได้เปลี่ยนเสื้อผ้าและทาแป้งให้ ขณะนั้นน้องนาเดียไม่หายใจแล้ว จากนั้นจึงนำไปนอนบนที่นอนกลางบ้านด้านขวาของตัวเอง ก่อนที่จะให้นมน้องนาเดียในเวลาประมาณ 20.00 น.
เมื่อตื่นเช้าวันที่ 16 มิ.ย. 64 พบว่าน้องเสียชีวิตแล้วจึงห่อผ้าขนหนู แล้วอุ้มเด็กมาวางที่แคร่หน้าบ้าน จากนั้นใส่ถุงดำ 2 ใบ แล้วนำถุงปุ๋ยข้างบ้านมาใส่ มัดปากถุงด้วยเชือก ก่อนนำขึ้นซาเล้งมายังจุดฝังศพ นางเจี๊ยบยืนยันว่าน้องนาเดียร์เสียชีวิตตั้งแต่นำขึ้นมาจากบ่อแล้ว และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะน้องนาเดียร์ก็เปรียบเสมือนลูกสาวตัวเอง
ระหว่างนั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลัวจะคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถ อาของผู้ต้องหาก็เข้ามาบอกนางเจี๊ยบว่าให้พูดความจริงให้หมด ไม่ต้องไปกลัวอะไร
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนางเจี๊ยบ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ไร่อ้อย เป็นจุดฝังร่างน้องนาเดีย ก่อนทำแผนนางเจี๊ยบจุดธูป 1 ดอก ขอขมาน้องนาเดียพร้อมกล่าวว่า "แม่ขอโทษ แม่ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ แม่รักหนูนะ อโหสิกรรมให้แม่ด้วย แม่ประมาทเอง ชาติหน้ามีจริงหนูเกิดมาเป็นลูกแม่นะ แม่รักหนู"
นางเจี๊ยบ กล่าวยืนยันว่า ตนได้ขอโทษแม่น้องนาเดียเป็นการส่วนตัวแล้ว ยืนยันไม่ได้ฆ่าน้อง ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องฆ่าเด็กเพราะตนรักมาก ทั้งที่ผ่านมาค่าเลี้ยงดูตนไม่เคยได้ครบตามที่ตกลงกันไว้ ส่วนที่ต้องให้นมทั้งที่เสียชีวิตแล้วนั้น ตนยังมีความหวัง หลอกตัวเองว่าน้องจะฟื้น ส่วนสาเหตุที่ไม่พาน้องไปหาหมอเพราะกลัว ทำอะไรไม่ถูก ตนรู้ว่าน้องเสียชีวิตตั้งแต่นำขึ้นมาจากบ่อน้ำแล้ว เหตุการณ์ครั้งนี้ตนก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น
ส่วนสาเหตุที่ต้องโทรศัพท์ไปปรึกษานายตี๋ ร่างทรงฤๅษีตาไฟ เพราะตนนับถือ ไม่ได้เตรียมการไว้ก่อน เหตุที่นำมาฝังไว้จุดนี้ เพราะเคยมาเกี่ยวหญ้า ส่วนลูกสาวกับน้องโมเดลรู้เรื่องว่าน้องนาเดียจมน้ำ หลังนำน้องนาเดียไปฝัง ตนหลอกเด็กทั้ง 2 คนว่ามีคนมารับน้องนาเดียไปแล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่าทำเพียงคนเดียว ครอบครัวไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วย ส่วนที่ต้องนำเด็กหนีไปด้วยเพราะไม่อยากทิ้งให้อยู่กันเองตามลำพัง จึงต้องไปด้วยกัน
จากนั้น เริ่มทำแผนฯ โดยนางเจี๊ยบขับซาเล้งมาจอด ก่อนนำจอบขุดดินหลังไร่อ้อย แล้วนำร่างน้องนาเดียร์ซึ่งอยู่ในกระสอบใส่ลงไปแล้วฝังกลบ
หลังจากเจ้าหน้าที่เก็บภาพเสร็จจะคุมตัว น.ส.รุ้งลาวัลย์ได้มองไปที่นายรุ่งเรือง ผู้เป็นบิดา ซึ่งนั่งอยู่แคร่หน้าบ้าน และพูดว่า "พ่อ" น.ส.รุ้งลาวัลย์เดินปรี่เข้าไปกราบลงที่พื้นพร้อมกับร้องไห้ และโผกอดผู้เป็นพ่อก่อนจะขอโทษ นายรุ่งเรืองได้กอดลูกสาว และบอกว่า "ให้ทำใจดี ๆ พูดไปตามความจริง" ซึ่ง น.ส.รุ้งลาวัลย์ ก็บอกว่าขอโทษ และร้องไห้เป็นการลาพ่อก่อนไป
ระหว่างนั้น มีญาติคอยยืนดู บางส่วนบอก น.ส.รุ้งลาวัลย์ ว่า "สู้ ๆ" น.ส.รุ้งลาวัลย์ได้ชู 2 นิ้ว ก่อนถูกคุมตัวขึ้นรถตู้ไป
ด้าน พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ระบุว่า ผู้ต้องหายังยืนยันคำให้การว่าเด็กจมน้ำเสียชีวิตตามที่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยเด็กเสียตั้งแต่แรก แต่พยายามช่วยเหลือเมื่อนำไปนอนด้วยกัน ตื่นเช้ามาเด็กเสียแล้วจึงนำมาฝัง
ซึ่งตอนนี้ต้องรอผลการชันสูตรจากทางนิติเวช รพ.ตำรวจ ช่วงเกิดเหตุลูกสาวและน้องโมเดล พี่สาวผู้ตาย ก็รับรู้ แต่นางเจี๊ยบอ้างว่าน้องนอน เด็กทั้ง 2 คนจึงเล่นกันปกติ ช่วงที่เกิดเหตุลูกสาวนางเจี๊ยบอายุ 12 ปี ไม่ได้เข้าช่วยเหลือ ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่านางเจี๊ยบก่อเหตุเพียงคนเดียว ผู้ต้องหาระบุว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขับรถหนีโดยไม่มีจุดหมายปลายทาง
ทั้งนี้ถูกแจ้งข้อหา กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และซ่อนเร้นอำพรางศพ
นายคมสันต์ สามีของ น.ส.รุ้งลาวัลย์ เปิดใจว่า ตนเป็นคนพูดว่าสู้ ๆ กับผู้ก่อเหตุ โดยวันที่ 15 มิ.ย. ซึ่งเป็นคืนเกิดเหตุ ตนเองซื้อของกินผลไม้มาให้ที่บ้าน น.ส.รุ้งลาวัลย์ ซึ่งตนไม่แน่ใจเวลาแต่เป็นช่วงฟ้ามึดแล้ว ยืนยันว่าไม่ทราบว่าเกิดเรื่อง ตนเองเข้ามาเพียงครู่เดียว นั่งอยู่แคร่หน้าบ้าน ขณะนั้นไม่มีเด็กออกมาจากบ้าน ตนเองเข้าใจว่าเด็กนอนหลับหมดแล้ว เจอเพียงรุ้งลาวัลย์ หลังจากนั้นตนเองก็กลับไปบ้านเมียอีกคน โดย น.ส.รุ้งลาวัลย์ไม่ได้มีท่าทีแปลก อีกทั้งไม่ได้พูดเรื่องที่นาเดียจมน้ำ สีหน้าตนเองไม่เห็น เพราะไม่ได้เปิดไฟ
หลังจากนั้น ตนเองก็ไม่ทราบว่า น.ส.รุ้งลาวัลย์หนีไปไหน ยืนยันว่าตนไม่ได้รู้เรื่องด้วย ตอนที่หลบหนีไปก็ไม่ได้ติดต่อตนเองมา ตนเองสงสารได้บอกให้ น.ส.รุ้งลาวัลย์สู้ ๆ ตนให้กำลังใจ เชื่อว่าไม่ได้ฆ่า เพราะเขารักของเขา ใจหนึ่งก็หลานใจหนึ่งก็แฟน ส่วนตัวกินไม่ได้นอนไม่หลับ ตอนที่รู้ว่าภรรยาหนีไป ตนเองห่วงหลาน ๆ และลูกด้วย ตนเชื่อทุกคำให้การของ น.ส.รุ้งลาวัลย์ เพราะเขารักเด็ก ไปไหนมาไหนก็พาเด็กไปทุกคน จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะก่อเหตุ ตนเองขอโทษ น.ส.สุรินทร์ ที่เป็นน้องสาว ตนเองก็เสียใจ ตนร้องไห้มา 5 วันแล้ว ไม่คิดว่าหลานจะตาย
นายรุ่งเรือง พ่อของ น.ส.รุ้งลาวัลย์ เปิดเผยว่า ลูกสาวมากอดตนตอนทำแผนฯ มาขอโทษอย่างเดียว เขาบอกว่าเขาผิดไปแล้ว ตนเองเพียงบอกให้ลูกพูดความจริง และให้ทำใจดี ๆ ทำอะไรก็พูดแบบนั้น ให้สังคมได้รู้ ตนยืนยันว่าลูกสาวตนรักเด็กมาก ลูกสาวตนเลี้ยงน้องโมเดลมาแต่เล็ก พอโตก็ยังไปเอาน้องนาเดียมาเลี้ยงอีก วันที่เกิดเหตุไม่มีใครเห็นว่ารุ้งลาวัลย์ออกจากบ้าน รถซาเล้งก็ไม่มีใครเห็น ตนเองก็ออกไปทำงาน
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าเรื่องนี้คืออุบัติเหตุ ลูกสาวตนไม่ทำร้ายแน่นอน ตนเองยอมรับผิดที่ลูกสาวตนเอาเด็กไปฝัง ตนไม่ทันได้คุยกับลูกสาวว่าเกิดอะไรขึ้น ตนเองอยากบอกสังคม และการันตีว่าลูกสาวตนไม่ได้ทำร้ายเด็ก เรื่องทั้งหมดเป็นอุบัติเหตุ ลูกตนเองก็ทำงานทำมาหากิน
ที่บ้านของ น.ส.รุ้งลาวัลย์ มีเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดราชบุรี นักสังคมสงเคราะห์ เดินทางมาพบกับครอบครัว น.ส.รุ้งลาวัลย์ เพื่อให้กำลังใจ และให้คำแนะนำ ช่วงหนึ่งนายรุ่งเรือง และน้องสาวของ น.ส.รุ้งลาวัลย์ ได้ปรึกษากรณีสื่อหนึ่งสัมภาษ์ครอบครัวผู้ตาย ระบุว่าสงสัยในตัวของน้องสาวและน้องเขยว่าเป็นคนยกร่างน้องที่จมน้ำ อ้างว่าน้องโมเดลเป็นคนเล่า แต่ทางครอยครัวยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง
นางพร (นามสมมติ) น้องสาวผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนเองมีเรื่องไม่สบายใจหลังพ่อแม่ของนาเดียไปออกรายการ และพูดว่าสงสัยตนกับสามีว่าเป็นคนอุ้มนาเดียขึ้นจากบ่อน้ำ ตนเองยืนยันว่าตนไม่ได้มีส่วนรู้เห็น ตนเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเหตุจมน้ำ วันที่ 15 มิ.ย. 64 ตนเองออกไปทำงานกับสามีแต่เช้า กลับบ้านมาช่วงเย็นราว 18.00 น. ตอนนั้นเห็นพี่สาวนั่งป้อนข้าวนาเดียอยู่ที่แคร่หน้าบ้าน พร้อมกับน้องโมเดล ส่วนน้องจิว ลูกของพี่สาวตนไม่เห็น ส่วนตัวจึงไม่ได้คิดว่ามีอะไรผิดปกติ
จากนั้นตนเองก็ออกไปบ้านพ่อสามี ไปกินหมูกระทะ กลับมาก็เข้านอน เช้าวันที่ 16 มิ.ย. ตนก็ออกไปทำงานกับสามี ซึ่งไม่ทันสังเกตว่าพี่สาวอยู่บ้านหรือไม่ ตกเย็นกลับมาก็รู้ว่าบ้านพี่สาวปิดเงียบ จึงถามพ่อ พ่อบอกเพียงว่าพี่สาวโทรมาบอกว่าไปชะอำ จ.เพชรบุรี แต่รถหมดกลับไม่ได้ ส่วนตัวจึงยืนยันว่าตนเองไม่เกี่ยวข้อง และหากตนถูกกล่าวหาจนเสียหาย ตนเองอาจจะแจ้งความกลับ ส่วนวันนี้เดิมคิดไปงานศพ แต่ขอหยุดไว้ก่อน เนื่องจากมีเรื่องนี้ ตนเองยืนยันว่าหากตนเห็น ตนรู้ว่าเด็กจมน้ำก็จะพาไปหาหมอ ตนเองคงไม่ปล่อยให้เด็กตาย แต่กรณีนี้ตนเองไม่รู้จริง ๆ ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากัน และอีกอย่างเมื่อวานก็ยังพูดคุยกันดี