กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เผยแพร่ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของวันที่ 31 ส.ค. 61 เวลาประมาณ 11.50 น. โดยเป็นภาพของเจ้าตัวเดินเล่นโทรศัพท์มือถือมาตามทางเท้า ก่อนจะมีหญิงสติไม่สมประกอบเดินสวนมา แล้วใช้กำปั้นทุบที่ศีรษะ จากนั้นก็ใช้มือจิกผมจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะมีคนเห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วยห้ามไว้นั้น
วันที่ 2 ก.ย. 61
น.ส.เมย์ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุช่วงพักกลางวัน ตนได้เดินจากที่ทำงานจะไปทานข้าวที่กรมปศุสัตว์ โดยเดินผ่านบริเวณแยกราชเทวี ขณะนั้นตนกำลังใช้โทรศัพท์แชทไลน์กับเพื่อน ต่อมามีหญิงนิรนามสะพายกระเป๋าเป้ ไม่สวมรองเท้า เดินสวนมาแล้วใช้กำปั้นทุบเข้าที่ใบหน้าของตน โดยที่ไม่พูดไม่จาใด ๆ ตนจึงหันไปถามว่า “คุณเป็นใคร มาตีเราทำไม” จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ตอบกลับว่า “มึงเป็นศัตรูกูไง” ตนก็ถามต่อว่า "ไปเป็นศัตรูกันตอนไหน เพราะไม่รู้จักกันมาก่อน" แต่อีกฝ่ายก็เริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง ทำให้ตนคาดว่าน่าจะเป็นคนสติไม่ดี
น.ส.เมย์ เล่าต่อว่า จากนั้นหญิงนิรนามก็มีท่าทีจะเดินออกไป ตนจึงพยายามจะกดโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างกดโทรศัพท์ หญิงนิรนามก็เข้ามาทำท่าว่าจะถีบ แล้วกระชากศีรษะตน ตอนนั้นตนรู้สึกตกใจจึงร้องให้คนช่วย พักหนึ่งก็มีคนที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วยห้าม และมีคนเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ กระทั่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง หญิงรายดังกล่าวก็อ้างกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเป็นคนเริ่มทำร้ายก่อน ทั้งยังอ้างว่าตนไปแย่งแฟนของผู้ก่อเหตุ และเคยตามไปตบผู้ก่อเหตุที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเจ้าตัว ทั้งยังอ้างอีกว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ ตำรวจจะจับไม่ได้
น.ส.เมย์ ระบุว่า เหตุผลที่ไม่ได้ตอบโต้ เป็นเพราะตนเห็นว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนสติไม่ดี และไม่แน่ใจว่ามีอาวุธหรือไม่ จึงคิดอยู่เพียงอย่างเดียวว่า ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับ จะปล่อยให้ผู้ก่อเหตุเดินอยู่ตามถนนไม่ได้ เนื่องจากกลัวว่าจะไปทำร้ายใครอีก ทั้งนี้ ตนยังไม่ได้แจ้งความ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นคนสติไม่ดี เพียงแต่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.พญาไท โดยเจ้าหน้าที่ก็ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ในห้องขังก่อน เนื่องจากกลัวว่าจะไปทำร้ายผู้อื่น และติดต่อให้ญาติมารับตัวต่อไป
อย่างไรก็ตาม
น.ส.เมย์ กล่าวต่อว่า ตนมาทราบในภายหลังว่าหญิงดังกล่าวเล่นเฟซบุ๊กด้วย และเพิ่งเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ครั้งล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา และเพิ่งทำบัตรประชาชนมาเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ทำให้ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเป็นหญิงสติไม่สมประกอบจริงหรือไม่ แต่ก็ได้รับการยืนยันจากญาติผู้ก่อเหตุ โดยทางญาติเคยพาไปรักษาที่โรงพยาบาล
น.ส.เมย์ ฝากทิ้งท้ายถึงคนที่ใช้โทรศัพท์ระหว่างเดินบนท้องถนนว่า ไม่อยากให้เล่นโทรศัพท์ ทางที่ดีควรระมัดระวังและสังเกตรอบตัว เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าคนรอบข้างที่เดินสวนมาเป็นใคร อย่างกรณีนี้ ตนอาจจะสังเกตและหลบได้ทัน ถ้าหากขณะนั้นไม่ได้กดโทรศัพท์อยู่
ด้าน
พนักงานสอบสวน สน.พญาไท เปิดเผยว่า กรณีนี้ผู้เสียหายไม่ได้แจ้งความ เพียงแต่ลงบันทึกประจำวันไว้ โดยเจ้าหน้าที่ก็ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ที่ สน.พญาไท เนื่องจากกลัวว่าจะไปทำร้ายคนอื่น โดยจากการตรวจสอบไม่พบประวัติอาชญากรรม ภายในกระเป๋าเป้ ที่พกติดตัวก็มีเพียงเสื้อผ้าและยารักษาโรค ไม่พบอาวุธ ไม่พบยาเสพติด ส่วนที่ผู้เสียหายพบว่าผู้ก่อเหตุมีการเล่นเฟซบุ๊ก แต่จากการตรวจสอบ ผู้ก่อเหตุไม่ได้พกโทรศัพท์มือถือ
นอกจากนี้ ระหว่างที่ได้ควบคุมตัวมาเป็นเวลา 2 วัน พบว่าผู้ก่อเหตุมีอาการคุ้มคลั่งเป็นระยะ ๆ สลับกับมีอาการซึมเศร้า ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังญาติผู้ก่อเหตุให้เข้ามารับตัว แต่ทางญาติปฏิเสธ มีเพียงพี่สาวที่บอกว่าจะมารับตัว แต่ขณะนี้ไม่สามารถติดต่อได้ หากวันนี้ไม่มีผู้มารับตัวไป เจ้าหน้าที่ก็จะทำการส่งตัวไปรักษาอาการทางจิตที่โรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้ (3 ก.ย.)