ผอ.รพ.ลำปลายมาศ ยืนยันผู้ช่วยพยาบาลเป็นลมคือเรื่องจริง เหตุเพราะใส่ชุด PPE นานเกินไป

ผอ.โรงพยาบาลลำปลายมาศ บุรีรัมย์ เผยกรณีผู้ช่วยพยาบาลเป็นลมขณะปฏิบัติหน้าที่ที่หน้าห้องผู้ป่วยโควิดเป็นเพราะสวมชุด PPE นานเกินไป ยอมรับกำลังเจ้าหน้าที่ชุดรักษาผู้ป่วยโควิดไม่เพียงพอเพราะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน เตรียมเพิ่มกำลังแล้ว

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jitranut Panyasen ได้โพสต์ภาพเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ลักษณะนอนอยู่หน้าห้องผู้ป่วยพร้อมเขียนข้อความว่า

“ตึกมีคนไข้covid14PUI2 พยาบาลขึ้นเวร 3 คน PN2 ภาระงานรับใหม่ทุกวัน ทั้งตึกมีเจ้าหน้าที่ไม่ถึง 10 คน ขึ้นเวร 4-5 เวรต่อกัน วันนี้มีเจ้าหน้าที่เป็นลมล้มหลังจากออกจากห้องคนไข้ที่ต้องเข้าไปทำหัตถการที่ใส่ชุด PPE เวลานานเกือบชั่วโมง อัตรากำลังไม่เคยเพิ่ม อยู่มาตั้งแต่ระลอกแรกจนระลอก 3 ก็ยังไม่เคยมีคนเปลี่ยน โคตรไม่ยุติธรรม”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ล้มทั้งยืน บุคลากรแพทย์ รับศึกหนักตั้งแต่ระลอกแรกไม่เคยเพิ่มคน ลั่นโคตรไม่ยุติธรรม

โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ต่อไปนับพันครั้งในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ปัญหาที่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าต้องเผชิญท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ซึ่งยังคงทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ความคืบหน้าล่าสุด นายแพทย์บุญโฮม แก้วชนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ ได้ออกมาระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องจริง สาเหตุที่ผู้ช่วยพยาบาลท่านนั้นเป็นลม เนื่องจากมีครอบครัวแม่ยายหลานรวม 3 คน ติดเชื้อโควิด-19 โดยยายกับหลานอยู่ด้วยกัน ส่วนแม่แยกออกคนละห้อง แต่จากการตรวจพบว่ายายมีความเข้มข้นออกซิเจนในเลือดต่ำจึงต้องการแยกหลานออกจากยายให้ไปอยู่กับแม่

จากนั้นผู้ช่วยพยาบาลคนนี้ซึ่งใส่ชุด PPE เดินเข้าไปเพื่อจะพาหลานไปหาแม่ เมื่อเด็กเห็นชุด PPE จึงเกิดความกลัวไม่กล้ามาด้วย ผู้ช่วยพยาบาลคนดังกล่าวใช้เวลากล่อมเด็กนานถึง 45 นาทีเด็กจึงยอมไปหาแม่ เมื่องานสำเร็จผู้ช่วยพยาบาลคาดว่าน่าจะเกิดจากสวมชุด PPE นานเกินไปจึงเป็นลมล้มลงดังกล่าว

นายแพทย์บุญโฮม เผยว่า จริงๆ แล้วเจ้าหน้าที่ชุดดูแลคนไข้โควิดมีเพียงพอ แต่ในช่วงหลังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจนทำให้เตียงคนไข้ที่เตรียมไว้ 18 เตียงเต็มหมดแล้ว และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีก ตอนนี้ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อให้สมดุลกับคนไข้แล้ว แต่ในระยะอันใกล้คาดว่าจะมีคนป่วยเพิ่มขึ้นอีก จึงเตรียมขอกำลังเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เข้ามาช่วยอีก ส่วนขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตอนนี้ยังดีพร้อมปฏิบัติหน้าที่สู้ต่อไป