สาวขับรถลุยน้ำลงอุโมงค์ ร่างลอยติดเพดานรถก่อนดับ - จนท.ระดมสูบน้ำออก

จากกรณีนางสาว ภานุมาศ แซ่แต้ อายุ 41 ปีได้ขับรถกระบะโตโยต้าวีโว ลอดอุโมงค์ทางรถไฟทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตประเวศ กทม. ทำให้รถและคน ได้จมน้ำเสียชีวิต เนื่องจาก บริเวณอุโมงค์ทางเข้าหมู่บ้านน้ำท่วมสูงประมาณเกือบ 3 เมตร โดยเหตุเกิดขึ้น ช่วงเวลา ตี 2 ที่ผ่านมานั้น

วันที่ 6 ก.ย.61ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวีลงพื้นที่ในที่เกิดเหตุ พบว่าบริเวณอุโมงค์ทางลอดทางรถไฟนี้เป็น ทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งอยู่ฝั่งขาเข้าถนนมอเตอร์เวย์ เชื่อมต่อไปยังซ.อ่อนนุช 65 แยก 14 โดยพบว่าระดับน้ำสูงกว่า 3 เมตร 50 เซนติเมตร ระยะทางประมาณ 100 เมตร มีน้ำท่วมสูง

ด้านพ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ พร้อมด้วยนายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศ เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ด้วย พ.ต.อ.อลงกรณ์ เผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า เมื่อช่วงเวลา 24.00 น. ขณะเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตกำลังจะขับรถออกจากหมู่บ้านเพื่อไปทำธุระ โดยใช้เส้นทางดังกล่าวมุ่งหน้าถนนเลียบมอเตอร์เวย์ เมื่อมาถึงทางลงอุโมงค์เกิดน้ำท่วมขัง ผู้เสียชีวิตอาจเข้าใจว่า สามารถขับรถลุยน้ำต่อไปได้ เเต่เมื่อลงไปถึงช่วงกลางอุโมงค์รถเกิดดับ เพราะน้ำท่วมสูง จึงอาจทำให้ไม่กล้าลงจากรถ ประกอบกับผู้เสียชีวิตว่ายน้ำไม่เป็น ขณะนั้นผู้เสียชิวิตได้โทรศัพท์เรียกเพื่อนมาช่วยตอน 00.43 น. โดยญาติได้ตามคนงานที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วยดำน้ำค้นหา แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ เพราะระดับน้ำท่วมจนมิดรถทั้งคัน ก่อนที่นักประดาน้ำจะพบว่าศพลอยติดอยู่ที่เพดานรถ นอกจากนี้ ได้ให้พนักงานสอบสวน เตรียมเรียก นิติบุคคลหรือกรรมการหมู่บ้านมาทำการสอบสวนเกี่ยวกับระบบปั้มน้ำของหมู่บ้าน และเรียกพยานบุคคลที่มาช่วยตอนเกิดเหตุ และ บุคคลที่ผู้เสียชีวิต โทรไปหาให้มาช่วยเหลือ และสอบรปภ. ที่เข้าเวร ช่วงเวลาดังกล่าวมาทำการสอบสวน เพื่อหาสาเหตุและหาผู้ที่รับที่รับผิดชอบเหตุที่เกิดขึ้น

ขณะที่ นายอรรถพล ธีระปถัมภ์ ลูกบ้านของหมู่บ้านแห่งดังกล่าว บอกว่า เมื่อคืนนี้ ตอน 23.00 น. ไลน์กลุ่มของหมู่บ้านมีการแจ้งเตือน ว่าอุโมงค์ด้านหน้าหมู่บ้าน ไม่สามารถใช้ได้ เพราะมีน้ำท่วมขัง เนื่องจากปั๊มน้ำเสีย ทำให้น้ำท่วมอุโมงค์จนรถไม่สามารถผ่านเข้า-ออกได้ และตามปกติจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านเฝ้าอยู่ตลอด ส่วนเมื่อคืนไม่แน่ใจว่ามีรปถ.ประจำอยู่ที่ป้อมหรือไม่ โดยที่ผ่านมาอุโมงค์นี้ไม่เคยมีน้ำท่วมสูงขนาดนี้ โดยอาจมีบ้างที่มีน้ำขังระดับปริ่มพื้น เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นก็รู้สึกตกใจ แต่คงต้องระมัดระวังตัวขึ้น คอยสังเกตสิ่งรอบตัว รวมถึงยืนยันว่า ยังใช้ทางนี้ในการผ่านเข้า-ออกอยู่ เพราะเป็นทางที่สะดวกที่สุด ส่วนมาตรการหลังจากนี้ คงปล่อยให้เป็นเรื่องของนิติบุคคล ที่จะไปคุยกัน โดยขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการเร่งสูบน้ำ เพื่อกู้ซากรถ ของผู้เสียชีวิตขึ้นมาตรวจสอบ