ว่อนโซเชียล! ครูชายชวนสยิวโชว์ของลับ เหยื่อผวาลิ้นเลียหน้า ต้นสังกัดสั่งสอบ (คลิป)

จากกกรณีโลกโซเชียลมีการพูดถึงครูชายคนหนึ่ง มีพฤติกรรมล่อลวงนักเรียนชาย เพื่อขอช่วยตัวเองผ่านทางวิดีโอคอล และมีการส่งข้อความไปในทางคุกคามทางเพศกับนักเรียนชาย มีการถ่ายรูปอวัยวะเพศตนเองลงในทวิตเตอร์อีกด้วย

วันที่ 5 ก.ค. 64 ทีมข่าวสอบถามข้อมูลต้นสังกัดของครูคนดังกล่าว ตัวแทนของทางวิทยาลัยให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นเมื่อทราบเรื่อง ทางคณะผู้บริหารได้มีการประชุมทันที ได้ออกหนังสือแถลงการณ์ ระบุว่า "แถลงการณ์วิทยาลัยนาฎศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เรื่องการแสดงความคิดเห็นถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของครูและบุคลากรของวิทยาลัยฯ ในสื่อสังคมออนไลน์

ตามที่ได้มีนักเรียน นักศึกษา ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันได้เผยแพร่ข้อมูลถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของครูและบุคลากรของวิทยาลัยฯ ในสื่อสังคมออนไลน์นั้น วิทยาลัยฯ เมื่อได้ทราบเรื่องดังกล่าวและมิได้นิ่งนอนใจ จึงได้ดำเนินการประชุมหารือในระดับผู้บริหาร และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อหาแนวทางป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีกในอนาคต

หากนักเรียน นักศึกษา ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันมีความปรารถนาดีและรักวิทยาลัยฯ ด้วยใจจริง ขอความ ร่วมมือยุติการกล่าวถึงในสื่อสังคมออนไลน์และขอให้ส่งข้อมูลมาทางวิทยาลัยฯ โดยตรง ทุกคำยืนยันความปรารถาดีและย้ำเตือน จะได้รับการปรับปรุงแก้ไขเพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาวิทยาลัยฯ ต่อไป

อนึ่ง วิทยาลัยฯ ขอขอบคุณนักเรียน นักศึกษา ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันที่มีความปรารถนาดีในการร่วมกันพัฒนาวิทยาลัยฯ อย่างสร้างสรรค์ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ ด้านนาฎศิลป์และดุริยางคศิลป์ผสมผสานกับ วิทยาการที่เป็นสากลให้เกิดความงอกงามทางสติปัญญาสามารถพัฒนาตนเองให้เพียบพร้อมด้วยวิชาการ จริยธรรมและคุณธรรมสืบไป วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
3 กรกฎาคม 2564"

นายออม (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เรื่องราวดังกล่าว เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2554 สมัยที่ตนเองยังเรียนอยู่ที่สถานศึกษาแห่งหนึ่งย่านนครปฐม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตนเองเรียนสาขาโขน วิทยาลัยนาฏศิลป์ ศาลายา รู้จักกับครูจิม (นามสมมติ) เป็นครูสอนซอ และเป็นครูที่สถาบันเดียวกัน แต่ไม่ได้มีการเรียนกับครูจิม ปีแรกที่ตนเองศึกษาอยู่ทุกอย่างก็ปกติดี

จนกระทั่งปี 2555 ครูจิมได้มีการเริ่มส่งข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กของตนเองในลักษณะคุกคามทางเพศ เช่น การขอดูอวัยวะเพศ ข้อความที่ส่อไปในทางลามกอนาจาร รวมถึงยังมีการเคยวิดีโอคอลมาช่วยตัวเองจนสำเร็จให้ดูอีกด้วย ด้วยความที่ตนเองยังเป็นเด็ก ไม่กล้าที่จะบอกใครหรือปฏิเสธ แต่ยอมรับว่าตกใจและกลัวมาก ตนยืนยันว่าไม่ได้มีการทำเพื่อแลกเกรด เพราะตนเองไม่ได้มีการเรียนกับครูจิม

ต่อมาตนเองได้ย้ายจากสถานศึกษาเดิม ออกมาศึกษาที่กรุงเทพมหานคร ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ครูจิมก็ยังมีการส่งข้อความมาเรื่อย ๆ อยู่เป็นประจำ จนกระทั่งปี 2558 ตนเองบังเอิญเจอกับครูจิมที่ห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ ครูจิมบอกว่าให้ตนเองถ่ายรูปให้หน่อยในห้องน้ำ ตนเองก็ยังแปลกใจว่าถ่ายอะไร แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เมื่อเข้าไปในห้องน้ำ ครูจิมก็ยืนอยู่บริเวณหน้ากระจก ตนเองก็เข้าไปในห้องส้วม โดยที่ยังไม่ได้ถ่ายรูปให้ครูจิม จนกระทั่งตนเองออกมาจากห้องน้ำ ครูจิมขอเซลฟี่ด้วย ตนเองก็ตอบตกลง ก่อนที่จะมีการยื่นหน้ามาถ่ายรูปใกล้ ๆ และใช้ลิ้นเลียที่หน้าของตนเอง ขณะนั้นไม่มีใครอยู่ในห้องน้ำ ยอมรับว่าตกใจและไม่กล้าบอกใคร ไม่กล้าแจ้งตำรวจ จนกระทั่งทุกวันนี้

ที่ตนเองออกมาพูดวันนี้ เพราะในโรงเรียนเดิมมีปัญหาหลายอย่างรวมถึงตัวครูจิมด้วย จึงออกมาเปิดเผยเรื่องราว เพื่อที่จะได้หาทางจัดการกับครูแบบนี้ เพราะกลัวว่ารุ่นน้องที่กำลังศึกษาอยู่ก็อาจจะถูกคุกคาม จึงอยากบอกครูจิมว่าถ้าหากมีอารมณ์ก็ไปจัดการด้วยวิธีอื่น ไม่ใช่มาลงกับเด็กนักเรียนแบบนี้

นางสาวส้มโอ (นามสมมติ) อายุ 24 ปี ศิษย์เก่าของสถาบันดังกล่าว เปิดเผยว่า ส่วนตัวไม่เคยถูกล่วงละเมิดหรือคุกคาม แต่ก็ได้ยินมาตลอดว่าครูคนดังกล่าวมีพฤติกรรมดังกล่าวมานานหลายปีแล้ว เช่น มีการส่งภาพอวัยวะเพศไปให้นักเรียนดู หรือขอดูอวัยวะเพศ รวมถึงมีการเผยแพร่เนื้อหาลามกอนามัย ใช้รูปจริงของตัวเองเป็นรูปโพรไฟล์ด้วย โดยเมื่อประมาณปี 2552 รุ่นพี่ของตนเองก็เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศแบบถึงเนื้อถึงตัวกับครูมาแล้ว ครูบังคับให้ใช้ปากกับอวัยวะเพศ โดยเรื่องราวดังกล่าวยังไม่มีการถูกเปิดเผยมาก่อน จนกระทั่งมีการลงโทษย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด 3 ปี และกลับมาอีกครั้งช่วงปี 2555 ก็ยังมาทำพฤติกรรมเช่นนี้อีกกับเด็กหลายคน จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ศิษย์เก่าและรุ่นพี่ที่เคยถูกกระทำจึงมีการพยายามพูดถึงเรื่องนี้

โดยสิ่งที่อยากให้ครูคนดังกล่าวได้รับผิดชอบ คือไล่ออกจากข้าราชการครู เพราะก่อนหน้านี้สถาบันเคยให้โอกาสไปแล้ว แต่กลับมีพฤติกรรมแบบเดิมอีก การทำพฤติกรรมดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม มองว่าครูคนนี้ทำให้เด็กต้องอับอาย และเสียใจมามากเพียงพอแล้ว ขณะที่ศิษย์เก่าหลาย ๆ คนรวมตัวกัน และกำลังรวบรวมหลักฐานมัดตัวครูคนดังกล่าวให้ได้ เพราะปัจจุบันยังมีพฤติกรรมดังกล่าวอยู่