กรณีผู้ใช้เฟชบุ๊กรายหนึ่งได้ร้องเรียนผ่านทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ตัวเองเคยไปแก้กรรมกับปู่ชาญญานทิพย์ แล้วปู่ชาญได้ให้ลงเงินแก้กรรม ไม่อย่างนั้นวิญญาณจะไม่ยอมออกจากร่างนั้น
วันที่ 6 ก.ค. 64 น.ส.น้ำ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตอนนั้นตนป่วยเป็นมะเร็ง ก็หันหน้าเข้าพึ่งธรรมมะ ซึ่งตอนแรกได้มีพี่ที่แนะนำอีกทีว่าหลวงปู่ชาญนั้นของจริง จึงได้ติดตามดูเรื่อย ๆ สักพักตนจึงได้ติดต่อไปยังปู่ชาญ มีการพูดคุยกัน และปู่ชาญทักว่ามีจิตมืดจิตมารหลัง
จากนั้นก็ได้มีการให้ท่องคาถาตามทำนองว่าขอให้องค์บารมีปู่ชาญ ช่วยดลบรรดาลให้ ท่องคาถาเสร็จก็ให้เอามือจิ้มที่หน้าผาก 1 ครั้ง สักพักก็เกิดความสบายใจขึ้นมาเอง หลัง ๆ มาตนก็ไม่หลงเชื่อแล้ว
จนออกจากกลุ่มมา กระทั่งได้มีลูกศิษย์ได้โทรตาม มาบอกว่าให้กลับเข้ากลุ่มไป แต่ต้องเสียเงินให้จำนวน 1,000 บาท และให้เพิ่มเงินอีก 1,200 บาท ตนจึงได้ยอมเสียไป กระทั่งตนก็มารู้ว่าเป็นการโดนหลอก และทุกวันนี้ก็ไม่หลงเชื่อเกี่ยวกับกลุ่มแชร์ลูกโซ่หรือหวยอีกแล้ว
ด้านนางมยุรี สุขกำเนิด ลูกศิษย์ของปู่ชาญ กล่าวว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ร่างกายตัวเองเหนื่อยหอบ หายใจไม่ออก แขนขาอ่อนแรง ไปรักษาแพทย์แผนปัจจุบันที่ไหนก็ไม่หาย พอได้มารักษากับปู่ชาญ อาการต่าง ๆ ในร่างกายของตัวเองก็หายเป็นปลิดทิ้ง โดยตอนที่ตัวเองมารักษา ปู่ชาญได้เชื่อมญาณแก้กรรมให้ตัวเอง โดยการให้ตัวเองนั่งตรงข้ามปู่ และใช้สายสิญจน์ต่อกัน จากนั้นปู่ชาญก็บอกตัวเองว่าในร่างกายของตัวเองมีเจ้ากรรมนายเสรอยู่ข้างใน ปู่ชาญจึงนำน้ำมนต์ทิพย์มาให้ตัวเองดื่มรักษาอาการ โดยกินน้ำมนต์ทุกวัน ประมาณ 1 เดือน ตัวเองก็หาย กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
จากนั้นมาตัวเองก็นับถือปู่ชาญเป็นอาจารย์ประจำตัว ตนขอชี้แจงว่าสำหรับค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการแก้กรรมกับปู่ชาญ ครั้งแรกตัวเองให้ค่าครูไปแค่ 99 บาท จากนั้นก็ไม่ได้ใช้จ่ายค่ารักษาอีกเลย กรณีที่ปู่ชาญมีน้ำทิพย์รักษาโควิด-19 ได้นั้น ตัวเองก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะตนยังไม่ได้ดื่มน้ำมนต์
ทีมข่าวลงพื้นที่มายังสำนักปู่ชาญ ญาณทิพย์ หมู่ 5 ต.ประสุข อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา พบว่าปู่ชากำลังนั่งสวมชุดขาวห่มขาวสภาพขาดรุ่ย วิดีโอคอลไปช่วยเหลือลูกศิษย์รายหนึ่ง จากนั้นพ่อปู่ได้บอกทีมข่าวว่าตัวเองมีญาณทิพย์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาอยู่ด้วยมากมาย ทั้งพระศิวะมหาเทพ หลวงปู่สรวง จนทำให้มีญาณทิพย์ช่วยรักษาคน แก้กรรมต่อรองกับเจ้ากรรมนายเวรได้
ปู่ชาญ เล่าที่มาที่ไปว่าเมื่อปี 2551 ตัวเองทำงานที่ จ.สมุทรปราการ มีผู้ชายมาทักว่าตัวเองเป็นร่างของปู่สรวง ปู่สรวงต้องการประทับร่างตัวเองในการรักษาผู้คน หลังจากนั้นตัวเองก็เริ่มใช้ญาณของหลวงปู่สรวงในการช่วยรักษาคน นอกจากหลวงปู่สรวงแล้ว ยังมีญานอีกหลายองค์ที่มาประทับร่าง ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า พระศิวะมหาเทพ ยักษ์พระเวชสุวรรณโณ และเทพอื่น ๆ จากนั้นตัวเองก็แก้กรรมให้กับชาวบ้านหลายคน
กระทั่งปี 2557 ตัวเองได้ย้ายมาแก้กรรมที่บ้านเกิดในอำเภอชุมพวง จ.นครราชสีมา ถ้าใครมีกรรมเยอะ ตัวเองจะใช้ญาณไปต่อรองให้หายได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคภัยไข้เจ็บใด ๆ โดยไม่ต้องพึ่งแพทย์แผนปัจจุบัน นอกจากนี้ ตัวเองจะมีน้ำทิพย์ มีสรรพคุณเพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงรักษาและป้องกันโควิด-19 ได้
จากนั้น ปู่ชาญให้ทีมข่าวไปซื้อน้ำมา 2 ขวด จากนั้นปู่ชาญได้หยิบน้ำขึ้นมา 1 ขวด ใช้ญาณหยิบขวดที่สะอาดบริสุทธิ์ ถือว่าขวดที่ถูกหยิบมาเป็นน้ำทิพย์เทวดา สามารถนำไปรักษาได้ทุกโรค หลังจากที่ปู่ชาญหยิบขวดน้ำใส่มือแล้วไม่ต้องไปสวดมนต์ ส่วนน้ำอีก 1 ขวดที่ไม่ได้เลือก เพราะมีมนตร์ดำอยู่ในนั้น
จากนั้นทีมข่าวได้สอบถามปู่ชาญถึงกรณีที่มีคนร้องเรียนว่าเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 64 ได้ถูกปู่ชาญหลอกให้แก้กรรม หลังอ้างว่าวิญญาณที่ติดตามตัว ต้องการเงินทำบุญเพิ่มนั้น ปู่ชาญบอกอีกว่าที่ตัวเองต้องแต่งกายชุดขาว สภาพขาดรุ่ยร่าย เพราะต้องการให้คนที่มารักษาเห็นว่าตัวเองเป็นเหมือนคนบ้า สติไม่ดี ส่วนที่มาร้องเรียนไม่เป็นความจริง เพราะหญิงคนดังกล่าวเพิ่งจะมาหาปู่ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. และหญิงคนดังกล่าวมาด้วยอาการปวดหลัง ปู่ชาญจึงแก้กรรมให้ แต่ตอนแรกแก้ไม่หาย ปู่จึงบอกว่าลองทำบุญเพิ่ม เพราะบุญหมั่นทำกรรมหมั่นแก้ แล้วปรากฏว่าหายจริง ๆ และไม่เคยไปพูดชักชวนให้มา แต่หญิงคนดังกล่าวมาหาเอง แบบนี้จะเรียกว่าหลอกลวงได้อย่างไร และยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ใบ้หวยในกลุ่มไลน์ แค่บอกตัวเลขให้ลูกศิษย์ไปเสี่ยงดวงกันเองเท่านั้น ส่วนเรื่องที่อ้างว่ารู้จักกับหมอปลา และหมอปลามักจะนั่งทางใน ส่องดูปู่ชาญอยู่เป็นประจำนั่น ในวันพรุ่งนี้หมอปลา จะลงพื้นที่มาที่สำนักปู่ชาญ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง
จากนั้นปู่ชาญ ทดสอบพลังงานบวก-ลบในร่างกายของผู้สื่อข่าว บอกว่าในร่างกายของคนเราจะมีพลังงานลบทำเกิดความเจ็บป่วย ซึ่งปู่ชาญทดสอบด้วยการ ให้เอาแขนขวายื่นออกมา พร้อมกับเกร็งแขนไว้ แล้วปู่ชาญจะใช้มือของตัวเองกดแขนด้านขวา ถ้าหากกดลงแสดงว่ามีพลังลบในร่างกาย ถือว่ามีเจ้ากรรมนายเวร
หลังจากนั้น ปู่ชาญได้ทดลองครั้งที่ 2 โดยให้ทีมข่าวระลึกถึงปู่ชาญ อ้างว่ารอบที่สองนี้มีการเชื่อมญาณของหลวงปู่สรวงแล้ว ปู่ชาญยังบอกอีกว่าถ้าใช้มือของปู่ชาญกดลงไปรอบที่ 2 นี้ จะกดไม่ลงเพราะมีการสื่อสารญาณเข้าไปรักษาทีมข่าวแล้วนั้น กระทั่งปู่ชาญได้สอบรอบที่ 2 โดยให้ทีมข่าวเกร็งแขนเหมือนรอบที่ 1 โดยการกดแขนด้านขวาของทีมข่าว ก็ปรากฏว่ากดแขนทีมข่าวไม่ลง ให้เหตุผลว่าที่กดไม่ลงเพราะว่าญาณได้เข้าไปรักษาทีมข่าวแล้ว