จากกรณี น.ส.ผ่อง อายุ 26 ปี ชาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ร้องเรียนสื่อมวลชนหลังถูกอดีตสามี คือนายจักรพันธ์ อายุ 29 ปี ซึ่งคบหากันมานานกว่า 3 ปี ทำร้ายร่างกายปางตายจนแท้งลูกคนแรก แต่หลังตั้งท้องลูกคนที่ 2 ก็จับได้ว่า อดีตสามีไปคบหญิงอื่นจึงขอเลิก แต่กลับถูกทำร้ายร่างกาย จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 64 ให้ดำเนินดคีกับอดีตสามีอย่างถึงที่สุด เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.55 น. ของวันที่ 23 มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา
ภาพกล้องวงจรปิด บันทึกภาพขณะที่นายจักรพันธ์ทำร้ายร่างกายนางสาวผ่อง นายจักรพันธ์เดินมาต่อย ตบ และเตะ นางสาวผ่อง โดยมีกระชากตัวและกระชากผม จนนางสาวผ่อนสลบ จากนั้นยืนเจรจากันจนมีการเตะนางสาวผ่องอีกครั้ง แล้ววิ่งหนีไป
วันที่ 6 ก.ค. 64 นางสาวผ่อง อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนคบหากับนายจักรพันธ์ วงค์สายะ ผู้ก่อเหตุ ได้ประมาณ 3 ปี ซึ่งนายจักรพันธ์ถูกดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดติดคุก 1 ปี 6 เดือน จนกระทั่งออกจากคุก ก็กลับมาอยู่ด้วยกัน ที่ผ่านมามีปากเสียงกันบ่อย เพราะนายจักรพันธ์ชอบออกจากบ้านไปหาเพื่อน ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตนห้ามไม่ให้ไปก็ถูกทำร้ายร่างกายในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้วยการถูกตบและเตะบริเวณท้อง ขณะนั้นตนกำลังตั้งท้องได้ 3 เดือน จึงให้มีการแท้งลูก แต่ก็เพราะรักเลยให้อภัย และกลับมาอยู่กันเหมือนเดิม แต่ก็เริ่มห่างกันเพราะนายจักรพันธ์จะไปอยู่บ้านเพื่อนบ่อย
กระทั่งล่าสุดวันที่ 22 มิ.ย. 64 นายจักรพันธ์ตั้งสถานะแต่งงานในเฟซบุ๊กกับผู้หญิงใหม่ ตนก็คิดอยู่แล้วว่าต้องมีผู้หญิงคนใหม่ จึงตัดสินใจบอกเลิก ต่อมา 23 มิ.ย. 64 เวลาประมาณ 02.00 น. ตนขับรถจักรยานยนต์มาจากบ้านเพื่อน ก็เห็นนายจักรพันธ์ยืนดักรออยู่ที่จอดรถ จากนั้นนายจักรพันธ์ก็ตบและเตะตนคารถจักรยานยนต์ และกล่าวหาว่าตนไปแจ้งตำรวจให้มาจับเรื่องยาเสพติด เพราะแค้นที่ถูกนอกใจ แต่ตนไม่ได้เป็นคนแจ้งความ ตนจึงวิ่งหนี แต่นายจักรพันธ์ก็วิ่งตาม กระชากหัวตนออกมาที่ลาดจอดรถแล้วตบ เตะ จนสลบ ตนรู้สึกตัวขึ้นมาก็พยายามขอโทษ เพราะยังรัก และกำลังท้องลูกคนใหม่ 2 เดือน แต่นายจักรพันธ์ก็ไม่สนใจ
จากนั้น ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมทั้งเรียกค่าเสียหาย 100,000 บาท เพื่อเป็นค่าเลี้ยงดูบุตรในขณะอุ้มท้อง แต่ฝ่ายชายปฏิเสธ ตนยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ถึงแม้ว่าในวันพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไกล่เกลี่ยอีกครั้งก็ตาม ซึ่งตนมั่นใจว่านายจักรพันธ์จะไม่มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะกลัวเรื่องของยาเสพติด
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ติดต่อไปยังนายจักรพันธ์ บอกว่าไม่สะดวกให้ข้อมูล และพร้อมเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่าไม่หลบหนี