"เก๋ เลเดอเรอร์" ฆ่าตัวตาย เพื่อนรับไม่ใช่ครั้งแรก ป่วยซึมเศร้า เครียดปม 11 ล้าน (คลิป)

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 61 น.ส.กันยกร ศุภการค้าเจริญ หรือ เก๋ เลเดอเรอร์ นางแบบเซ็กซี่ อายุ 30 ปี พลัดตกจากคลินิกชั้น 3 ของตัวเอง ภายในซอยร่วมน้ำใจ แยก 4 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ และถูกนำส่ง โรงพยาบาลลาดพร้าว และจากการตรวจสอบภายในห้องพัก พบยาฆ่าหญ้า เปื้อนอยู่บนพื้นห้องน้ำและในห้องนอน ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ก.ย. 61) เก๋ได้เสียชีวิตลงแล้ว

แพทย์โรงพยาบาลลาดพร้าว เผยว่า ผู้ตายมีอาการบาดเจ็บจากบาดแผล ตกจากที่สูง และภายในร่างกายพบว่ามีสารพิษ ซึ่งอยู่ในอาการสาหัส จากนั้น เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.30 น. ได้เสียชีวิตลง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งศพไปที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง

วันที่ 9 ก.ย. 61 คุณเอ (นามสมมติ) เพื่อนบ้านของเก๋ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนนั่งรวมกับกลุ่มกับเพื่อนอยู่ที่ม้าหิน ตรงข้ามกับคลินิกดังกล่าว ได้ยินเสียงแม่บ้านของคลินิกตะโกนว่า "ช่วยด้วย ๆ" ตนและเพื่อนจึงรีบพากันไปดู ในตอนแรกคิดว่าเก๋แค่เป็นลม เพราะได้ยินมาว่า เก๋ทำงานหนักทุกวัน แต่เมื่อเข้าไปด้านใน ตนก็รู้สึกขนลุกซู่ เหมือนมีสัมผัสได้ว่า เก๋น่าจะเสียชีวิตแล้ว เมื่อเจอร่างของเก๋ ตนเห็น หน้าซีดเขียว มีน้ำสีเขียว ๆ ไหลออกทางจมูก ขณะที่เก๋ก็ไม่รู้สึกตัวใด ๆ แล้ว คุณเอ ระบุว่า นิสัยใจคอของเก๋ เป็นคนน่ารัก ไม่หยิ่ง ดูสดใส ไม่น่าจะมีเรื่องเครียดที่จะทำให้คิดสั้นได้ ซึ่งทุกคนก็ช็อก และไม่อยากจะเชื่อ และยังเสียดายคลินิกที่เพิ่งจะเปิดใหม่ได้ไม่ถึงปีของเก๋ด้วย

สำหรับบรรยากาศที่วัดนวลจันทร์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายสิบนาย ยืนล้อมบริเวณศาลาทำพิธี และทางญาติก็ได้นำฉากกั้นมาติดตั้งล้อมรอบศาลา โดยบอกว่า ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไปได้ โดยวันนี้ มีพิธีรดน้ำศพในช่วงเวลา 16.00 น. และสวดพระอภิธรรม ในเวลา 19.00 น. ซึ่งจะประกอบพิธี 5 วัน และฌาปนกิจศพในวันเสาร์ ที่ 15 ก.ย. 61 เวลา 16.00 น.

นายธีรศักดิ์ พันธุจริยา หรือ โก้ เปิดเผยว่า ตนได้คุยกับเก๋ก่อนเสียชีวิต ตนก็รู้สึกใจหาย เพราะเพิ่งได้ถ่ายรายการด้วยกัน แค่ 1 วัน ก่อนที่เก๋จะเสียชีวิต โดยวันที่อัดรายการ มีลางบอกเหตุ ที่เก๋พูดว่า "จะพูดที่นี่ที่เดียว ที่แรกและที่สุดท้าย และจะไม่พูดอีกต่อไป" ทั้งนี้ สำหรับเรื่องเงินที่เก๋มาปรึกษาตนว่ามีคนยืมไป 11 ล้านบาทนั้น เก๋บอกว่าจะไม่ขอใช้ชื่อ เลเดอเรอร์ อีกต่อไปแล้ว ซึ่งรายละเอียดตนไม่ขอพูดถึง ให้ไปฟังในรายการเอง ถ้าได้ออกอากาศ ซึ่งจะได้ออกอากาศหรือไม่นั้น ต้องให้ทางครอบครัวตัดสินใจอีกครั้ง ในส่วนของสาเหตุการจบชีวิตของเก๋ ตนก็ไม่ทราบ แต่อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ หากคนที่อยู่ข้างกายไม่สบายใจ เราต้องดูแลกันเยอะ ๆ ส่วนสภาพจิตใจของทางครอบครัวเก๋ ตอนนี้ก็ร้องไห้กันตลอด อีกทั้ง เก๋เป็นเสาหลักของบ้าน ธุรกิจที่ลงทุนไปก็หลายสิบล้าน เก๋ตั้งใจมาก ถึงขนาดกับไปเรียนหมอ เพื่อดูแลลูกค้า โดยผู้ร่วมหุ้นอีกหลายคน ซึ่งตนไม่เคยคิดว่าเก๋จะจบชีวิตตัวเองแบบนี้ เพราะเก๋เป็นคนเข้มแข็ง ยอมรับว่าตกใจมาก ตนก็รู้ว่าภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเก๋ เขาทุกข์ แต่ก็ไม่รู้ว่าทุกข์มาก และไม่อยากรู้ว่าเก๋ตายเพราะอะไร เพราะรู้ไปก็เท่านั้น แก้ไขอะไรไม่ได้ แต่เก๋ก็จะอยู่ในใจเราตลอดไป

กมลวรรณ ศรีวิไล หรือ แอล เพื่อนสนิทของเก๋ เปิดเผยว่า ตนติดต่อพูดคุยกับคุณเก๋ครั้งสุดท้าย เมื่อ 4 วัน ก่อนเกิดเหตุ ตอนที่ไปทำผิวที่คลินิคของเก๋ โดยเก๋มักจะโทรชวนให้ตนไปหาที่ร้าน เจอกันครั้งล่าสุด เก๋ก็เฮฮา ร่าเริง เป็นปกติ ทุกครั้งที่เจอกัน เก๋จะไม่มีเรื่องเครียด แต่เก๋มักจะบ่นว่าเหนื่อย เพราะไม่ค่อยได้พัก ไม่ค่อยได้ไปเจอเพื่อน ๆ ต้องทำงานเยอะมาก ต้องดูแลร้าน เหมือนเก๋จะเป็นคนที่ทำโปรเจกต์ใหญ่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งคงต้องแบกภาระไว้เยอะ ไม่ได้ปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ มากนัก แต่เก๋จะอยู่คนเดียว จะทำงานตลอด ส่วนประเด็นที่เก๋อาจจะมีปัญหาเรื่องเงินนั้น ตนคิดว่าไม่น่าจะมี ส่วนเรื่องที่มีคนยืมเงินเก๋ไป 11 ล้านนั้น ตนก็ไม่ทราบ ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่าเก๋มีปัญหากับ เอิร์ก เลเดอเรอร์ น้องชายนั้น เท่าที่ทราบคือเอิร์กไม่ใช่น้องชายแท้ ๆ ของเก๋ แต่เรื่องปัญหา เก๋ยังไม่ทันได้เล่าก็เสียชีวิตไปก่อน เพราะจริงแล้วเก๋นัดเจอกับตนและกลุ่มเพื่อนในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ย. 61) เพื่อเคลียร์กัน ทั้งนี้ ตนไม่อยากลงลึกรายละเอียดถึงบุคคลที่ 3 เพราะตนไม่ทราบเรื่องว่าต้นสายปลายเหตุคืออะไร แต่เก๋เคยพูดว่า "เก๋ไม่ได้คุยกับเอิร์กแล้ว" แต่ไม่ได้บอกเหตุผล

แอล กล่าวต่อว่า ความสัมพันธ์ของเก๋และเอิร์ก ที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย และไม่น่าจะเกี่ยวกับการไม่ลงรอยกัน เพราะเก๋เป็นโรคซึมเศร้ามาประมาณ 3-4 ปีแล้ว เก๋เคยไปพบจิตแพทย์ และก่อนหน้านี้คิดจะฆ่าตัวตายหลายครั้งแล้ว ประมาณ 3 ครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ ทุกครั้งคนที่คลินิกจะทราบเรื่องก่อนเสมอ และจะช่วยไว้ได้ทัน ทั้งนี้ ตนอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ คนที่เป็นโรคซึมเศร้า ต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ตนยอมรับว่า เก๋ขาดการไปหาหมออย่างสม่ำเสมอ อาจจะเครียดมากจนหาทางออกไม่ได้ เก็บความคิดความเครียดไว้คนเดียว