เจอแล้ว! กระบะสาวถูกฆ่าหมกป่าชิงเงินแสน ผัวสงสัยก๊วนไฮโล อึ้งรอยเลือดโผล่วัดใกล้จุดเจอศพ (คลิป)

จากกรณีนางกันนิกา จำปา อายุ 44 ปี หายออกจากบ้านในพื้นที่ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 9 ก.ค.64 เวลา 7.30 น. ขับรถยนต์กระบะวีโก้ สีบรอนซ์เทา พร้อมเงินสดราว 1 แสนบาท เพื่อไปซื้อสินคามาขายที่ร้านชำ แต่หายตัวไป ครอบครัวไปแจ้งความที่ สภ.ย่อยพระลับ ก่อนมาเจอกลายเป็นศพถูกทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทาง ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ท้องที่ สภ.บ้านฝาง นั้น

วันที่ 12 ก.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่พบศพ ครอบครัวนิมนต์พระครูพิริยะ สาระคุณ พระวัดมิ่งโพธิ์วนาราม สถานที่จะตั้งสวดอภิธรรม มาเชิญวิญยาณ ซึ่งขณะนี้ยังรับศพไม่ได้ เป็นช่วงที่ญาติกำลังทำพิธี นำโดยนางศิริวิภา คำค้อ ลูกสาวคนโต และญาติ ระหว่างพิธีได้มีการนำของเส้นไหว้จุด 2 จุด จุดพบศพมีกล้วย 1 หวี ข้าว 1 กล่อง ขนม น้ำ จุดธูป 1 ดอก อีกจุดวางไหว้เจ้าที่ มีกล้วย 1 หวี น้ำอัดลม 2 ขวด ข้าวเหนียว 1 ห่อ จุดธูป 16 ดอก

พระครูพิริยะ นำสวด พร้อมให้ครอบครัวกรวดน้ำถึงคนตาย โดยญาติร้องตะโกนเรียกผู้ตายว่าให้กลับบ้าน พร้อมขอให้เจ้าที่เจ้าทาง ที่มีการดึงดวงวิญญาณไว้ ให้ปลดปล่อยดวงวิญญาณกลับบ้าน ขออย่ากักขังไว้ ให้ลูกหลานได้ทำบุญให้กับผู้ตาย

หลังจากนั้น นางวิไล อดีตภรรยาของสามีผู้ตาย พูดด้วยเสียงสั่นเครือ พร้อมญาติว่า "กลับบ้านเรานะ" และนำผ้าขาวม้าห่อลมตรวจจุดพบศพ เป็นการดึงดวงวิญญาณกลับบ้าน

พระครูพริยะ ผู้นำทำพิธี เปิดเผยว่า การทำพิธีนี้ถือเป็นประเพณีความเชื่อที่ทำต่อกันมาเพื่อนำดวงวิญญาณกลับบ้าน การทำวันนี้เพื่อความสบายใจของคนในครอบครัว ที่ถือกันว่าดวงวิญญาณจะได้กลับบ้าน

จากนั้น ครอบครัวได้เดินทางโดยรถ 2 แถวกลับบ้าน ระยะ 28 กิโลเมตร ตลอดทางมีการเรียก บอกทางซ้ายขวากับดวงวิญญาณ พร้อมโปรงเงินเหรียญเชื่อเป๋นการซื้อเส้นทางกลับบ้าน จังหวะหนึ่งก่อนถึงบ้าน พบว่าธูปที่ถือมานั้นเกิดดับ ครอบครัวได้ร่วมกันจุดใหม่ และมีการบอกทางผู้ตายอีกครั้ง เพราะกลัวดวงวิญญาณจะหลงทาง

เมื่อมาถึงวัด ลูกสาวผู้ตายเดินกอดห่อผ้าไปที่หน้าโรงเย็น ซึ่งตั้งรอศพ โดยมีการตั้งรูปถ่ายคนตายแล้ว จากนั้นมีการคลี่ผ้าออก พร้อมบอกให้แม่นั้นมาอยู่ที่นี่ก่อน ก่อนจะนำผ้าขาวม้าผืนดังกล่าวพาดแขวนไว้ที่รูปภาพผู้ตาย เพื่อถือเป็นการเชิญวิญญาณผู้ตายกลับมา  ก่อนจุดธูป 1 ดอกบอกกล่วงดวงวิญญาณ

นายภานุวัฒน์ เสาทอง สามีผู้ตาย เดินทางมาที่หน้าโรงเย็น เปิดเผยว่า วันที่ภรรยาหายไปไม่ได้คุยกับตนเลย ซึ่งปกติจะเรียกตน วันนั้นค่อนข้างแปลก ตนเองนอนหลับไม่รู้เรื่อง จนกระทั่งตื่นมาช่วง 8 โมงกว่าพบภรรยาหายไป ซึ่งตนเองโทรศัพท์หา 3 สาย ยังโทรติด แต่ไม่มีคนรับ หลังจากนั้นตนเองโทรเป็นอีก 10 สาย โทรไปไม่ติดแล้ว ตนเองจึงออกตามหา

ส่วนภรรยาเป็นคนชอบเล่นการพนัน เล่นตามบ้านคน ย้ายไปเรื่อย แต่ตนเองไม่รู้ว่าภรรยาเล่นที่ไหน ส่วนตัวไม่ค่อยยุ่ง หากตนพูดก็จะทะเลาะกัน บางครั้งเอาเงินไปให้คนในวงพนันยืมบ้าง ตนเองทราบว่ามีผู้ชายเสียงใหญ่โทรหาภรรยาตนก่อน ไม่รู้เป็นใคร ตนเชื่อว่ามีการลวงไปฆ่าแน่นอน ส่วนใครเป็นคนทำตนเองไม่รู้ ยอมรับว่าเป็นห่วงแฟนมาตลอด ไม่ได้คิดว่าแฟนจะตายจากไป ตนตั้งใจโทรสอบถามว่าผู้ตายไปไหน จะฝากซื้อของ ตนเองจึงออกตามหาตามร้านค้าทุกร้าน ไม่มีร้านไหนเห็นภรรยาตนเองเลย ส่วนตัวสงสัยว่าภรรยาไปไหน จึงมาคิดว่าหลอกไปฆ่าหรือไม่

เรื่องชู้สาวตนเองไม่รู้เลย เท่าที่รู้ไม่ได้มีปัญหาเรื่องนี้ ตนคิดว่าภรรยาไม่ได้มีศัตรู แต่เป็นคนพกเงินเยอะ คนอาจจะเห็น บางครั้งรับจำนำรถจักรยานยนต์ โทรศัพท์มือถือเอาไว้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องไหม ตนเองคบกับภรรยามา 8 ปีแล้ว ก็เจอกันในวงไฮโล จึงได้รู้จักภรรยา ตนรักภรรยามา ภรรยาเป็นคนอัธยาศัยดี อยากบอกว่าตนเองคิดถึง ห่วงภรรยาตลอด ไม่คาดคิดภรรยาจะถูกกระทำหนักขนาดนี้

นอกจากนี้ ตำรวจสืบสวนและตั้งข้อสันนิษฐาน 3 ปมด้วยกันคือ เรื่องเงิน ชู้สาว และหนี้สิน

ทีมข่าวเดินทางมาที่ร้านค้าที่คาดว่านางกันนิกามาซื้อของ ซึ่งมี 3 ร้าน ร้านที่ 1 คือ ร้านสินไทยพาณิชย์ ในตัวเมืองขอนแก่น ห่างบ้านผู้ตาย 8.2 กม. ซึ่งนางกันนิกามักมาซื้อขนม ของใช้สำหรับขาย ส่วนเหล้าเบียร์จะซื้อร้านอื่น ร้านเปิดจันทร์-เสาร์ เวลา 08.00-18.00 น.

พนักงานร้านระบุว่าหากตรวจสอบรายชื่อการซื้อสินค้าสามารถดูได้ แต่หากจ่ายเงินสด จะไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นใคร ซึ่งตรวจสอบไม่พบชื่อผู้ตาย รวมถึงชื่อร้านค้าของผู้ตาย

นางชญวรรณ ดวงเตชะ พนักงานแคชเชียร์ เปิดเผยว่า ตนเองเคยเห็นหน้าของผู้ตาย เป็นลูกค้าที่ร้าน เคยมาซื้อของที่ร้าน มักจะซื้อของใช้ต่าง ๆ ประมาณ 1 รถเข็น รถที่ใช้มักเป็นรถยนต์ เท่าที่จำได้มาซื้อของอาทิตย์ละ 3 ครั้ง แต่วันที่ 9 ก.ค. ตนเองไม่แน่ใจว่าผู้ตายมาไหม เนื่องจากลูกค้าเยอะ จึงจำไม่ได้ ผู้ตายจะไม่เป็นสมาชิก โดยจ่ายเงินเป็นเงินสด เพราะตนเคยถามผู้ตายเคยบอกว่าไม่มีสมาชิก ผู้ตายเป็นลูกค้าที่จะมาซื้อของเอง ไม่ได้โทรสั่งสินค้า ซึ่งหากลูกค้าประจำโทรสั่งของนั้น พนักงานที่รับสายจะเป็นผู้หญิง ไม่มีพนักงานผู้ชาย

นางอาทิตยา เลพล และ นางดารา หมายมี แคชเชียร์แผนกเหล้าบุหรี่ เปิดเผยว่า ส่วนตัวจำหน้าผู้ตายได้ แต่ไม่มั่นใจในวันที่ 9 ก.ค.ว่ามาซื้อของหรือไม่ ตนเองเคยคิดเงินให้ผู้ตาย เนื่องจากเคยมาซื้อบุหรี่จำนวนไม่มาก แต่เหล้าเบียร์ไม่เคยมาซื้อที่นี่ ยอมรับว่าตกใจหลังเห็นข่าวว่าเป็นลูกค้าที่ร้าน

ทีมข่าวเดินทางมา ร้านที่ 2 คือ ร้านขายส่งเครื่องดื่ม ริมคลองชลประทาน ห่างจากบ้านผู้ตาย 6.8 กม. พบกับเจ้าของร้าน ให้ข้อมูลสั้น ๆ ว่า ตำรวจเข้ามาตรวจสอบวงจรปิดแล้ว ไม่พบว่าผู้ตายเข้ามาที่ร้าน แต่ยอมรับผู้ตายเป็นลูกค้าที่นี่จริง

ร้านที่ 3 คือ ร้านขอนแก่นพาณิชย์ ใกล้บ้านผู้ตายที่สุด ห่างจากบ้านผู้ตาย 600 เมตร น.ส.ปุณญรัตน์ พนักงานของร้าน เปิดเผยว่า วันที่ 9 ก.ค. 64 ยืนยันผู้ตายไม่ได้เข้ามาที่ร้าน

ดูจากระบบซื้อสินค้า พบผู้ตายมาร้านครั้งล่าสุด 6 ก.ค. ปกติผู้ตายจะมาซื้อเอง ไม่เคยโทรมาสั่งสินค้าที่ร้าน ส่วนตัวก็เป็นลูกค้าร้านของผู้ตาย ไปอุดหนุนเกือบทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. ก็ยังแปลกใจว่าผู้ตายทำไมหายไป ไม่เข้ามาซื้อของที่ร้านอีก

ทีมข่าวเดินทางมาพบที่เกิดเหตุ เลยจากที่เกิดเหตุมีอาคารที่พัก เป็นวัดป่าบุญทันตา ในพื้นที่หมู่ 10 ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง ซึ่งเดินทะลุกันได้ ห่างจากจุดพบศพราว 100 เมตร จะเจอกับห้องน้ำที่มีหลายห้อง ห้องสุดท้ายพบมีรอยเปื้อนน้ำสีแดง คล้ายเลือด เป็นลักษณะอุ้งฝ่ามือของมนุษย์หรือไม่นั้น

ทีมข่าวเดินเข้าไปในวัด พบกับพระลูกวัด 1 รูป เปิดเผยว่า อาตมาพักอยู่ที่กุฏินี้ เพิ่งทราบข่าวเมื่อเช้า กุฏิอาตมาห่างจากที่พบศพราว 300-400 เมตร ไม่ได้ยินเสียง หรือมีความผิดปกติ

ทีมข่าวนำรูปภาพคนตาย รูปรถกระบะ ให้หลวงพ่อดู ระบุว่าช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ไม่พบคนตาย ไม่พบรถ และไม่มีใครแปลก ๆ เข้ามาในพื้นที่ ส่วนรอยมือที่หน้าประตูห้องน้ำ อาตมาไม่แน่ใจว่าคือรอยอะไร เพราะจุดนั้นไม่ค่อยได้เดินผ่านไป

ทีมข่าวได้เบาะแสกล้องวงจรปิด พบว่ามีชายสวมเสื้อสีแดง ขับขี่รถยนต์กระบะผู้ตายออกจากพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น

มุมที่ 1 เป็นภาพวันที่ 10 ก.ค.64 ช่วง 15.24 น.พบรถคันที่ผู้ตายใช้ถูกขับโดยชายเสื้อแดง เป็นเสื้อยืดแขนสั้น ลักษณะเปิดกระจกข้าง มุมที่ 2 เป็นช่วงเวลาเดียวกัน ชายคนเดิมขับผ่านกล้องไป มุมที่ 3 เป็นช่วงเดียวกัน เห็นรถ ทะเบียนรถชัดเจน

ทีมข่าวเดินทางมาที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ห่างบ้านผู้ตายราว 10 กิโลเมตร บ้านของ นาย ส. พบว่าบ้านไม่มีคนอยู่ ทีมข่าวได้เจอ นางอ้อน (นามสมมติ) ญาตินาย ส. เปิดเผยว่า นาย ส. ปกติจะไม่อยู่บ้านประจำ มักออกไปข้างนอก แต่หากอยู่บ้านก็จะอยู่แต่ในบ้าน ไม่ค่อยออกมา เท่าที่จำได้ เห็น นายส. ครั้งสุดท้ายราว 2-3 วันก่อน จากนั้นก็หายไปเลย นาย ส.มักไม่นอนบ้าน ตนไม่รู้ไปที่ไหน

นาย ส. ปกติรับต้างขับรถตู้ ล่าสุดเห็นขับรถตู้เข้ามาจอด ก่อนจะออกไป โดยขับรถจักรยานยนต์ จากนั้นก็ไม่เห็นอีก ส่วนตัวไม่ค่อยได้คุยกับ นาย ส. เขาเป็นคนขับรถดี มักมีคนจ้างไปหลายที่ ส่วนตัวไม่ทราบข่าวที่เกิดขึ้น ตนเองไม่เคยเจอ นางกันนิกาเข้ามาที่บ้า นรถกระบะคันที่เป็นข่าวทีมข่าวนำให้ดูก็ไม่พบเช่นกัน ตนเองไม่ทราบว่า นาย ส. มีปัญหาเรื่องเงินไหม นิสัยเป็นคนพูดเสียงดัง ไม่มีพิษมีภัย ไม่เคยมีคดี ตนเองไม่เชื่อหากจะเกี่ยวข้องกับคดีการตาย

โดยระหว่างนั้นพบเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดขอนแก่นลงพื้นที่บ้าน นาย ส. มาสอบถามรายละเอียด เนื่องจากมีหลักฐานเชื่อมโยงถึง และมีบุคคลอื่น ๆ ด้วย ขณะนี้ยังไม่ยืนยันว่าบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการตาย

นางแจ๋ว (นามสมมติ) ชาวบ้านในชุมชน เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่าผู้ตายเล่นพนันกับตนจริง จะไปเล่นตามบ้านของคนในวง ไม่ซ้ำที่ จะนัดหมายกันไป เล่นราว 7-8 คน ไม่ใช่บ่อน โดยครั้งล่าสุดที่ไปเล่นคือเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ผู้ตายได้เงินจากการเล่นราว 2-3 พันบาทก็ขอตัวกลับบ้าน ส่วนเรื่องเสียงที่โทรหาผู้ตายนั้น เท่าที่ตนทราบจากครอบครัวผู้ตาย เป็นชายที่เคยเล่นพนันด้วยกัน ชื่อย่อ ส. เพราะครอบครัวผู้ตายจำน้ำเสียงได้

เบื้องต้น นาย ส. ก็เคยมาที่บ้านของผู้ตาย แต่ไม่รู้มีปัญหาอะไรไหม เท่าที่ทราบเขาายไม่ได้ติดหนี้ หรือมีปัญหากับคนตาย ตนเองคิดว่าปมการชวนไปซื้อเบียร์ น่าจะเป็นเหตุทำให้นางกันนิกาเสียชีวิต ไม่แน่ใจในรายละเอียด ทังนี้ นาย ส. เป็นคนตัวใหญ่ พูดจาแรง เวลาเป็นหนี้ในวงพนัน หากไม่มีเงินก็หนีหายไป