จากกรณีโลกโซเชียลได้มีการแชร์คลิปหนุ่มไลน์แมน กำลังตะโกนต่อว่าพนักงานสาวร้านไอศกรีม ด้วยถ้อยคำที่เสียงดังลั่นร้าน สร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนที่ผ่านไปมา ซึ่งหนุ่มไลน์แมนมีท่าทีกำลังโมโหอย่างมาก อ้างว่าพนักงานขอดูโทรศัพท์มือถือเพื่อดูยอดรายการสินค้า แต่เกิดทำโทรศัพท์ร่วงจนได้รับความเสียหายนั้น
วันที่ 13 ก.ค. 64 พนักงานหญิงร้านไอศกรีม เปิดใจเล่าว่า เหตุการณ์เกิดเมื่อวานนี้ มีออร์เดอร์ของไลน์แมนเข้ามาที่ร้าน จากนั้นชายคู่กรณีได้เข้ามา ตนจึงได้ขอดูเลขออร์เดอร์ตรงตามคิวหรือไม่ ขอดูหน้าจอโทรศัพท์ ชายคนดังกล่าวตอบรหัสกลับมา ตนจึงขอดูโทรศัพท์เพื่อเช็กว่ารหัสที่หน้าจอตรงกันหรือไม่ เพราะเป็นมาตรการของทางร้าน แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้จับโทรศัพท์ผู้ชายคนนั้น
จากนั้นโทรศัพท์เกิดร่วงลงที่เคาน์เตอร์เสียงดัง ตอนนั้นชายคู่กรณีไม่พอใจและเริ่มโวยวาย ตนก็ขอโทษ แต่ทางคู่กรณีกลับยิ่งตะเบ็งเสียงใส่เป็นไปตามคลิป ช่วงเกิดเหตุน่าจะประมาณ 1 นาทีนิด ๆ ก่อนที่เขาจะรับของแล้วออกไป โดยโทรศัพท์ของเขาไม่ได้รับความเสียหาย เพราะเห็นเขาได้เลื่อนดูหน้าจออยู่ แต่คิดว่าคงโมโหว่ายื่นมาให้แล้วตนไม่รับ เพราะเจตนาของตนก็ไม่คิดจะหยิบโทรศัพท์มือถือของเขา มองว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะร่วงจากมือของเขาเอง
ด้านนายสพล เลิศชัยพิพัฒน์ อายุ 26 ปี หนุ่มไลน์เดอร์ที่อยู่ในคลิป เล่าว่า พนักงานร้านไอศกรีมถามรหัสออร์เดอร์ พร้อมขอดูรหัส โดยตนก็ได้แจ้งไป แต่ทางพนักงานเหมือนไม่เชื่อ แล้วอ้างว่ารหัสซ้ำกัน เป็นไปไม่ได้ที่รหัสจะซ้ำ เพราะในออร์เดอร์จะมีรหัสและชื่อคนขับอยู่แล้ว ทางร้านตรวจสอบได้หรือถามชื่อได้ ไม่จำเป็นต้องขอดูแบบนี้ มองว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เมื่อทางพนักงานดื้อดึงจะดู ตนก็ยื่นโทรศัพท์ให้ดู จากนั้นเมื่อยื่นให้คิดว่าเขาจะรับโทรศัพท์ไป แต่เขากลับไม่รับ แล้วทำให้โทรศัพท์ตนร่วงบนเคาน์เตอร์ แล้วมีพนักงานคนอื่นออกตัวขอโทษแทน
นายสพล ยอมรับว่า จากเหตุดังกล่าวทำให้ตนรู้สึกฉุนเฉียว แล้วมีอารมณ์ไม่พอใจ แม้โทรศัพท์ตนราคาจะไม่แพง แต่มีคุณค่าทางจิตใจ เปรียบเสมือนพระองค์หนึ่ง ต่อให้เราจับมาราคาถูก แต่พอนำมาขายราคาแพงได้ เพราะมีคุณค่าทางจิตใจ อยากให้รู้ถึงใจเขาใจเรา ไม่ใช่จะพูดง่าย ๆ รู้ว่าน้องพนักงานร้านไอติมขอโทษ แต่อยากจะถามว่าขอโทษว่าจากใจจริงไหม ตอนนี้ตนได้รับความเสียหาย โดนแอบถ่ายคลิป โดนประจาน โดนคนต่อว่า ทั้งเพื่อน ครอบครัว คนสนิท ตนไม่รู้จะทำเช่นไร เพราะตอนนี้ทางบริษัทก็แบนตนแล้วเป็นเวลา 14 วัน ขาดรายได้ไปวันละ 700-800 บาท ซึ่งตนมีค่าใช้จ่ายต่อวัน ทั้งใช้หนี้นอกระบบ 200 บาท/วัน ค่ากินใช้วันละ 100 บาท เติมน้ำมันอีกวันละ 100 บาท เหลือต่อวันประมาณ 200-300 บาท
หลังจากนี้ ก็จะดูอีกทีว่าจะทำอะไรต่อไป อาจจะไปขายของมือสอง ของที่มีอยู่ในบ้าน ลองดูว่าจะขายได้ไหม ส่วนโทรศัพท์ตนก็มีแผ่นฟิล์มหน้าจอเสียหายเล็กน้อย แต่ไม่รู้เครื่องรวนหรือไม่ ประกอบกับเครื่องนี้แม่ซื้อให้ เพื่อให้ตนนำมารับจ้างหาเงินรายวัน จึงมีคุณค่าทางจิตใจมาก