จากกรณีเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 64 เวลา 20.00 น. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. พร้อมฝ่ายสืบสวนนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเช่า ม.14 ซ.เพชรเกษม 69 แขวงและเขตหนองแขม กรุงเทพฯ หลังรับแจ้งจากสายลับว่าบ้านหลังดังกล่าวซุกซ่อนยาเสพติดไว้จำนวนมาก
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น พบผู้อยู่ในบ้านคือ พระวิทวัส หรือ ชัย แซ่ย่าง อายุ 28 ปี พระลูกวัดวัดดงยาง ต.บ่อทอง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก อยู่ภายในบ้าน
จากการตรวจค้นในห้องเก็บของชั้นล่างพบยาไอซ์จำนวน 205 กก. เฮโรฮีน 89 แท่ง น้ำหนักรวม 31 กก. ยาเสพติดทั้งหมดบรรจุอยู่ในลังกระดาษจำนวน 9 ลัง มูลค่ารวมทั้งหมดประมาณ 55 ล้านบาท จึงยึดไว้ตรวจสอบทั้งหมด
วันที่ 15 ก.ค. ทีมข่าวเดินทางย้อนกลับไปที่ซอยเพชรเกษม 69 เขตหนองแขม กรุงเทพฯ บ้านที่ตำรวจ ปส. ตรวจยึดของกลาง พร้อมกับตัวของอดีตพระวิทวัส พบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีพี่สาว พี่เขย และลูก ๆ ของพี่สาวคนก่อเหตุอีก 2 คนอาศัยอยู่ภายในบ้าน แต่ไม่ยอมออกมาพบ
ลักษณะบ้านหลังเกิดเหตุ เป็นบ้านเช่ารายเดือน เดือนละ 5,000 บาท เป็นบ้านสีเขียว 2 ชั้น กึ่งไม้กึ่งปูน ด้านหลังมีโรงครัว หลังจากที่คนในบ้านถูกเรียกตัวสอบปากคำที่สถานีตำรวจ ปส. ได้ถูกปล่อยตัวกลับมาบ้านเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สอบปากคำผู้ต้องหา 2 ราย ยังไม่มีการซัดทอดถึงคนในครอบครัว อ้างว่าเป็นเพียงมาขอพักอาศัยซึ่งคนในบ้านไม่มีส่วนรู้เห็น
ทีมข่าวเดินทางมาที่วัดดงยาง ต.บ่อทอง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก วัดที่นายวิทวัส แซ่ย่าง อายุ 28 ปี เคยจำพรรษาอยู่ พระมหาสว่าง โชติโก เจ้าอาวาสวัดดงยาง เปิดเผยว่า นายวิทวัสได้เข้ามาขอบวชในโครงการเข้าพรรษา เป็นการบวชนาคหมู่ เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 63 โดนก่อนที่จะอนุญาตให้บวช ทางวัดได้มีการตรวจสอบประวัติก่อนแล้ว และทราบว่าเคยมีคดีเมื่อ 2560 แต่คดีความจบลงแล้ว ไม่ได้มีคดีค้าง อีกทั้งนายวิทวัสยังขอโอกาสบวช เพื่อที่จะชดใช้ในสิ่งที่เคยทำไม่ดี วัดเป็นศูนย์กลางของคนทั่วไปที่จะเข้ามาบวชจึงให้โอกาส
ช่วงเข้าพรรษา นายวิทวัสมีพฤติกรรมเรียบร้อยดี และทำกิจวัตรของสงฆ์ตามปกติ ทำวัดเช้าเย็น เก็บกวาดภายในวัด และบิณฑบาตตามปกติ ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ไม่เคยมีปัญหาหรือเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อน และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่รับทราบว่าข้องเกี่ยวกับยาเสพติด
กระทั่งช่วงออกพรรษา นายวิทวัสเริ่มอยู่วัดบ้างไม่อยู่บ้าง โดย 1 สัปดาห์จะอยู่วัดประมาณ 3 วัน แต่เวลาที่จะออกไปจะมาขออนุญาตอาตมาตลอด และอ้างว่าออกไปกิจนิมนต์ ไปช่วยพระที่วัดอื่น คาดว่านายวิทวัสคงจะไปรู้จักกับชาวบ้านต่างถิ่น และเชิญชวนให้ไปทำกิจนิมนต์ เวลาไปก็จะออกไปตอนเช้ากลับมาตอนค่ำ ทั้งนี้ อาตมาเคยกล่าวเตือนเป็นประจำ ครั้งล่าสุด 11 ก.ค. ก่อนที่จะถูกจับขออนุญาตว่าจะไปทำกิจนิมนต์ที่กรุงเทพฯ แต่อาตมาปรามแล้วว่าห้ามไป เพราะเป็นพื้นที่สีแดง แต่นายวิทวัสอ้างว่านัดโยมไว้แล้ว ส่วนรถที่ใช้ก่อเหตุคันดังกล่าวไม่ใช่รถของวัด
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความเดือดร้อนให้กับทางวัดมาก เพราะวัดกำลังก่อสร้างอุโบสถกำลังจะแล้วเสร็จ อีกทั้งยังสร้างความไม่สบายใจให้ชาวบ้าน จึงอยากจะขอความเห็นใจจากสังคมว่าวัดไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
จากนั้นเวลาประมาณ 15.30 น. นายสุธี ชำนาญจิตร ปลัดอำเภอ พร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอบางระกำ และกำนันตำบลบ่อทอง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกุฏิ สภาพค่อนข้างรก หลังจากมีเจ้าหน้าที่จาก ป.ป.ส. ลงพื้นที่ตรวจสอบ
ซึ่งภายในห้องมีของใช้สำหรับพระสงฆ์ เครื่องอุปกรณ์สำหรับการนอน ใบขับขี่ รูปถ่ายขณะเป็นพระ และรูปถ่ายตอนเป็นฆราวาส ใบอมรมเสริมความรู้ธรรมชั้นนวกภูมิ ใบกระดาษคล้ายเขียนหวยใต้ดิน และลอตเตอรี่ชุดจำนวนหลายใบ และขวดน้ำบรรจุปัสสาวะ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ทำการสำรวจได้ตรวจพบตัวบุหรี่ที่ยังไม่ได้อัด อุปกรณ์อัดยาเส้น ยาเส้น
นายทวิช ย่อมแอ่น กำนันตำบลบ่อทอง เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และสอบถามพฤติกรรมของผู้ต้องหา เบื้องต้นยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับทางวัด นายวิทวัสไม่ใช่คนในพื้นที่ ทราบแค่ว่ามาจาก จ.พะเยา ส่วนตัวเคยเห็นนายวิทวัสมาก่อน แต่ไม่รู้พฤติกรรม โดยเท่าที่ทราบตั้งแต่มาอยู่ไม่เคยมีเรื่องยาเสพติดมาก่อน และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มี อีกทั้งในพื้นที่ที่ดูแล ก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องยาเสพติดมาก่อน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกเห็นใจชาวบ้าน และรู้สึกเป็นห่วงทางวัด มากกว่า เพราะไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคลของคนที่มาอาศัยอยู่