ตะลึงถ้ำนาคา2 หัวงูยักษ์กลางป่า พระธุดงค์ชี้อัศจรรย์เย็นสงบ งูนานาชนิดมาเยือน (คลิป)

16 ก.ค. 64

กรณีเฟซบุ๊กชื่อว่า "คนเซกา เมืองบึงกาฬ" ได้โพสต์ภาพบรรยากาศการค้นพบหินรูปคล้ายหัวพญานาคแห่งใหม่ที่ถ้ำศรีพรหม ภายในเขตวัดถ้ำศรีพรหม บ้านโนนสา ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ซึ่งตั้งอยู่บนภูวัว และยังคงมีความเป็นธรรมชาติสูงมาก ๆ มีหินรูปร่างแปลกให้ชมความงาม โดยเฉพาะหินรูปหัวงูหรือหัวพญานาคที่ดูแล้วมีความลึกลับและดูน่าเกรงขาม

388965

ล่าสุดวันที่ 16 ก.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังถ้ำศรีพรหม บ้านโนนสา ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ พบว่าถ้ำดังกล่าวอยู่บนเขาของเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว ห่างจากวัดศรีพรหม ประมาณ 600 เมตร เมื่อทีมข่าวมาถึงพื้นที่วัดศรีพรหม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่อนุญาตให้ทีมข่าวขึ้นไปถ่ายทำที่ถ้ำศรีพรหม เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการปิดให้บริการในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

799623

นายสมชัย อินธิบุตร มัคนายกบ้านโนนสา ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อปี 2532 มีพระสงฆ์รูปหนึ่งชื่อว่า หลวงปู่สุรศักดิ์ ศรีพรหม หรือ หลวงตาเป็ก พระสงฆ์ชาวจ.สุรินทร์ ขณะนั้นกำลังจะไปธุดงค์ ที่ประเทศลาวกับพระอีก 1 รูป ระหว่างเดินเท้าเพื่อไปรอเรือข้ามฝั่งโขง โดยอยู่บริเวณเขตชายแดน จ.บึงกาฬ สมัยก่อนเป็นจ.หนองคาย ปรากฏว่าพระอีกรูปที่มาด้วยกันเจ็บเท้า จึงแยกทางกันไม่สามารถไปต่อได้

cg2

ในระหว่างที่ยืนรอเรือ จู่ ๆ หลวงตาเป็ก ก็ได้นิมิตเห็นถ้ำด้านในเป็นเมืองของพญานาค จากนั้นหลวงตาเป็ก ได้เดินเท้าตามที่นิมิตเห็น จนมาถึงยังเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว จ.บึงกาฬ กระทั่งเวลา 20.00 น. มาเจอโพรงมีลักษณะคล้ายถ้ำที่นิมิต จึงจับเถาวัลย์โรยตัวลงไปในถ้ำ หลวงตาเป็กก็ได้นั่งสมาธิ และเจองูใหญ่ยาวประมาณ 8 เมตร ลำตัวสีดำกำลังแผ่แม่เบี้ย หลวงตาเป็กจึงบอกว่า "อย่ามารบกวนเลย อาตมามาเจริญภาวนา" จากนั้นงูตัวดังกล่าวก็เลื่อนหายไป

782690

ในวันต่อมาหลวงตาเป็ก ได้นั่งเจริญภาวนาอีกครั้ง จึงได้พบศีรษะของผู้หญิงห้อยจากหน้าผา จากนั้นหลวงตาก็พูดต่อว่า "อย่ามารบกวน เดี๋ยวจะเป็นบาปกรรม" จากนั้นผู้หญิงคนดังกล่าวก็หายไป และหลวงตาเป็กได้บอกตนอีกว่า ท่านจะได้ยินเสียงพระสวดมนต์ และเสียงระฆังดังมาจากในถ้ำทุกวันพระอีกด้วย หลวงตาเป็กได้จำพรรษาที่ถ้ำดังกล่าว 1 พรรษา ก่อนจะย้ายกลับไปภูมิลำเนาที่ จ.สุรินทร์ และมาจำพรรษาที่วัดถ้ำศรีพรหมช่วงเข้าพรรษาอีก 1 พรรษา

471371748776

นายสมชัย อินธิบุตร กล่าวต่อว่า ช่วงเข้าพรรษาตนจะไปนั่งสมาธิ ที่ถ้ำศรีพรหมปีละ 1 ครั้ง เคยเจอเหตุการณ์แปลก ๆ ระหว่างที่นั่งสมาธิเห็นภาพชายหญิงสวมชุดขาว เดินถือพานดอกไม้ต่อแถวกัน จำนวน 50 คน แล้วเดินผ่านหน้าไปยังหน้าผา ซึ่งภาพที่เห็นนั้นไม่ใช่คนในพื้นที่

อย่างไรก็ตาม ในปี 2537 มีนักเรียนมาเที่ยวชมที่ถ้ำศรีพรหม จำนวน 10 คน พอขึ้นไปถึงถ้ำมีนักเรียนชายหนึ่งคนได้ปัสสาวะรดถ้ำ พร้อมกับพูดว่า "ไชยโย ได้เยี่ยวรดถ้ำแล้ว" หลังจากนั้นนักเรียนชายคนดังกล่าวก็กลายเป็นชายวิกลจริต ซึ่งตนคาดว่าน่าจะมาจากกระทำการหลบหลู่สถานที่ หลังจากถ้ำศรีพรหมถูกนำเสนอออกไป ตนในฐานะชาวบ้านก็ไม่ติดขัด หากจะเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่อยากให้จำกัดจำนวนผู้ที่ขึ้น จะได้ไม่ทำลายธรรมชาติ และรบกวนพระสงฆ์

948421

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปที่วัดป่าโคกยาง บ้านสวาย ต.เป็นสุข อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ พบกับพระอธิการสุรศักดิ์ สุรสีโล หรือ “หลวงตาเป๊ก” ได้พาทีมข่าวเข้ามาดูถ้ำที่สร้างขึ้นเอง เพื่อเอาไว้เป็นที่นั่งปฏิบัติธรรมและนั่งสมาธิ เปิดเผยว่า อาตมาไปธุดงค์บำเพ็ญเพียรสมาธิภาวนาหลายที่ ส่วนมากจะอยู่ตามถ้ำ ชอบอยู่ในถ้ำ และป่าเขา เชื่อเรื่องพญานาค คิดว่าพญานาคมีจริง มีตั้งแต่สมัยพุทธกาล พญานาคอยากบวช แต่ไม่ได้บวช พระเกจิอาจารย์สมัยก่อนเคยเห็นกันหลายรูป แม่น้ำโขงจะมีพญานาคปรากฎตัว อย่างเช่นที่เห็นเป็นบั้งไฟพญานาค

cg3

ทั้งนี้ อาตมาไปจำพรรษา 6-7 ปี นั่งสมาธิภาวนาอยู่ในถ้ำศรีพรหม บางครั้งเห็นพญานาคขดตัวอยู่สวยงามมาก ตาโตเหมือนไฟรถ ส่องใส่หน้าส่ายไปมาก่อนจะหายไป เหลือแต่แสงระยิบระยับ หลังจากนั้นภาวนาต่อเห็นพญานาคพุ่งขึ้นมาจากดิน ทั้งนี้ระหว่างที่นั่งสมาธิอยู่ในถ้ำจะเจองูจงอางตัวใหญ่ หน้าตาน่ากลัว จ้องตาเขม็ง ส่วนตัวคิดว่าตายเป็นตายไม่ยอมหนี อาตมาจึงพูดออกไปว่า “หยุดนะ ที่นี่เป็นที่ฉัน ต่างคนต่างแสวงหาความสุขความเจริญ ทำไมต้องมาเบียดเบียนกัน ให้กลับไปซะ” จากนั้นได้แผ่เมตตาไปให้ หลังจากนั้นงูก็เลื้อยหนีไป

656668217429

เมื่อ 10 ปี ก่อนอาตมาพาญาติโยมไปปฏิบัติธรรมใกล้แม่น้ำโขง จ.นครพนม จึงถ่ายรูปเก็บไว้ และเอามาล้างปรากฏว่าภาพวิวที่ถ่ายมามีลักษณะเหมือนพญานาค กระทั่งย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่ วัดป่าโคกยาง จ.สุรินทร์ ปรากฏว่ามีงูใหญ่หลายตัวเลื้อยเข้ามาที่วัด

ทีมข่าวเดินทางมายังวัดศรีพรหม ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ได้พูดคุยกับหลวงพี่หนำ เจ้าอาวาสวัดศรีพรหม ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อปี 2532 หลวงตาเป็กท่านได้เดินธุดงค์มายังถ้ำศรีพรหมเป็นพระรูปแรก จากนั้นท่านก็ได้พัฒนาบูรณะสถานที่ในถ้ำให้เหมาะกับเป็นสถานที่เจริญภาวนา ซึ่งก็มีชาวบ้านพากันไปนั่งสมาธิจนถึงทุกวันนี้

133285

สำหรับอาตมาก็เคยขึ้นไปนั่งเจริญจิตภาวนาบนถ้ำศรีพรหม ในช่วงที่จำพรรษามากว่า 7 พรรษา บรรยากาศในถ้ำสงบร่มเย็น เหมาะกับการนั่งเจริญจิต ส่วนหินที่คล้ายหัวพญานาค อาตมาก็เคยเห็นเหมือนกัน เนื่องจากหินดังกล่าวตั้งอยู่ส่วนกลางถ้ำ ซึ่งก็แล้วแต่มุมมองของคนที่จะมอง หากมองเป็นหินก็คือหิน ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ารถกระบะ

นอกจากนี้ หลวงพี่หนำ ยังบอกอีกว่า ก่อนหน้านี้มีพระมาจากต่างจังหวัด มานั่งเจริญจิตภาวนาอยู่ในถ้ำ จากนั้นพระรูปดังกล่าวก็ได้ยินคล้ายเสียงคนพูด และเสียงของก้อนหิน จึงอุทานขึ้นมาว่า "หวังว่าถ้ำคงไม่ถล่มนะ" พอพูดจบก็มีเสียงชายปริศนาพูดว่า "มันไม่เป็นอะไรหรอก" สำหรับอาตมาตั้งแต่นั่งสมาธิเจริญจิตภาวนามากว่า 7 พรรษา ก็ไม่เคยเจอสิ่งลี้ลับหรือสัมผัสอะไร

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม