สถาปนิกตายคาถ้ำมุดสำรวจเหวลึก 11 เมตรไร้อากาศ กู้ภัยระทึกกู้ศพหวิดวูบ (คลิป)

17 ก.ค. 64

วันที่ 17 ก.ค. 64 เมื่อเวลา 13.20 น. ตำรวจ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งว่ามีคนตกลงไปในถ้ำลึก บริเวณป่าริมสวนของชาวบ้านริมถนนธนะรัชต์ กม.14-15 ทางไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นถ้ำแนวดิ่งลึกแคบ อยู่บริเวณท้ายไร่มันสำปะหลัง

415827305195

ผู้ที่ตกลงไปทราบชื่อคือ นายปิยวีร์ ธาราสมบัติ อายุ 41 ปี อาชีพสถาปนิก กู้ภัยหย่อนเชือกลงไปความลึกประมาณ 11 เมตร และเรียกชื่อไม่ตอบ คาดว่าน่าจะขาดอากาศหายใจเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำถังออกซิเจนเพื่อลงไปตรวจสอบ

962711

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ พบว่ากลางสวนมันสำปะหลัง บริเวณใต้ต้นมะขาม มีพื้นที่ถูกล้อมด้วยเส้นสีขาวแดง ปิดพื้นที่ปิดชั่วคราว สถานที่เกิดเหตุโพรงลึกลงไปประมาณ 11 เมตร ปากป่องเส้นผ่าศูนย์การ 2 เมตร มีบันไดเหล็กทำเป็นทางลงไปในป่อง ชาวบ้านเรียกว่าเหว เพราะมีลักษณะเป็นแนวดิ่ง ไม่ได้มองเป็นลักษณะถ้ำ โดยรอบมีกิ่งไม้และเถาวัลย์ อีกทั้งยังมีกำแพงอิฐมอนก่อรอบรอบ ป้องกันไม่ให้ช้างตกลงไปในหลุม บริเวณทางเชื่อมเข้าไปที่บันไดเหล็ก ไม่มีประตูกั้นหรือกำแพงอิฐมอน

334036

ซึ่งประวัติของหลุมหรือเหวนี้ ตั้งแต่ 70 ปีก่อนแล้ว มีทหารมาช่วยกันก่อสร้างบันไดเหล็กเมื่อ 23 เม.ย. 2522 ทำบันไดลงไปเพื่อสำรวจถ้ำหรือโพรงใต้ และในอดีตคาดว่าเป็นหลุมหลบภัยเก่า จากนั้นเมื่อมีการขายที่ดินดังกล่าวให้กับชาวบ้าน หลุมหรือเหวดังกล่าว จึงกลายเป็นที่ตั้งอยู่กลางสวน แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีชาวบ้านลงไป เพราะไม่รู้ว่าข้างใต้มีลักษณะเป็นแบบไหน

241596157003

นายศักดิ์ชัย จุนโพธิ์ หรือ ไหล อายุ 56 ปี คนดูแลสวน เปิดเผยว่า ตนเองย้ายมาเป็นคนดูแลสวนที่นี่รวมปัจจุบัน 18 ปีแล้ว ตอนที่ตัวเองมาถึงหลุมหรือเหวก็อยู่ในลักษณะแบบนี้ มีบันไดเหล็กต่อเชื่อมลงไป ซึ่งตนเองก็เคยมีโอกาสลงไปสำรวจไม่ต่ำกว่า 4-5 ครั้ง แต่ส่วนใหญ่จะลงไปในช่วงฤดูหนาว เพราะเป็นช่วงที่ความกดอากาศ สามารถทำให้หายใจภายในเหวหรือถ้ำดังกล่าวได้ แต่ถ้าเป็นฤดูฝนหรือฤดูร้อน ตัวเองเคยลงไป พบว่าไม่มีอากาศหายใจ

168767

จุดที่ตนเองเคยสัมผัสว่าในเหวช่วงที่จะไม่มีอากาศหายใจ ก็คือ 5 ขั้นบันไดสุดท้าย นับจากด้านล่าง ความลึกของถ้ำดังกล่าว วัดด้วยระบบคอมพิวเตอร์อยู่ที่ประมาณ 11 เมตร ถ้าเป็นขั้นบันไดเหล็กที่มีการก่อสร้างเอาไว้ จะอยู่ที่ 32 ขั้น ขั้นละ 30 เซนติเมตร ดังนั้นถ้าหากวัดจากพื้นขึ้นมาถึงระดับที่จะไม่มีอากาศหายใจ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 150 เซนติเมตร

655906

ในช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุ ตนเองก็ได้เตือนให้กับหนุ่มสถาปนิกที่ลงไปสำรวจ ให้ระมัดระวังเกี่ยวกับจุดที่จะไม่มีอากาศหายใจ แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุสลดเกิดขึ้น เพราะเชื่อว่าผู้ตายไม่มีความชำนาญ ตอนนั้นพบว่าหนุ่มสถาปนิกเพิ่งเรียนจบใหม่ รับงานจากเจ้าของบ้าน จะเข้ามาทำการก่อสร้างบ้านภายในพื้นที่แห่งนี้ เดินทางมาพร้อมกับญาติและเพื่อนสนิทซึ่งเป็นทนายความ แต่ญาติรวมถึงเพื่อนสนิทที่เป็นทนายความเคยมาที่นี่บ่อยครั้ง และลงไปสำรวจบริเวณเหวดังกล่าวมาแล้ว จึงได้มีการเล่าให้กับคนตายฟัง และก่อนที่คนตายจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ มีความสนใจอยากจะลงไปที่เหวดังกล่าวเพื่อสำรวจ แต่ญาติรวมถึงเพื่อนสนิทไม่ได้ลงไปด้วยยืนอยู่ด้านบนกับตนเอง

cg1

จากนั้นหนุ่มสถาปนิก คนตายก็ได้ถอดกางเกงขายาว หยิบไฟฉายลงไป 1 อัน ตนเองก็พยายามเตือนตลอดว่า "5 ขั้นบันไดสุดท้ายจะไม่มีอากาศหายใจ" แต่หลังจากที่หนุ่มสถาปนิกลงไปถึงด้านล่าง ตะโกนส่งเสียงพูดคุยกับเพื่อนที่อยู่ด้านบน กระทั่งเริ่มได้ยินเสียงคล้ายกับคนไม่มีอากาศหายใจ ต้องการขอความช่วยเหลือ ทุกคนจึงหาไฟเพื่อส่องลงไปดู หนุ่มสถาปนิกได้เกาะอยู่ที่บันไดด้านล่าง ลักษณะคล้ายหมดสติ แล้วก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงคิดว่าน่าจะขาดอากาศหายใจไปแล้ว ส่วนตัวก็ไม่คิดว่าหนุ่มสถาปนิกเด็กจบใหม่อนาคตไกล จะมาจบชีวิตด้วยเหตุการณ์แบบนี้ มุมส่วนตัวไม่ได้เชื่อเรื่องอาถรรพ์ เพราะที่นี่ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้ เชื่อเรื่องของเวรกรรม เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา

cg2

นอกจากนี้ ตนเองเคยมีโอกาสลงไปสำรวจในช่วงฤดูหนาว ไปไกลมากถึง 50 เมตร ตนเองนำเชือกลงไปผูกที่บันไดขั้นสุดท้าย จากนั้นก็ผูกกับเอวตัวเอง เดินไปตามทางลักษณะบางจุดก็เดินได้ บางจุดก็ต้องมุดหรือรอด ด้านใต้ก็จะมีระดับน้ำอยู่ที่ระดับเอว ไม่มีช่วงไหนที่น้ำแห้ง น้ำภายในถ้ำก็มีลักษณะไหลผ่าน ไม่ได้เป็นน้ำนิ่ง เนื่องจากตนเองเคยเด็ดใบมะขามลงไปโปรยบนผิวน้ำ พบว่าใบมะขามลอยไปตามกระแสน้ำ แต่ถ้ำดังกล่าวสามารถไปไกลได้มากกว่า 1-2 กิโลเมตร ตัวเองไม่เคยเดินไปถึง เพราะด้วยความมืดรวมถึงอากาศหายใจมีน้อยจึงตัดสินใจไปได้สุดแค่ระดับเชือกที่ผูกเอวเท่านั้น

710703

ด้านนายประธาน วัฒนพันธุ์ เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย ผู้ปฏิบัติงานนำร่างของหนุ่มสถาปนิกขึ้นจากจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า หลังจากตนเองได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้สูญหายภายในเหวหรือถ้ำ พบว่าเวลาผ่านไปนานกว่า 1-2 ชั่วโมงแล้ว เชื่อว่าผู้สูญหายอาจจะขาดอากาศหายใจอยู่ภายในถ้ำดั เจ้าหน้าที่ชุดแรกจึงได้ลงไปพร้อมกับชุดและอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจ เป็นถังออกซิเจนที่อยู่ด้านหลังลงไปสำรวจ ตอนนั้นพบร่างของผู้สูญหายเสียชีวิตนอนอยู่บริเวณซอกหิน มีการเปิดไฟฉายเพื่อทำการมาร์กจุด ขึ้นมาแจ้งกับทีมกู้ภัยด้านบน ในการโรยตัวลงไปนำร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นมา

การปฎิบัติหน้าที่ครั้งนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก ขนาดเหวหรือถ้ำมีความกว้างไม่มาก ประกอบกับมีบันไดเหล็กกีดขวางการขึ้นลงของถ้ำ การนำร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นมาลำบากมาก เจ้าหน้าที่แม้ว่าจะมีถังออกซิเจน แต่ลงไปเพียงไม่ถึง 30 นาที ก็ต้องเปลี่ยนชุดลงไป เพราะเนื่องจากอากาศข้างล่างเรียกว่าเป็นศูนย์ มีการใช้แรงการเคลื่อนไหว หายใจในพื้นที่ที่ไม่มีอากาศ จึงทำให้ต้องใช้ออกซิเจนจำนวนมาก ปฎิบัติการครั้งนี้ยังใช้เครื่องเป่าลมดันอากาศลงไปช่วย เนื่องจากความลึกของเหวหรือโพรงถ้ำ ลึกถึง 11-15 เมตร อากาศที่ดำลงไปก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก

336252

อย่างไรก็ตาม ในฐานะชุดปฏิบัติการเคลื่อนย้ายร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากเหว ได้แต่ทำการเคลื่อนย้ายร่าง ไม่ได้มีโอกาสสอบถามหรือพูดคุยกับญาติของผู้เสียชีวิต ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมถึงลงไปในสถานที่ดังกล่าว แต่เพื่อนสนิทที่มารอติดตามปฏิบัติการด้านบนบอกว่าเคยลงไปสำรวจมาแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

488634

เบื้องต้นหลังจากที่นำร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากเหวหรือถ้ำได้แล้ว เคลื่อนย้ายร่างของผู้เสียชีวิตเดินทางกลับกรุงเทพฯ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา และญาติไม่ติดใจการตาย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม