จากกรณี เมืองสระบุรี รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันที่ร้านขายหมู หลัง บขส. ติดกับตลาดล้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายที่ ถ.สุดบรรทัด ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี จึงแจ้งไปยัง ร.ต.อ.พิภาค ม่วงช้าง ร้อยเวร สภ.เมืองสระบุรี รีบไปในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยชุดสืบสวนของ สภ.เมืองสระบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างสระบุรี เมื่อไปถึงพบพ่อค้าขายหมู ได้รับบาดเจ็บที่ต้นแขนซ้าย ถูกยิงจำนวน 3 นัด ญาติได้นำตัวส่ง รพ.สระบุรี ก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อคือ นายสาโรจน์ คามีศักดิ์ อายุ 37 ปี เจ้าของร้าน ตรวจสอบภาพในร้านพบรอยลูกกระสุนยิงกระจกแตกเป็นรู
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จ.สระบุรี และชุดสืบสวนของ สภ.เมืองสระบุรี ได้ออกติดตามตัวคนร้าย ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่ ต.ห้วยแห้ง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จึงได้นำกำลังไปล้อมจับขณะคนร้ายกำลังนั่งดื่มเหล้า เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวคนร้ายมาสอบสวนที่ห้องสืบจังหวัดสระบุรี ทราบชื่อนายอุดม ทองจันทร์ อายุ 52 ปี พ่อค้าขายข้าวมันไก่
วันที่ 21 ก.ค. 64 ทีมข่าวได้เดินทางมาที่บริเวณหน้าร้านขายหมูเจ๊ดา ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้า บขส.สระบุรี ถ.สุดบรรทัด ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี เวลาประมาณ 14.50 น. ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี ได้นำตัวผู้ก่อเหตุมาทำแผนเพื่อประกอบคำรับสารภาพ
โดยเจ้าหน้าที่ได้กุมตัวผู้ก่อเหตุมาทำแผนทั้งหมด 3 จุด จุดที่ 1 บริเวณฝั่งตรงข้ามร้านขายหมูเป็นจุดที่นำรถจักรยานยนต์มาจอดไว้ และจุดที่ 2 บริเวณหน้าร้านขายหมู เป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุจ่อยิง 2 นัด ห่างจากจุดที่ 2 ประมาณ 2 เมตร เป็นจุดที่ 3 คือบริเวณกระจกหน้าร้าน ที่มีรอยยิงเป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุจ่อยิงเป็นนัดที่ 3
ทีมข่าวได้สอบถามนายอุดม ผู้ก่อเหตุ ว่ามีความในใจจะบอกกับทางคู่กรณีไหม และทำไปเพราะอะไร แต่นายอุดมไม่ได้ตอบอะไรทั้งสิ้น และใช้มือที่ใส่กุญแจปัดทีมข่าว
พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผู้กำกับการ สภ.เมืองสระบุรี เปิดเผยว่า แรงจูงใจในการก่อเหตุคือทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากมีการโต้เถียงกัน ในคำพูดทำนองว่า "ช้าจัง ไม่เอาก็ได้" ทำให้เกิดความไม่พอใจ ซึ่งจากการสอบปากคำไม่มีเหตุจูงใจอื่น และไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน
ส่วนกรณีที่มีระยะเวลาหลังจากที่ทะเลาะและก่อเหตุทิ้งห่างนาน ก่อนจะมีการการดื่มเหล้าย้อมใจ คาดว่าเป็นอารมณ์คนและไม่เคยถูกด่าทำให้เครียด แต่เก็บกด โดยตั้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นและมีอาวุธปืนในครอบครอง ในวันพรุ่งนี้จะตัวไปฝากขัง เบื้องต้นทางญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บจะมีการคัดค้านการประกันตัว
ขณะนี้ ผู้ก่อเหตุมีแค่คนเดียว ซึ่งในส่วนที่พยาน และญาติยืนยันว่าผู้ก่อเหตุมีมากกว่า 1 คน จะทำการสืบสวนเพิ่มเติม หากมีผู้ก่อเหตุมากกว่า 1 คน จะนำตัวมาดำเนินคดีอย่างแน่นอน และยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
จากข้อมูล ภรรยาเจ้าของร้าน เล่าว่านายสาโรจน์ สามี กับตนเอง และลูกน้องกำลังขายหมูอยู่หน้าร้าน เนื่องจากมีลูกค้าเป็นจำนวนมาก จึงได้ทำการจัดคิวให้ คนร้ายได้มาซื้อหมูที่หน้าร้านของตน เขารอนาน และทำหน้าไม่พอใจ บอกว่าไม่ได้สักที ตนจึงบอกไปว่าเดี๋ยวก็ได้ รอคิวแป๊บนึง แล้วเขาก็โวยวาย บอกว่า "_วยเอ้ย" สามีของตนได้ตอบไปว่า "มึงให้_วยใคร" และได้มีปากเสียงกัน ตนก็ไม่คิดว่าเขาจะกลับมายิง เพราะผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว สักพักเขาก็มาจอดรถฝั่งตรงข้าม เดินข้ามถนนมาชักปืนยิง ส่วนตนได้หลบก้มลง คนร้ายได้ยิงเข้ามาโดนที่ต้นแขนซ้ายของสามี 3 นัด
นางไก่ (นามสมมติ) ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนออกไปขายของตั้งแต่ช่วงเช้า เลยไม่ได้พูดคุยกัน โดยหลังจากที่เกิดเหตุก็ไม่ได้คุยกัน เท่าที่ทราบนายอุดมออกไปซื้อหมู เพื่อนำมาทำหมูกรอบให้ลูกชาย อายุ 10 ปี เพราะลูกชายอยากกินหมูกรอบมาหลายวันแล้ว ทั้งนี้ นายอุดมเคยไปซื้อหมูที่ร้านนั้นแล้ว เพราะช่วงนี้ร้านขายหมูหลายแห่งปิดร้าน และร้านดังกล่าวอยู่ใกล้บ้าน โดยตนยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน และคาดว่าสาเหตุน่าจะเป็นเพราะเรื่องของคำพูด ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ ตนไม่ทราบว่าเป็นของใคร เพราะแฟนไม่ได้พกปืน
ทั้งนี้ นายอุดมไม่ใช่คนใจร้อน และปกติจะทำกับข้าวให้คนในครอบครัวกินเป็นประจำ รวมถึงช่วยกันทำกับข้าวไปขายที่ตลาด ขายข้าวมันไก่ อีกทั้งยังเป็นคนไปจ่ายตลาดให้กับทางครอบครัว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าได้รับความเดือดร้อนพอสมควร เพราะว่าแฟนเป็นเสาหลักของครอบครัว ขาดรายได้ไป และช่วงนี้คงจะต้องปิดร้าน อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะขอโทษทางคนเจ็บ และญาติพี่น้องของคนเจ็บ เพราะตนไม่รู้ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร แต่เหตุเกิดขึ้นแล้ว
ด้าน น.ส.วารญารัตน์ นันตา อายุ 34 ปี ภรรยาของผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เกือบ 11.00 น. นายอุดม (ผู้ก่อเหตุ) ได้ขี่รถจักรยานยนต์จอดที่ฝั่งตรงข้าม และเดินเข้ามาโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะจ่อยิงที่ข้างหน้าร้าน 2 นัด อ้อมมายิงใกล้ที่บริเวณด้านหน้ากระจกร้านอีก 1 นัด เป็น 3 นัด จากนั้นได้มีผู้ชายใส่เสื้อสีน้ำเงินเดินมาต่อยหน้าแฟนแล้วองตน และพูดว่า "มึงเก๋านักหรอ" เหมือนจะพยายามจับตัวไว้เพื่อถ่วงเวลาให้นายอุดมมายิงซ้ำ แต่นายสาโรจน์ คนเจ็บพยายามวิ่งหนีไปที่ด้านกลับร้านเพื่อขอความช่วยเหลือ นายอุดมได้เดินตามมาที่ข้างร้าน เพื่อตามแฟนของตน แต่ตามไม่ทัน เลยเดินกลับไปขี้นะรถจักรยานยนต์ และขับรถหลบหนีไป
ก่อนที่จะเกิดเหตุ เวลาประมาณ 07.00 น. ของเมื่อวานนี้ นายอุดมได้มาซื้อเนื้อหมูที่ร้าน แต่ลูกค้าเยอะ เพราะตลาดอื่นปิด คนเลยแห่มาซื้อเนื้อหมูที่ร้านของตนเยอะ กระทั่งนายอุดมได้บ่นว่า "ไม่ได้สักที" แฟนบอกว่า "แป๊บนึงจะถึงแล้ว" แต่นายอุดมก็ไม่พอใจ ก่อนจะเดินไปนั่งค่อมรถจักรยานยนต์ของตัวเองที่จอดไว้หน้าร้าน พร้อมกับกล่าวว่า "_วยเอ้ย รอหมูนานไม่จัดให้สักที" ส่วนนายสาโรจน์ไม่ใช่คนที่จะด่าใครก่อน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะถูกด่าก่อนเลยโต้ตอบกลับไป โดยทั้งคู่ไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน และเรื่องที่เกิดขึ้น ตนมองว่าทำเกินกว่าเหตุ และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ตนได้รับความเดือดร้อนมากๆ เบื้องต้นนายสาโรจน์ยังไม่ได้รับการผ่าตัด อยากจะให้ทางโรงพยาบาลรักษาแฟนโดยเร็ว เพราะตนไม่อยากจะให้ทรมาน ส่วนตัวยังไม่ได้เห็นแผล แต่ทราบว่าถูกยิงจนกระดูกแตก บริเวณหัวไหล่ขวา แขนขวา สีข้างฝั่งขวา