อินเดียจัดทำการสำรวจสิ่งส่งตรวจที่รวบรวมจากประชากร (serosurvey) ครั้งที่ 4 เพื่อประเมินระดับแอนติบอดีต้านโรคโควิด-19 ในประชากรอินเดีย และพบสัดส่วนประชาชนช่วงอายุ 6 ปีขึ้นไป ที่มีแอนติบอดีต้านโรคโควิด-19 อยู่ที่ร้อยละ 67.6
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอินเดียระบุว่ายังมีประชาชนเสี่ยงติดเชื้อราว 400 ล้านคน พร้อมเตือนประชาชนอย่านิ่งนอนใจและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 รวมถึงกระตุ้นผู้ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
“ผลสำรวจสิ่งส่งตรวจ ครั้งที่ 4 ทำให้เราเห็นแสงแห่งความหวัง แต่เราจะประมาทไม่ได้ เราต้องประพฤติตนอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ต่อไป” พลราม ภควา หัวหน้าสภาวิจัยฯ กล่าว
ผลสำรวจเก็บข้อมูลจากประชาชน 36,227 คน ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ 7,252 คน ระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม และพบกว่าร้อยละ 50 ของเด็กอายุ 6-17 ปี ทั้งหมด 8,691 คน มีแอนติบอดีแล้ว โดยอินเดียจัดทำการสำรวจระดับประเทศเพื่อตรวจหาแอนติบอดีในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นครั้งแรก ขณะหลายฝ่ายกังวลว่าการระบาดในอนาคตอาจส่งผลกระทบต่อเด็ก
เด็กที่เข้าร่วมการสำรวจครั้งนี้เกินครึ่งมีผลตรวจทางเซรัมวิทยาเพื่อหาแอนติบอดีเป็นบวก (seropositive) และมีประวัติติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยสภาวิจัยฯ แนะนำรัฐบาลแต่ละรัฐเปิดโรงเรียนประถมเป็นอันดับแรก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนทุกคนฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
สิ่งสำคัญคือผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วมีสัดส่วนความชุกของเชื้อไวรัสฯ (seroprevalence) สูงกว่าผู้ที่ไม่ได้ฉีด โดยควากล่าวว่ากลุ่มคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนมีผลตรวจทางเซรัมวิทยาเพื่อหาแอนติบอดีเป็นบวกร้อยละ 62.3 ส่วนกลุ่มที่ฉีดวัคซีนโดสเดียวอยู่ที่ร้อยละ 81 และผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วอยู่ที่ร้อยละ 89.8 บุคลากรทางการแพทย์เป็นกลุ่มที่มีความชุกของเชื้อไวรัสฯ สูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 85.2 และร้อยละ 10 ของคนกลุ่มนี้ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อินเดีย เจอฟ้าผ่ารุนแรง วันเดียวเสียชีวิตเกือบ 70 ราย
- โควิดอินเดีย ทำพิษ รมว.สาธารณสุขลาออก เซ่นบริหารล้มเหลว เตียงขาด-ออกซิเจนไม่พอ
- หมอแล็บแพนด้า เผย โควิดสายพันธุ์เดลตา จ่อยึด 100% เทียบผวา! ไทยเตรียมเป็น อินเดีย สาขา2
Advertisement