กรณีนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล พิธีกรชื่อดังที่ติดเชื้อโควิด-19 ออกมาไลฟ์สดร้องไห้ ขณะที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง อ้างว่าแพทย์ท่านหนึ่งโทรศัพท์เข้ามาแจ้งและไล่ให้ออกจากโรงพยาบาล ทำให้กลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ และเป็นกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวาง
ล่าสุดวันที่ 22 ก.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับคลิปเสียงที่เป็นการสนทนาระหว่างนายณวัฒน์ กับแพทย์คู่กรณี โดยรายละเอียดในคลิปเสียง เริ่มจากแพทย์รายนี้ กล่าวว่า มีเรื่องขอความร่วมมือจากนายณวัฒน์ เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้ มีคนไข้รอเข้าโรงพยาบาลจำนวนมาก ทางแพทย์ลงความเห็นว่านายณวัฒน์ สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว จึงขอเตียงให้คนไข้รายอื่น คนไข้ที่ออกจากโรงพยาบาล ก็ไม่ต้องมีความแข็งแรงครบ รวมทั้งขอความร่วมมือให้เปิดวงจรปิดด้วย เพื่อให้หมอติดตามอาการได้ โดยพยาบาลจะเข้ามาดูเป็นเวลา
ขณะที่นายณวัฒน์ ระบุว่า ตอนนี้อาการยังไม่ดี อีกทั้งคนที่บ้านติดโควิด-19 ทั้งหมด และอยู่ที่โรงพยาบาล แม่บ้านจะออกจากโรงพยาบาลได้ในวันที่ 23 ก.ค.64 อีกทั้งตนก็ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองและไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้
จากนั้นนายณวัฒน์ ถามกลับแพทย์คนดังกล่าวว่า มีปัญหาอะไรหรือไม่ จึงได้คำตอบว่า มีปัญหาเพราะต้องการเตียงให้คนไข้รายใหม่ ถ้านายณวัฒน์เริ่มแข็งแรงแล้ว จะใช้สิทธิ์รักษาตัวที่โรงพยาบาลไม่ได้ ทุกคนมีสภาวะเช่นนี้เหมือนกัน ดังนั้นแพทย์จึงลงความเห็นให้กลับบ้านได้ในวันรุ่งขึ้น นายณวัฒน์ จึงขอให้ทำหนังสือแจ้งให้ออกจากโรงพยาบาล
หลังจากมีการเผยรายชื่อกลุ่มศิลปินดาราบางส่วนใน 20 คน ที่ถูกยื่นให้ตรวจสอบ โดยนายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร และอดีตผู้สมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในกรณีที่เหล่าคนดังออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19
"เอกชัย ศรีวิชัย" นักร้อง กล่าวว่า กรณีที่ตนตกเป็น 1 ในรายชื่อดารา Call Out อยากเรียนแจ้งให้ทราบว่าสิ่งที่ตนแสดงออกโดยไม่มีการบิดเบือน เมื่อรัฐบาลอาสามาทำงาน ขอให้ประชาชนเลือกเข้ามา ประชาชนก็ต้องมีสิทธิ์มองดูว่าคุณทำถูกหรือไม่ ทำตามนโยบายหรือไม่ ดังนั้นเวลาที่มีประชาชนตำหนิการทำงาน ก็ไม่ควรกลายเป็นเรื่องฟ้องร้องดำเนินคดี ถ้าประชาชนพูดไม่ได้แล้วใครจะพูดได้
"ผมเป็นนักร้อง ผมเป็นนักแสดง แต่ผมก็เป็นประชาชนคนหนึ่งมีสิทธิ์พูดได้ ผมมีสิทธิ์ที่จะพูด และคำพูดของผมไม่ได้ก้าวล่วง หรือไปขู่ฆ่าใคร ผมกำลังวิพากษ์วิจารณ์นโยบาลของคุณ ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะนิ่ง และผมจะทำตามคำเรียกร้องของประชาชน แต่ถ้าเป็นผม ผมก็จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ผมอยากจะบอกว่าคนทั้งประเทศ ไม่มีใครเขากินแกลบนะ เขาก็กินข้าวกันทั้งนั้น และเขาก็สามารถรู้ได้ว่าอันนี้ผิด อันนี้ถูก อันนี้ใช่หรือไม่ใช่ วันนี้คุณมากล่าวหา ว่าพวกเราออกมาบิดเบือนความเป็นจริง เพราะฉะนั้นผมจะขอกล่าวหาพวกท่านบ้างได้ไหม ว่าเวลาท่านบอกข่าวแต่ละวัน ท่านหมกเม็ดอะไรบ้าง ท่านโกหกอะไรกับประชาชนบ้างได้ไหม ตกลงแล้วกระบวนกฎหมายมันอยู่ที่อะไร" เอกชัย กล่าว
นอกจากนี้ "ถ้าฟ้องผมในข้อหามาตราที่คุณบอก ผมก็จะฟ้องกลับคุณข้อหามาตราเดียวกัน คุณเอารูปผมไปออก คุณเอาชื่อผมไปประกาศว่าผมทำอย่างงั้นผมทำอย่างนี้ ถ้าเกิดคนเขาไม่รู้ว่าผมพูดอะไรไป ผมก็กลายเป็นคนผิดแล้ว ผมเสียชื่อแล้ว ผมว่าวันนี้ ชื่อเสียงผม เสียงที่เราได้จากทุกคน มันก็มาจากประชาชน ผมไม่เคยได้มาจากนักการเมือง ฉะนั้นอะไรที่ประชาชนเจ็บปวด เราก็เจ็บปวด ทุกอย่างมันเจ็บปวด หากวันนี้คุณไม่พอใจกับสิ่งที่ออกมาเรียกร้อง ก็ออกมาเท่านั้นเองครับ ทำไมจะต้องไล่ฟ้องประชาชน ผมพร้อมเมื่อใดคุณส่งหมายผม ผมฟ้องกลับคุณแน่นอน"
ขณะที่นายชูเกียรติ เอี่ยมสุข หรือ นุ้ย เชิญยิ้ม ศิลปินตลกชื่อดัง ก็ออกมาเคลื่อนไหวผ่านอินสตราแกรม @nui_chernyim ระบุว่า "อย่าหาทำเลยครับ ถ้าท่านผู้นำทำดีแล้ว ไม่มีใครเขาออกมาพูด ออกมาด่า ให้เสียเวลาทำมาหากินหรอกครับ อย่าปิดหู ปิดตา ปิดปาก ดาราก็คือประชาชน และประชาชนเขาก็สนับสนุนดารา และยังสนับสนุนทางการเมือง เมื่อตอนที่พวกท่านมาหาเสียงอาสาเข้ามาดูแลบ้านเมืองไง...ปัดโธ่ เข้าใจยัง ฮะฮะฮะ"
“ตั้ม วราวุธ” ศิลปินหนุ่มอารมณ์ดี ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ทนไม่ไหว ออกมาโพสต์ถึงกฎหมาย มาตรา 34 ที่ว่าบุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น การจำกัดเสรีภาพดังกล่าว จะกระทำมิได้เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นเฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคง ของรัฐเพื่อคุ้มครองสิทธิ หรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือเพื่อป้องกันสุขภาพของประชาชน เสรีภาพทางวิชาการย่อมได้รับความคุ้มครอง แต่การใช้เสรีภาพนั้นต้องไม่ขัดต่อหน้าที่ของปวงชนชาวไทยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และต้องเคารพและไม่ปิดกั้นความเห็นต่างของบุคคลอื่น พร้อมแคปชั่นว่า “มันผิดอิหยังวะน่ะ #อ่านรัฐธรรมนูญก่อนนอน #กฎหมายสูงสุด”
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ติดต่อขอสัมภาษณ์วิดีโอคอล “ตั้ม วราวุธ” ถึงประเด็นนี้ “ตั้ม” กล่าวว่า จากประเด็นที่ดาราออกมาวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล แล้วโดนตรวจสอบ ตนอยากให้ดูเจตนาที่จะเรียกเข้าไปตรวจสอบว่าเรื่องอะไร หากเขามองว่าเป็นการสร้างกระแสข่าวปลอม เขาก็มีสิทธิ์ตามกฎหมาย เพราะอาจจะทำให้รัฐเกิดความไม่มั่นคง แต่การห้ามศิลปิน ดารานักแสดง หรือยูทูเบอร์ แสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์การเมือง อันนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเราคือประชาชน เราต้องพูดได้ ประชาชนมีสิทธิตั้งคำถาม
"ผมอยากถามกลับว่า ต่อไปก็คงจะไม่มีกินกันทั้งประเทศ จนกันไปหมด จนทั้งประเทศ เราต้องขอพูดหน่อยว่า ต้นเหตุมันคืออะไร อันนี้คือปลายเหตุที่เราช่วยกัน อยากถามว่าต้องแก้ที่ต้นเหตุไหม แก้ไม่ได้ควรทำยังไง ถ้าไม่ไหวควรทำยังไง ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะพูดจะเตือนไหม มีสิทธิ์ที่จะไม่เอาไหม ผมว่าประชาชนมีสิทธิ์นะ การที่เราสะท้อนปัญหาสังคม บ้านเมือง แล้วโดนเรียกตรวบสอบแบบนี้ ผมไม่อึดอัดนะ แต่คนจะยิ่งลุกฮือขึ้นมา ตามหลักของประเทศคือประชาธิปไตย เราต้องสู้ เราต้องเรียกร้อง ยิ่งเขาทำแบบนี้คนยิ่งออกมา ยิ่งทำแบบนี้น่าเกลียด ศิลปินดาราอยู่ได้เพราะประชาชน ญาติพี่น้องแย่ เพื่อนฝูงก็แย่ ดาราก็ไม่มีงานนะ"
อย่างไรก็ตาม หนุ่มตั้ม ยังฝากทิ้งท้ายว่า "แก้ที่ต้นเหตุก่อน อย่าเพิ่งแก้ที่ปลายเหตุ ผมเชื่อว่าผู้หลักผู้ใหญ่มองออกว่า สาเหตุมันคืออะไร ขอลดความรักตัวเองลง ลดความเห็นแก่ตัวลง มองรอบ ๆ ตัวว่าทุกวันนี้มันเป็นยังไง เสียงร้องไห้ของประชาชน มันดังแล้วนะ ไม่เปิดโทรศัพท์ก็ต้องมีคนโทรมาพูดให้ฟัง ผมไหว้ขอแค่อยากให้เขาได้ยินเสียง ขอให้เขาคิดได้ในเร็ว ๆ ภาวนาขอให้เขาคิดได้ ผมไม่ด่านะ แต่ขอให้คิดได้ แก้ปัญหาที่ต้นเหตุให้คนไทย ว่ามันแย่ไปหมดแล้ว พอแล้วกับสิ่งที่เขาได้ไปพอแล้ว"
เช่นเดียวกับ น.ส.พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือ พิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง โพสต์ผ่านทางอินสตาแกรม @pimrypie ว่า "เป็นแม่ค้ามาตลอดชีวิต…แต่สิ่งที่จะไม่ทำ! คือค้าขายบนความตายของคน! เขาออกมาพูดกันขนาดนี้ แทนที่จะฟังกลับมองเป็นศัตรู กูจะคอยดูจุดจบของคนค้าความตายอย่างพวกมึง อำนาจปิดปากคนได้ แต่ปิดปากเวรกรรมไม่ได้หรอก"
นอกจากนี้ หนุ่มนักร้องเสียงหนุ่ม "อะตอม ชนกันต์" ยังได้ออกมาดีดกีต้า และร้องเพลงประกอบขับไล่รัฐบาล ผ่าน Tiktok โดยช่วงหนึ่งของเพลง ระบุว่า "เรายังต้องทนอีกกี่ปี ออกไปตอนนี้เลยได้ไหม หยุดทำร้ายประเทศไทย ออกไปตอนนี้ยังไม่สาย หรือไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ หรือคุณไม่เคยเห็นใจประชาชน"