กรมสรรพสามิต-กรมศุลกากร ยืนยัน ผ้าอนามัยแบบสอด ไม่ได้เสียภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย 30% โดยเสียแค่ VAT 7% เท่านั้น แจงประกาศให้เป็นเครื่องสำอาง เพื่อควบคุมคุณภาพตามกฎกระทรวงสาธารณสุข
วันนี้(22 ก.ค.64) จากกรณีราชกิจจานุเบกษา ประกาศผ้าอนามัยแบบสอดเป็นเครื่องสำอาง ทำให้โซเชียลเกิดความกังวลว่าจะมีการเก็บภาษีเพิ่มเป็น 30% แม้เป็นสินค้าจำเป็นหรือไม่ ล่าสุดนายลวรรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว ว่า กรมสรรพสามิต ไม่มีนโนบายการจัดเก็บภาษีผ้าอนามัยตามที่เป็นข่าว และไม่เคยมีการกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ซึ่งปัจจุบันกรมสรรพสามิตมีการจัดเก็บภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยเพียงรายการเดียว คือ น้ำหอม ในอัตราภาษีตามมูลค่า 8%
ทั้งนี้ ปัจจุบันผ้าอนามัยเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% เท่านั้น ไม่ได้เสียภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยหรือมีเพดานการจัดเก็บภาษี 30% ตามที่เป็นข่าว เพราะสินค้าผ้าอนามัยไม่ถือว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นที่สตรีต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้น ในนิยามการเสียภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย คือ ถ้าไม่มีใช้ ก็ไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าส่งผลกระทบ ก็ให้ถือว่าเป็นสินค้าที่ไม่ฟุ่มเฟือย
ขณะที่ นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยถึงกรณีกระทรวงสาธารณสุข ประกาศให้ผ้าอนามัยแบบสอดเป็นเครื่องสำอางว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษี แต่เพื่อเป็นการควบคุมตามกฎหมายของสาธารณสุข โดยในส่วนของกรมศุลกากรยืนยันว่าไม่มีนโยบายเพิ่มอัตราภาษีสินค้าผ้าอนามัยแบบสอดแต่อย่างใด ที่สำคัญหากมีการนำเข้าโดยใช้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรจากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ก็จะได้รับการยกเว้นอากรขาเข้าอีกด้วย
ทั้งนี้ในราชกิจจานุเบกษา ดังกว่า ระบุว่า เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ นิยามของคำว่า “เครื่องสำอาง” ในมาตราที่ 4 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ได้บัญญัติให้วัตถุอื่นที่กำหนดโดยกระทรวงเป็นเครื่องสำอาง และโดยที่มีความจำเป็นต้องควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของผ้าอนามัยชนิดสอดเพื่อให้สามารถคุ้มครองความปลอดภัยและอนามัยของผู้บริโภคได้ สมควรกำหนดให้ผ้าอนามัยชนิดสอดเป็นเครื่องสำอาง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "นิวซีแลนด์" เตรียมแจกผ้าอนามัยฟรี ในโรงเรียนทั่วประเทศ
- สกอตแลนด์ผ่านกฎหมายแจก "ผ้าอนามัย" ฟรี! ชาติแรกของโลก
- ราชกิจจานุเบกษา ประกาศระเบียบใหม่ 7 ช่องทางการชำระภาษีรถยนต์ มีผลแล้ว