กรณีนายสำเริง ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อายุ 57 ปี พานางหงส์ ภรรยาชาวบ้าน อายุ 55 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกันหายไป ซึ่งทั้ง 2 คนต่างมีสามีและภรรยากันอยู่แล้ว ฝ่ายผู้ใหญ่บ้านมีลูก 3 คน ฝ่ายเมียชาวบ้านมีลูก 2 คน
โดยทั้งคู่หนีไปจากหมู่บ้านหลายวันแล้ว กลับมารับสารภาพว่ารักกัน และอยากอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยา โดยสามีของฝ่ายหญิง ยอมยกเมียให้ผู้ใหญ่บ้าน โดยไม่เอาผิด หากยกที่ดินให้ลูกทั้งหมด
ต่อมามีการเผยแพร่คลิปการเจรจากันของญาติทั้งสองฝ่าย เป็นภาษาท้องถิ่นเขมร มีการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใจความว่า "อายุกว่า 50 ปีแล้ว ก็แค่นี้แหละ พูดแบบนี้แหละ จะจุกอกตายแล้ว แม่ยายฝั่งนู้นก็รอดูอยู่ ฉันพูดแบบนี้แหละ เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว มันเลือกทางเดินแบบนั้นก็ปล่อยไปไปเลย เขาชอบรุกป่าก็ปล่อยขา เราจะบังคับทำไม เขาเดินทางมืดไม่มีใคร"
วันที่ 22 ก.ค. 64 นายสมอินทร์ กะเชิญรัมย์ กำนันตำบลสวายจีก บอกว่า เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง มีผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านหนึ่งในต.สวายจีก หนีไปกับหญิงวัย 55 ปี โดยทั้ง 2 คนต่างฝ่ายต่างมีสามีและภรรยา ฝ่ายผู้ใหญ่บ้านมีลูก 3 คน ฝ่ายหญิงมีลูก 2 คน
โดยทั้ง 2 คนหนีออกจากหมู่บ้านไปได้ประมาณ 5 วันแล้วกลับมา และทั้ง 2 คนยอมรับว่า "รักกัน อยากอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยา" ทำให้เรื่องดังกล่าว ชาวบ้านต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก โดยสามีฝ่ายหญิงไม่ติดใจเอาความ แต่ไม่ยอมหย่าให้ เพราะยังมีทรัพย์สินค้างร่วมกันอยู่ ต่อมาฝ่ายหยิงยินยอมยกที่ดินทั้งหมดที่เป็นชื่อของตัวเองให้ลูกทั้ง 2 คน สามีจึงยอมยกภรรยาให้ผู้ใหญ่บ้าน โดยไม่ติดใจ
ส่วนภรรยาผู้ใหญ่บ้านไม่ขอรับให้หญิงคนดังกล่าวมาเป็นภรรยาคนที่สอง และไม่ให้เข้ามาอยู่ในบ้าน โดยทั้ง 2 คน ตัดสินใจไปอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง การเจรจาวันนั้นถือว่าจบลงด้วยดี เพราะทั้ง 2 ฝ่ายไม่ติดใจ แต่ชาวบ้านไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เตรียมที่จะรวบรวมรายชื่อเพื่อปลดผู้ใหญ่บ้าน และอยากถามถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าการกระทำในลักษณะนี้ผิดศีลธรรมของตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านหรือไม่
ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามนางหงส์ ถึงความรู้สึกที่ได้หนีไปกับผู้ใหญ่บ้าน แต่นางหงส์ไม่ขอให้ข้อมูล อ้างว่าไม่สะดวก
ขณะที่นายปิ๊ก (นามสมมติ) อายุ 63 ปี สามีนางหงส์ ออกมาระบุว่า ตอนที่ไปคุยกันที่บ้านกำนัน ตนยอมรับว่าได้พูดออกไปจริงว่าจะไม่เอาภรรยาคืน จะยกให้ผู้ใหญ่บ้าน พูดไปแค่ประชด แต่ที่จริงแล้วยังรักและเป็นห่วงภรรยา เพราะอยู่กันมานาน "ยังรอเธอกลับมา"
ด้าน น.ส.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ 54 ปี น้องสะใภ้สามีนางหงส์ กล่าวว่า เรื่องระหว่างผู้ใหญ่บ้านกับคู่สะใภ้ ตนรู้มานาน ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา เพราะมีความผิดปกติ ทั้งมารับส่งและติดต่อกันทางเฟชบุ๊ก และโทรศัพท์กหากัน จนลูกสาวจับได้ ตนจึงได้เตือนว่าอย่าทำ แต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งเรื่องมาแดงขึ้น ส่วนตัวไม่ขอวิจารณ์แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีคลิปวิดีโอที่ชาวบ้านทึกไว้ขณะที่มีการเจรจากัน แต่สุดท้ายยังหาข้อยุติไม่ได้เกี่ยวกับการดำเนินการทางคดีความ ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านก็ออกไปอยู่กับภรรยานอกกฎหมาย
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่มายังบ้านของผู้ใหญ่บ้านหลังที่อยู่กับภรรยา ที่ถูกต้องนามกฎหมายที่บ้าน ม.7 ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นางเข็ม (นามสมมติ) เพื่อนบ้านผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัวเองก็รู้สึกรับไม่ได้ เพราะชาวบ้านในหมู่บ้านไม่ได้อยากให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านของตัวเอง
สำหรับผู้ใหญ่บ้าน และนางหงส์ ทั้งสองคนก็เป็นคนดีทั้งคู่ กรณีที่ขาวบ้านจะล่ารายชื่อปลดผู้ใหญ่บ้าน ตัวเองก็คิดว่าแล้วแต่มุมมองชาวบ้านแต่ละคน แต่ตัวเองจะไม่ลงชื่อปลดผู้ใหญ่บ้าน เพราะคิดว่าเขาก็บริหารหมู่บ้านค่อนข้างดี ที่ผ่านมาภรรยาของผู้ใหญ่บ้านก็เคยมาระบายให้ตัวเองฟังว่าสงสารลูก ๆ ของเขา ไม่อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่มีข่าวของผู้ใหญ่บ้านตัวเองก็ยังไม่เห็นผู้ใหญ่บ้านกลับมาที่บ้านของเขา หลังที่อยู่กับภรรยาแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ทีมข่าวเดินทางมายังบ้านของผู้ใหญ่บ้านอีกหลัง ที่อยู่กลางหมู่บ้าน และอยู่ระหว่างการก่อสร้างนั้น พบว่าไม่มีใครอยู่บ้าน ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านในละแวก บอกว่าเป็นการสร้างขึ้นเพื่ออยู่อาศัยของผู้ใหญ่บ้านและสาวคนใหม่