เมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 26 ก.ค. 64 เจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมด้วยสมาคมกู้ภัยลำปาง จุดสบปราบ สมาคมกู้ภัยลำปาง จุดเถิน ได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักชนต้นไม้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายใน เป็นชาย 1 คน เหตุเกิดบริเวณ กม.640-641 ต.แม่ถอด อ.เถิน จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังพร้อมอุปกรณ์เครื่องตัดถ่างรุดไปให้การช่วยเหลือ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เถิน เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุใกล้กับทางโค้ง 200 เมตร บริเวณร่องกลางถนนพบรถกระบะ 4 ประตู สีขาว ทะเบียน 7กข 2553 กรุงเทพมหานคร พลิกตะแคงข้าง สภาพหน้ารถพังยับเยิน หลังคารถยุบ กระจกหน้าแตก โดยมีรอยชนกับต้นไม้ที่ร่องกลางถนน และพบผู้ได้บาดเจ็บติดภายในซากรถ เจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์ตัดถ่างให้การช่วยเหลือนำออกมาได้
เบื้องต้นผู้ได้รับบาดเจ็บไม่รู้สึกตัว ไม่มีชีพจร ทำการปั๊มหัวใจ (CPR) เป็นผลสัญญาณชีพกลับมาอีกครั้ง จึงได้ประสานขอสนับสนุนทีมกู้ชีพ รพ.เถิน (ALS) นำเปลี่ยนถ่ายรถกู้ชีพ รพ.เถิน ส่งต่อดำเนินการรักษา ก่อนจะนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลลำปาง ต่อมาทราบผู้บาดเจ็บคือ ทราบชื่อคือนายอะตอม สัมพันธภาพ อายุ 36 ปี
ล่าสุด วันที่ 27 ก.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่ตรงบริเวณจุดเกิดเหตุ เป็นถนน 2 เลน ข้างทางและร่องกลางเป็นต้นไม้ ไม่มีบ้านเรือนของประชาชน ส่วนที่เกิดเหตุบริเวณร่องกลางถนนมีรอยยางรถ เศษส่วนชิ้นของรถ และเอกสารกระจัดกระจาย นอกจากนี้ บริเวณลำต้นของต้นไม้ใกล้กับจุดเกิดเหตุพบว่ามีรอยการพุ่งชนใส่ ขณะเดียวกันะจุดเกิดเหตุยังห่างจากทางโค้ง 200 เมตร จากการสังเกต พบว่า ถึงแม้ว่าจะฝนตกรถยนต์ที่สัญจรผ่านไปมาขับกันด้วยความเร็ว และถนนลื่น
นายนพดล ฮะไชโย อายุ 40 ปี รุ่นพี่ของอะตอม เผยว่า ก่อนเกิดเหตุอะตอมได้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อจะเดินทางไปยังสมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ใต้ สำนักงานใหญ่ ที่เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เนื่องจากต้องมาประสานงานโครงการอาสาพากลับบ้าน โดยเป็นโครงการเกี่ยวกับนำตัวผู้ป่วยโควิดกลับบ้านเกิด ซึ่งอะตอมเดินทางมาเพียงลำพัง เนื่องจากเป็นบุคคลที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว
ภายหลังจากที่เดินทางมาถึง จ.ลำปาง จึงได้เกิดเหตุ จากนั้นตนได้ทราบข่าวมาจากทางหน่วยกู้ภัย ยอมรับตกใจมาก จึงรีบติดต่อทางกู้ภัยและครอบครัว พอรุ่งเช้าวันนี้จึงรีบเดินทางมาดูอาการ ขณะนี้อาการล่าสุดของอะตอม เบื้องต้นมีอาการตอบสนอง ขยับนิ้วขยับเท้าได้
ส่วนอุบัติเหตุครั้งนี้ ตนคาดว่าอะตอมไม่ชำนาญเส้นทาง ประกอบกับฝนตก ทำให้ถนนลื่น ปกติแล้วพวกตนหากจะเดินทางมาประสานงานจะโดยสารทางเครื่องบิน แต่ครั้งนี้สนามบินไม่มีเที่ยวบิน และขอยืนยันว่าอะตอมไม่ได้ขับรถด้วยความเร็ว เพราะลักษณะนิสัยที่ผ่านมาเขาขับขี่ด้วยความปลอดภัย เป็นจิตอาสาห่วงใยผู้อื่นมากกว่าตนเอง ซึ่งตอนนี้ก็ช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดให้ได้กลับยังภูมิลำเนาเพื่อรักษาอาการด้วย
สำหรับครอบครัวนั้นตนยังไม่ได้พูดคุยสอบถาม แต่เชื่อว่าทุกคนกำลังตกใจ และตื่นตระหนกกับเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนไม่มีลางสังหรณ์ พูดคุยกันครั้งสุดท้ายเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องผู้ติดเชื้อโควิด ทั้งนี้ ตนก็อยากให้ทุกคนให้กำลังใจอะตอม เนื่องจากเขาทำเพื่อสังคมมามาก
