จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพ นางสาววราพร อิ่มอาหาร อายุ 40 ปี พนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกใช้เสื้อผ้ารัดคอ ของแข็งทุบที่ศีรษะจนเสียชีวิต แล้วนำร่างทิ้งลงในคลองบางพระครู หมู่ 3 ต.ตาลเอน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา คนร้ายได้เผาเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิตเพื่อทำลายหลักฐานนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เจอแล้ว! กระบะดำขับจี้สาวถูกฆ่าเปลือย ขับใกล้ศพ อึ้งหนุ่มลึกลับโผล่ก่อนตาย
- ฆ่าโหดรัดคอสาวหมกคลอง คุมผัวสอบเครียด เชื่อคนสนิทแก้ผ้าศพจัดฉากขโมยทอง
- เปิดวงจรปิดก่อนสาวถูกฆ่าเปลือย พยานแฉฉะลูกหนี้ก่อนตาย เจอรถ 4 คันต้องสงสัย
ทันทีที่แพทย์จากโรงพยาบาลบางปะหันโทรมาแจ้งกับนายวิษณุว่านางสาววราพรติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พระภิกษุสงฆ์วัดทางกลาง รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็สวมชุด PPE หามโลงศพขึ้นไปบนเมรุ ซึ่งมีกำหนดการให้เผาอย่างเร่งด่วน โดยมีการสวดอภิธรรมอย่างสั้น ๆ และญาติเพียงไม่กี่คน
ล่าสุด วันที่ 30 ก.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังวัดทางกลาง ที่จัดงานศพเป็นวันที่ 3 บรรยากาศโศกเศร้า นายวิษณุ อิ่มอาหาร สามีผู้เสียชีวิต บอกว่า เมื่อวานเจ้าหน้าที่เรียกไปสอบปากคำเพิ่มเติม ไม่มีอะไรที่ติดใจ เพราะตำรวจก็ไม่ได้บอกความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีหรือตัดปมไหนทิ้งออกไป เป็นการพูดคุยปกติ ถามว่าสงสัยใคร ซึ่งตนก็อยากช่วยให้เบาะแสตำรวจ การที่ตนไม่ได้สงสัยใคร เพราะตนไม่ทราบสาเหตุจริง ๆ
ทั้งนี้ ตนมาเห็นภาพกล้องวงจรปิดจากอมรินทร์ ทีวี ก็ยังดูไม่ค่อยชัดว่าเป็นรถอะไร ยี่ฮ้ออะไร ซึ่งก็ไม่อยากไปกล่าวหาใคร เพราะ ส่วนที่ตนยังไม่เกิดความสงสัย เนื่องจากไม่เคยมีปัญหาหรือศัตรูกับใคร ส่วนภรรยานั้นตนก็ไม่ทราบจริง ๆ เพราะเขาเองก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ตนฟัง และเรื่องเงินกู้ก็ไม่มีจริง ๆ
สภาพจิตใจในตอนนี้ตนก็รู้สึกแย่ ที่ตนไม่ได้ร้องไห้ ไม่ได้แปลว่าไม่ได้เสียใจ คนที่ไม่ได้อยู่กับตนตลอดเวลาจะรู้ได้อย่างไร ตนอาจจะกลับบ้านไปร้องไห้ที่บ้านก็ได้ แต่ตนต้องเข้มแข็งให้ลูกเห็น เพราะเห็นว่าลูกสาวแอบไปนอนร้องไห้ ส่วนตนเวลาคิดถึงก็เปิดเฟซบุ๊กภรรยา ดูรูปที่เคยไปกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันพ่อแม่ลูก แต่ก็ทำได้แค่นั้นจริง ๆ นอกจากนี้ ภรรยาไม่ได้มาเข้าฝัน หรือมาให้เห็นเพราะภรรยารู้ว่าตนเป็นคนกลัวผี และขี้ขลาดตาขาวมาก
ส่วนกำหนดการเผาอาจจะมีการฌาปนกิจศพในเวลา ผลตรวจของภรรยาติดเชื้อโควิด-19 ตนก็ติดเชื้อ 100% ซึ่งใกล้จุดพบศพ หน้ากากอนามัยที่ภรรยาตนสวมใส่มันหลุดออก คิดว่าคนก่อเหตุก็น่าจะติดเชื้อไปด้วย เหมือนเวรกรรมตามทัน
ส่วนรถกระบะสีขาวของนายวิษณุ ซ่อมที่อู่รถยนต์ โดยนำเข้าศูนย์บริการตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.64 และจะได้รถคืน วันที่ 23 ส.ค.64 โดยสาเหตุที่นำรถเข้าศูนย์เพราะนางสาววราพรขับรถไปชนกับกับขอบฟุตพาท เมื่อ 3 เดือนที่แล้วจนสีถลอก
นางสาวลำไย (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน บอกว่า นายวิษณุเป็นหลานของลูกพี่ลูกน้องตน ตนเคยยืมเงินนางสาววราพร ผู้เสียชีวิต 20,000 บาท เมื่อช่วงเดือน พ.ค. 62 โดยมีการผ่อนเงินคืนเดือนละ 500 บาท ตอนนี้ยังคงค้างอยู่ที่ 7,000 บาท ซึ่งไม่มีดอกเบี้ยเพราะเป็นการให้ยืมแบบคนรู้จักกัน ไม่ใช่การกู้นอกระบบ บางเดือนที่ตนหาเงินมาส่งไม่ทัน นางสาววราพรก็ช่วยเลื่อนนัดผ่อนให้ ด้วยความเข้าใจ เวลาทวงเงินก็จะแค่เดินมาบอกว่าถึงกำหนดจ่ายเงินแล้วนะ ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากัน ความสัมพันธ์ทั้งตนและผู้เสียชีวิตปกติดี ชวนกินข้าวด้วยกันปกติ แต่จะไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะเวลาไม่ตรงกัน
ส่วนอุปนิสัยของผู้เสียชีวิตเป็นคนดีมาก ชอบทำขนมมาแบ่งปัน ทำกับข้าวก็ตักมาเผื่อให้ เมื่อตอนทราบข่าวตนรู้สึกตกใจ และสงสารนางสาววราพรอย่างมาก และก็สงสารนายวิษณุกับลูกสาวที่ต้องสูญเสียคนรักในครอบครัวไป ส่วนงานสวดงานศพตนก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปร่วมงาน แต่ก็ช่วยทำบุญตามกำลังไปก่อน และจะทยอยส่งเงินที่เป็นหนี้ที่เหลือให้กับนายวิษณุแทน ทั้งนี้ อยากให้เจ้าที่ตำรวจเร่งจับตัวคนก่อเหตุให้ได้ไว ๆ
นางสาวดาว (นามสมมติ) พยานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกไปสอบปากคำ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 64 บอกว่า วันที่ 26 ก.ค.64 ตนเดินทางไปหาพี่ชายกับสามีซึ่งต้องผ่านซอยที่มีคนพบศพผู้เสียชีวิต เวลาประมาณ 20.00 น. กว่า ตนและสามีเดินทางกลับบ้าน โดนขับรถจักรยานยนผ่านจุดพบศพไป ก็ไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติ กระทั่งขับออกจากซอยไปถึงจุดที่เห็นผู้ชายและผู้หญิงยืนหลบฝนคุยกันอยู่ที่ใต้เพิงหลังคา ห่างจากจุดพบรถจักรยานยนต์ PCX ของผู้ตาย 100 เมตร ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติเ พราะคนจะจอดรถจักรยานยนต์ตรงนั้นค่อนข้างเยอะ
จากนั้น วันที่ 27 ก.ค.64 ตนเดินทางไปบ้านพี่ชายอีกครั้ง และพี่ชายก็แซวตนว่าไปฆ่าใครตายมาหรือเปล่า ตนก็ตกใจว่าจะไปฆ่าใครที่ไหน จนพี่ชายบอกข่าวว่าพบศพคนตายที่คลอง ทางผ่านที่ตนผ่านตอนขากลับบ้านกับสามี ในห้วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจว่าตนเห็นผู้ชายผู้หญิงยืนคุยกัน 2 คน ใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งความจริงแล้วค่อนข้างไกลกัน เพราะจากจุดที่พบศพ มาเพิงหลังคาตรงจุดที่พบเจอคนยืนคุยกัน มีระยะห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร หลังจากที่ให้ปากคำกับทางเจ้าที่ตำรวจ ก็ได้ทำการสร้างความเข้าใจใหม่แล้ว ซึ่งตนก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับตัวคนก่อเหตุให้ได
พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ให้ข้อมูลว่า ผลการชันสูตรศพพบว่ามีคราบอสุจิอยู่ที่ตัวผู้เสียชีวิต และเนื้อเยื้ออยู่ในเล็บของผู้เสียชีวิตนั้น ขอยืนยันว่ายังไม่มีข้อมูลที่ตน เนื่องจากผลชันสูตรเพิ่งไปเร่งทางนิติเวชด้วยตัวเอง ผลอาจจะออกโดยเร็วที่สุดไม่เกิน 2-3 วันหลังจากนี้ และขอให้เชื่อใจ ถ้ามีข้อมูลก็จะให้ตามความเป็นจริง เบื้องต้นในวันนี้มีการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไป swab test covid เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพราะผู้เสียชีวิตติดเชื้อโควิด-19 และเจ้าหน้าที่ก็ค่อนข้างเสี่ยง เพราะได้สอบปากคำกับคนในครอบครัวของผู้เสียชีวิต รวมถึงชุดที่อยู่หน้างานตอนพบศพ
ทั้งนี้ ยังไม่มีการตัดปมใดทิ้งไป โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังเร่งตรวจภาพกล้องวงจรปิด และสอบปากคำจากพยานเพิ่มเติม ซึ่งจับต้นชนปลายไม่ได้ เพราะบางช่วงเวลาของกล้องไม่เชื่อมต่อกัน ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน และคาดว่าจะค้นหาเบาะจนสามารถจับตัวคนร้ายได้เร็ว ๆ นี้
ด้านหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัย บริษัทที่นางสาววราพรทำงาน บอกว่า โรงงานนี้มีคนเข้างาน 2 เวลา กะเช้าคือ 08.00-17.00 น. และกะกลางคืน 18.00-08.00 น. ส่วนเวลาเลิกงาน จะมีคนเลิก 17.00 น. กับ 20.00 น. ซึ่งเวลา 20.00 น. จะเป็นเวลาที่มีพนักงานที่ทำโอทีต่อเลิกงานเยอะที่สุด ในโรงงานยังคงเปิดทำงานปกติ
โดยบรรยากาศบริเวณหน้าบริษัท จะมีทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์มาจอดเพื่อรอรับสามีภรรยากันจุดนี้หลายคัน ส่วนจุดที่มีการจอดรถจักรยานยนต์ของพนักงานจะอยู่ข้างหลังโรงงาน ส่วนวันที่นางสาววราพร ผู้เสียชีวิต ขับรถออกไป ตนจำไม่ได้ว่าออกไปตอนไหน เพราะคนออกเวลานี้กันเยอะ อีกทั้งตนก็ไม่รู้จักกันกับผู้เสียชีวิตด้วย และกฎของพนักงานรักษาความปลอดภัยที่นี่คือจะไม่ให้สนิทสนมกับพนักงาน ส่วนทางเข้าออกของบริษัทมีทางเข้าออกทางเดียว