วันที่ 2 ส.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรอซารี หลำโสะ ที่เจ้าหน้าทีวิสามัญวันนี้ เป็นน้องชายของนายบูคอรี หลำโสะ ที่ยังคงกบดาน และหลบซ่อนตัวอยู่ นอกจากนี้ยังมีแฝดอีก 1 คน คือนายซอบรี หลำโสะ ที่ถูกวิสามัญไปแล้ว พื้นที่บ้านคอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อ 21 พ.ย. 62
โดยทั้งสามพี่น้องเลือกเส้นทางสายต่อต้านรัฐ ถือเป็นแกนนำคนสำคัญที่ก่อเหตุในหลายพื้นที่มาอย่างโชกโชน ทั้งก่อเหตุใน อ.หนองจิก อ.โคกโพธ์ จ.ปัตตานี และ อ.เทพา อ.สะบ้าย้อย อ.นาทวี จ.สงขลา ทั้ง 3 คนมีพื้นที่รับผิดชอบก่อเหตุรอยต่อปัตตานี-สงขลา
ซึ่งทั้ง 3 พี่น้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรงหลายคดี บางเหตุการณ์ไปคนเดียว บางเหตุการณ์ไปทั้ง3 พี่น้อง โดยทั้ง 3 คนก็เชื่อมโยงเหตุคาร์บอมบ์หน้าห้างบิ๊กซี ปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 60 คดีปล้นรถกระบะ 6 คัน จากเต็นท์รถวังโต้คาร์เซ็นเตอ ในอ.นาทวี จ.สงขลา นำไปทำคาร์บอมบ์เมื่อวันที่ 16 ส.ค.60
นอกจากนั้น ยังเชื่อมโยงคดีโจมตีจุดตรวจ ชคต.บ้านกอแลปิเละ ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 62 คดีปล้นร้านทองใน อ.นาทวี เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 62 และอีกหลายคดี อย่างไรก็ตาม นายบูคอรี หลำโสะ เป็นบุคคลเดียวที่ตระกูลหลำโสะเหลืออยู่ และยังคงหลบซ่อนตัวอยู่
พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ปะทะ มีคนร้ายทราบชื่อนายรอซารี หลำโสะ มีหมายจับหลายหมาย ซึ่งสืบทราบว่าได้เข้ามากบดานในพื้นที่ จึงทำการติดตาม
กระทั่งพบเจออยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็พยายามอย่างเต็มที่ในการเจรจา โดยนำผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา และครอบครัว ให้เข้ามาพูดคุย
ซึ่งถ้าเขาออกมาพูดคุยกัน ทางเจ้าหน้าที่เองก็ยินดีจะรับเงื่อนไขต่าง ๆ แต่ก็ไม่เป็นผล คนร้ายได้ใช้อาวุธตอบโต้และยิงใส่เจ้าหน้าที่จึงทำการป้องกันตัว จนเกิดความสูญเสีย เจ้าหน้าที่ก็ต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามอย่างเต็มที่ อีกทั้งเดินทางไปหาครอบครัวของเขาที่ อ.เทพา ให้ช่วยเดินทางเจรจา แต่ทางครอบครัวก็ไม่สะดวกที่จะมา
และล่าสุดญาติกับภรรยาผู้ต้องหาทราบเรื่อง และมาเก็บร่างของผู้เสียชีวิต เพื่อนำไปดำเนินการทางศาสนาต่อไป