ชาวอัฟกันนับหมื่นคนต่อวัน แห่เข้าคิวรอทำพาสปอร์ต เตรียมเผ่นหนีออกนอกประเทศ หลังกลุ่มตาลีบันยึดพื้นที่ได้แล้วกว่าครึ่งประเทศ
ประชาชนชาวอัฟกันแห่เดินทางกันมายื่นเรื่องขอทำหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต จำนวนหลายหมื่นคนต่อวัน สำหรับใช้เดินทางออกนอกประเทศ หลังจากที่นักรบกลุ่ม ตาลีบัน สามารถยึดพื้นที่จากฝ่ายรัฐบาลอัฟกานิสถาน ได้แล้วกว่าร้อยละ 50 หรือครึ่งหนึ่งของประเทศ
รายงานข่าวระบุว่า บรรยากาศตามศูนย์ออกหนังสือเดินทางต่างๆ ทั่วอัฟกานิสถาน โดยเฉพาะที่กรุงคาบูล ซึ่งเป็นเมืองหลวง ต่างเต็มไปด้วยประชาชนจำนวนหลายหมื่นคนต่อวัน ที่แห่เดินทางกันมาทำพาสปอร์ต ท่ามกลางความกังวลและหวาดกลัวว่า ชีวิตของพวกเขาจะตกอยู่ในอันตราย หากกลุ่มตาลีบัน ได้กลับเข้ามาปกครองประเทศอีกครั้ง
กระแสความหวาดกลัวกลุ่มตาลีบัน มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศถอนกำลังทหารอเมริกันทั้งหมด พร้อมด้วยล่ามชาวอัฟกัน และลูกจ้างชาวอัฟกันที่ทำงานให้กองทัพสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถาน ภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ ทำให้รัฐบาลอัฟกานิสถาน ตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตด้านความมั่นคง และต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากกลุ่มตาลีบันเพียงลำพัง
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวที่ระบุว่า ทหารและตำรวจของอัฟกานิสถานที่มีจำนวนกว่า 350,000 นาย ได้เริ่มละทิ้งหน้าที่ และพากันหนีตายออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ทาจิกิสถาน และอิหร่านกันแล้ว เพราะหวั่นเกรงว่า พวกตนจะถูกสังหาร หากยังดึงดันสู้รบ กับกลุ่มตาลีบันต่อไป ถึงแม้กลุ่มตาลีบันจะมีจำนวนนักรบราว 100,000 -120,000 คน ซึ่งน้อยกว่าจำนวนตำรวจ-ทหารของรัฐบาลอัฟกันเกือบ 3 เท่าตัว