จากกรณีวันที่ 3 ส.ค. 64 เวลา 15.00 น. ร.ต.อ.ประมวล ตรีเดช รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งว่า พบผู้เสียชีวิตในพงหญ้า สภาพศพผู้เสียชีวิต ถูกห่อด้วยผ้าปูเตียงแบบลายและผ้าเปลนอน มัดเชือกไว้ข้างนอก ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว
ศพเพศหญิงอายุประมาณ 30-40 ปี ไม่พบเอกสารยืนยันตัวตน สวมกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ สวมเพียงเสื้อชั้นในสีดำ และมือทั้งสองข้างถูกเชือกมัดไพล่หลังไว้ บริเวณใบหน้าถูกของแข็งทุบจนปูดบวมและฟันเกือบหลุด คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 วัน บริเวณริมถนนสายนาไคร้-มุกดาหาร บริเวณบ้านขุมขี้ยาง ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์
วันที่ 4 ส.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่พบศพบริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านขุมขี้ยาง พบว่าจุดทิ้งอยู่ห่างริมถนนเพียง 3 เมตร มีหญ้าสูงราว 1.5 เมตร ห่างจากซอยราว 5 เมตร พบว่ายังคงมีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้ง
ทีมข่าวยืนอยู่เพียงริมถนน มีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดกาฬสินธ์ุกำลังลงพื้นที่หาเบาะแส โดยได้มีการตั้งข้อสังเกตอย่างหนึ่งกับทีมข่าว ระบุว่า บริเวณพื้นหญ้าริมถนน ซึ่งมีลักษณะเตียน ด้านล่างเป็นพื้นดินทราย มีรอยรถ 1 รอย คล้ายรอยจักรยานยนต์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่แน่ใจว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับผู้ที่นำศพมาทิ้งหรือไม่ เบื้องต้น กำลังหาเบาะแสก่อนว่าผู้ตายคือใคร เพื่อง่ายต่อการสืบสวน
นายภานุพงศ์ พลคิรี คนพบศพ เปิดเผยว่า วานนี้ตนเองไปเก็บเห็ดกับภรรยา และกำลังกลับเข้าบ้าน ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาซึ่งผ่านจุดพบศพ ขณะนั้นตนเองและภรรยาได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยมาเตะจมูก ทำให้ตนเองจึงจอดรถเพื่อหากลิ่นนั้น ส่วนตัวที่จอดรถหยุดหากลิ่น เนื่องจากหมาตนที่เลี้ยงเอาไว้หายไป 4-5 วันแล้ว และเข้าใจว่าหมาอาจจะถูกรถชนตายแล้วมาตายจุดนี้จึงจอดดู
เมื่อภรรยาตนหันไปเห็น จึงสะกิดตนให้หันไปดู ขณะนั้นตนและภรรยาไม่ได้ลงจากรถก็พบห่อผ้าอยู่ที่จุดดังกล่าว ภรรยาตนด้วยความกลัวจึงบอกให้ตนพาขับรถกลับบ้าน จังหวะนั้นเจอชาวบ้านคนหนึ่งเป็นคุณยายสวนกับตนออกมาพอดี จึงเรียกให้ไปดูว่าใช่ศพคนหรือไม่ เพราะตอนนั้นตนเองค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นศพคน ไม่ใช่หมาแน่นอน เนื่องจากขนาดใหญ่ เมื่อไปดูก็คิดว่าเป็นคน ตนก็กลับเข้าบ้านเพื่อส่งภรรยา ก่อนจะกลับมาดูอีกรอบ ตอนนั้นพบมีคนมาดูแล้วราว 7-8 คน เมื่อมาดูอีกรอบก็พบว่าเป็นศพคนอยู่ในห่อผ้า ขนาดใหญ่กว่าสัตว์ ส่วนตัวได้ผ่านจุดที่พบศพก่อนหน้านี้ 3 วัน ตอนนั้นยังไม่มีกลิ่น ยังไม่เห็นศพ
พ.ต.อ.บัณฑิต สิงหประชา ผู้กำกับ สภ.กุฉินารายณ์ ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบตัวผู้ตายว่าเป็นใคร เบื้องต้นวันนี้ได้ประชุมร่วมชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์ สืบสวนภูธรจังหวัดกาฬสินธ์ุ และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ได้แบ่งกระจายให้มีการสืบสวนหาผู้เสียชีวิตก่อนว่าเป็นใคร
โดยกระจายไปตามร้านอาหาร สถานบันเทิงว่ามีเด็กเสิร์ฟคนงานของร้านหายตัวไปหรือไป ไปสอบถามผู้นำชุมชน ว่ามีบุคคลหายหรือไม่ นอกจากนี้ แบ่งชุดติดตามกล่องวงจรปิดมุมต่าง ๆ และตะมีการประชุมชุดคลี่คลายคดีในวันพรุ่งนี้ช่วง 10.00 น. ที่ สภ.กุฉินารยณ์ เพื่อสรุปความคืบหน้า
ทีมข่าวเดินทางมาที่ร้านคาราโอเกะ ห่างจากจุดพบศพราว 15 กิโลเมตร นางแนน (นามสมมติ) เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า วันนี้ตำรวจได้เข้ามาหาตนเองเช่นกัน นำภาพใบหน้าของศพมาให้ดู สอบถามว่ารู้จักหรือไม่ ส่วนตัวยอมรับว่าตนเองคุ้นใบหน้าคนตาย ซึ่งคล้ายกับพนักงานเสิร์ฟที่ร้าน ออกจากร้านไปช่วง 1 ปีที่ผ่านมา รู้ว่าไปอยู่ จ.ขอนแก่น และย้ายต่อไปที่ จ.บุรีรัมย์ ส่วนที่คล้ายคือ 1.โครงหน้า 2.จมูกมีการทำศัลยกรรม 3.ฟัน 4.รูปร่าง 5.คิ้วมีการสัก
โดยหญิงคนนี้ก็อายุราว 30 ปี เป็นชาว สปป.ลาว เป็นคนนิสัยดี แต่ปากร้ายเวลาโมโห หากเป็นหญิงคนนี้อาจจะตายได้ ถ้าด่าใครเวลาโมโห หญิงคนนี้มีสามีคนไทย แต่เลิกกันไปหลังลาออกจากร้านราว 1 เดือน ตอนนี้ตนเองให้คนรู้จักพยายามติดต่อ แต่ติดต่อไม่ได้ จึงไม่แน่ใจว่าใช่คนเดียวกันหรือไม่
