เมื่อเวลา 08.30 น. ของวันที่ 5 ส.ค. 64 ร.ต.อ.อนุพงศ์ พ่วงพี ร้อยเวร สภ.แกลง ระยอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงคนเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 1 คน เหตุเกิดภายในสวนทุเรียน หมู่ 10 ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง
โดยผู้เสียชีวิตคือ พ.จ.ต.สามารถ แสนสุข อายุ 48 ปี สังกัดกองทัพเรือ ที่เพิ่งเออรี่ออกมา สภาพศพพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ท้ายทอย 1 นัด และที่ขาซ้าย 1 นัด
ใกล้กันพบผู้หญิงกำลังนั่งร้องไห้อยู่ นิ้วมือด้านขวา บริเวณนิ้วก้อย ถูกอาวุธปืนยิงโชกไปด้วยเลือด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นางเรณู แสนสุข ภรรยาผู้เสียชีวิต รวมทั้งนำศพไปตรวจพิสูจน์ ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ ตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ 4 ปลอก และพบรถยนต์กระบะ สีบรอนซ์เงิน ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน บว-7215 ชลบุรี มีรอยกระสุนเข้าที่กระจกด้านคนขับทะลุเป็นรูโหว่
ทีมข่าวเดินทางมาที่ สวนทุเรียนที่หมู่ 10 ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง จุดที่ผู้ตายกับเสียชีวิต นางสาวสุธารัตน์ แสนสุข พี่สาวผู้ตาย เปิดเผยว่า วันนี้เวลาประมาณ 07.30 น. ตนกับนายสามารถ ผู้ตาย กำลังจะเตรียมพ่นยาให้ต้นทุเรียน ซึ่งยืนห่างกันประมาณ 10 เมตร ส่วนนางเรณู ผู้ได้รับบาดเจ็บ และลูกชาย อายุ 3 ปี อยู่แถวบริเวณหน้าบ้านสวนติดกับประตูทางเข้า ขณะนั้นนายมืด ผู้ก่อเหตุ ได้ขี่รถจักรยานยนต์สีดำชมพู ใส่เสื้อสีดำลายทหาร โพกผ้าสีดำ เห็นแค่ดวงตา เดินลงมาจากรถแล้วควักปืนออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะยิงนายเรณูเข้าที่มือข้างขวา นางสาวเรณูเลยวิ่งหนีเข้ารถกระบะสีบรอนซ์เงิน
จากนั้นลูกชาย อายุ 3 ปีได้วิ่งมาหานายสามารถ นายสามารถเลยอุ้มลูกชาย เมื่อนายมืดเห็น ได้เดินมายิงนายสามารถที่กำลังกอดลูกชายอายุ 3 ปี ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หนีไป ก่อนที่จะหลบหนีไปได้ยิงเข้าที่รถกระบะสีบรอนซ์เงิน เพราะหวังจะยิงนางสาวเรณูซ้ำ ตนจึงตะโกนเรียกเพื่อนบ้าน และตอนนั้นเห็นลูกชายอายุ 3 ปีของผู้ตายพอดี ตนเลยเรียกให้เข้ามาหาตน
ส่วนตัวจำหน้าไม่ได้ แต่คาดว่าน่าจะเป็นคนที่เคยมาทำสวนให้ญาติพี่น้องที่รู้จักกัน ซึ่งตนไม่ทราบว่า นายสามารถรู้จักกับนายมืด โดยความสัมพันธ์ระหว่างภรรยาของผู้ก่อเหตุกับผู้ตายเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียน ส่วนตัวไม่ทราบสาเหตุ เพราะนายสามารถ ไม่เคยเล่าปัญหาส่วนตัวให้ฟัง และเป็นคนเรียบร้อย ไม่ค่อยพูด ขณะนี้ภรรยาได้รับบาดเจ็บ และรอผ่าตัดอยู่ ยังให้การณ์ไม่ได้ อยากจะให้จับได้ เพราะอยากจะรู้ว่า ทำไปเพื่ออะไร
นอกจากนี้ ตนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะตอนนี้ยอมรับว่ารู้สึกกลัว และเป็นกังวลมาก
สอบถามชาวสวนในที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนเข้ามาทำสวนและไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด อีกทั้งตนยังได้พูดคุยกับผู้ตายเรื่องสวนตามปกติ โดยวันนี้ช่วงเช้าผู้ตายจะเข้ามาพ่นยาในสวน ผู้ตายมาตั้งแต่เช้าเพราะจะเข้ามาพ่นยาทุเรียน ส่วนตนเมื่อคืนนี้ฝนตก เลยจะเข้ามาที่สวนในช่วงสาย ขณะที่ตนเข้ามา เหตุการณ์ได้เดินขึ้นแล้ว และมีรถของเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ ส่วนลูกชายของผู้ตาย อายุ 3 ปีเอาแต่นิ่งเงียบ ถามอะไรก็ไม่ตอบ ร้องไห้ตลอด ทั้งนี้ตนไม่เคยรู้เรื่องส่วนตัวของผู้ตาย เพราะคุยกันแต่เรื่องสวนทุเรียน และเมื่อวานนี้ยังคุยกันเรื่องทำสวนอยู่เลย
ด้านนายตั้ม (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ลูกชายของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ส่วนตัวไปทำงานในเมืองระยอง และเพิ่งจะกลับมาหลังจากทราบเรื่อง ซึ่งตนไม่ได้ค่อยติดต่อนายมืด พ่อของตน แต่ตนจะติดต่อกับแม่อยู่ตลอด ทั้งนี้ตนไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เพราะเท่าที่ทราบ พ่อของตนกับผู้ตานไม่ได้รู้จักกัน แต่แม่ของตนกับผู้ตายเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนโรงเรียนประถมศึกษา เพิ่งจะกลับมาคุยได้ประมาณ 4-5 ปี เพราะมาเจอกันในเฟซบุ๊ก และติดต่อกันเรื่อยมา มีการคุยกันเหมือนเพื่อนตามปกติ และส่วนตัวไม่เคยเห็นว่ามาเจอกัน
โดยนายมืด พ่อของตนทราบว่าพูดคุยกันทำให้รู้สึกหึงหวง และมีทะเลาะกับแม่อยู่หลายครั้งประมาณ 10 ครั้ง แต่ไม่ได้ถึงขั้นทำร้ายร่างกายกัน แค่ขึ้นเสียงใส่กัน ทั้งนี้ พ่อของตนเป็นคนอารมณ์ร้อน ขี้หงุดหงิดง่าย และโกรธง่ายให้เร็ว ตนไม่ทราบว่าพ่อมีปัญหาอะไรไหม เพราะพ่อของตนจะไม่ค่อยสนิทกับใคร อยู่แต่บ้านทำแต่สวน ส่วนแม่จะเป็นคนใจเย็น ไม่ใช่คนใจร้อน ก่อนที่จะเกิดเรื่อง เท่าที่ทราบนายมืดไม่ได้พูดสั่งเสีย และไม่ทราบว่านายมืดออกไปจากบ้านกี่โมง แต่เชื่อว่านายมืดไม่ได้เตรียมการณ์ และน่าจะเป็นอารมณ์ชั่ววูบ
โดยตั้งแต่เกิดเรื่องติดต่อพ่อไม่ได้เลย พยายามติดต่อไปหลายครั้ง แต่ไม่รับสาย และไม่ทราบว่าพ่อของตนไม่อยู่ที่ไหน ด้วยเหตุนี้ตนจึงอยากจะขอโทษทางครอบครัวของผู้สูญเสีย และอยากจะให้พ่อออกมามอบตัว เพราะหนีไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา