เปิดวงจรปิด แหม่มสวิตผ่านแคมป์พม่าก่อนถูกฆ่าเปลือย บิ๊กปั๊ดส่งหนุมานเด็ดหัว (คลิป)

จากกรณี MRS.NICOLE SAUVAIN WEISSKOPF หรือ นางนิโคล ซาเวน ไวครอปฟ์ อายุ 57 ปี สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ นักท่องเที่ยว Phuket Sandbox หัวหน้าพิธีการทูตสหพันธรัฐสาธารณรัฐเยอรมนี

เดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 64 ก่อนถูกฆ่าเปลือยหมกศพในน้ำตกโตนอ่าวยน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีชาวบ้านในพื้นที่พบศพเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 64 และถูกอำพรางด้าสนผ้าใบ พบหลักฐานเสื้อผ้าและสร้อย โทรศัพท์ติดตัวอยู่

ล่าสุด ช่วงบ่ายวันที่ 6 ส.ค. 64 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เป็นประธานประชุมติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย เพื่อคลี่คลายคดี ฟังการสอบสวนขั้นต้น ดูผลการสอบสวนของทีมพนักงานสอบสวนในพื้นที่ พร้อมเรียกระดมผู้ที่มีความชำนาญมาช่วยเสริมทัพ มีทั้งในส่วนของพิสูจน์หลักฐานจากส่วนกลาง นิติเวชมาจากส่วนกลาง รวบร่วมทีมแพทย์มาชันสูตรศพโดยละเอียดอีกครั้ง และเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม

ในขณะนี้ เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม เรื่องอื่น ๆ ต้องรอการชี้แจงอย่างเป็นทางการก่อน บางส่วนก็ต้องไปรอผลแล็บด้วย ทุกอย่างต้องรอจนกว่าจะพบหลักฐานเพิ่มเติมในคดี ความจริงเพิ่งทราบเมื่อวานนี้ ตอนนี้ไม่มีข้อกังวล จะทำทุกอย่างเพื่อนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ด้านนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ทำงานกันอย่างเต็มที่ ให้จับคนร้ายให้ได้อย่างรวดเร็ว เพราะเป็นเหตุสะเทือนขวัญ

จากการที่ทีมข่าวสำรวจระยะทางจากโรงแรมดังกล่าว พบว่าระยะห่างทางขึ้นน้ำตกเพียง 1.4 กม. และจะห่างจากจุดพบศพประมาณ 1.8 กม. มีภาพนิ่งและวงจรปิดของโรงแรม พบผู้ตายเดินออกจากทางออกโรงแรมเวลา 11.25 น. สวมเสื้อกล้าสีขาว กางเกงยีนต์ขาสั้น สวมรองเท้าผ้าใบ และสะพายกระเป๋าสีดำ

วงจรปิดอีกมุมริมหาดอ่าวยน ถัดจากโรงเเรมประมาณ 500 เมตร พบผู้ตายเดินผ่านหาดอ่าวยนปกติ ไม่มีใครเดินตาม หรือสะกดรอยตาย และไม่มีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สวนผ่านไปมาแต่อย่างใด

นายณัฐพงษ์ ศรีดำ อายุ 31 ปี พลเมืองดีที่ไปพบศพคนแรก กล่าวว่า ตนไปเดินเล่นบนน้ำตกเป็นปกติอยู่แล้ว มาเที่ยวหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่นึกว่าจะมาเจอศพนอนจมน้ำอยู่ในอ่างบริเวณน้ำตกโตนอ่าวยน ชั้น 3 ห่างจ ากจุดจอดรถด้านล่างประมาณ 700-800 เมตร

ทั้งนี้ ครั้งแรกในชีวิตที่ตนเดินเล่นในป่าบนน้ำตกแห่งนี้แล้วไปพบกับศพคนตาย ซึ่งอยู่ในท่านอนคว่ำ จมน้ำน้ำลึกประมาณหัวเข่า อยู่ในท่านอนคว่ำ ท่อนบนเกยอยู่บนโขดหิน ท่อนล่างอยู่ในน้ำ มีผ้าสีดำปิดอยู่ เห็นเฉพาะปลายเท้าทั้ง 2 ข้างที่โผล่ออกมาจากผ้าใบที่คลุมเอาไว้

โดยห่างจากที่ตนยืนประมาณ 2 เมตรลักษณะเดินป่าของตนจะเดินกระโดดขึ้นเหยียบหินทีละก้อน สลับไปมา และตนก็กระโดดลงมายืนเจอกับศพเข้าพอดี ตอนนี้ตนยังตกใจอยู่

เมื่อตนตั้งสติได้ จึงรีบวิ่งลงมาข้างล่างและขับรถออกไปหาสัญญาณอินเทอร์เน็ต เพราะบริเวณน้ำตกไม่มีสัญญาณ ตนโทรแจ้งให้ 191 ทราบ หลังจากนั้นอีก 30 นาที ตำรวจ สภ.วิชิต ก็เข้ามาที่เกิดเหตุ บอกให้ตนช่วยนำทางขึ้นไปในจุดที่พบศพอีกครั้ง ตอนสังเกตว่าศพเป็นผู้หญิงนอนคว่ำหน้า หลังเริ่มพองแล้ว นึกถึงครั้งแรกตอนที่พบศพ ตนยังตกใจและหวาดกลัวอยู่ ต่อไปคงไม่ขึ้นมาเที่ยวบริเวณบนน้ำตกนี้อีกแล้ว

ทีมข่าวสำรวจพื้นที่ตั้งแต่บริเวณทางขึ้นน้ำตกโตนอ่าวยน หมู่ที่ 8 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พบตำรวจนอกเครื่องแบบอยู่เต็มพื้นที่ จากนั้นได้เดินเข้าพื้นที่ 50 เมตร มีการวางกุหลาบสีขาวไว้อาลัย มีโน้ตข้อความที่ดอกไม้ช่อใหญ่ว่า "In memories of Nivole may your soul rest is peace! From THE MOORING RESORT TEAM!" เป็นของโรงแรม The Mooring Resort นำมาไว้อาลัยเนื่องจากผู้ได้เข้าพักที่โรงแรม ก่อนมาเที่ยวน้ำตก

จากนั้น ทีมข่าวเดินขึ้นไปยังจุดที่พบศพ ตลอดเส้นทางคดเคี้ยวมีโขดหิน ตลอดเส้นทางเดินทั้งขึ้นและลงเส้นทางลำบากซึ่งกว่าจะถึงจุดพบศพ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที รวมระยะทางประมาณ 300-400 เมตร น้ำลึกประมาณ 1 ฟุตครึ่ง กว้าง 4 เมตร ยาว 10 เมตร ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ทำการเก็บหลักฐานในพื้นที่ทุกอย่างเพื่อส่งตรวจหาคนร้าย เช่น ก้อนหินในน้ำ ทราย เศษหิน และน้ำ โดยจุดที่พบศพ หากเดินขึ้นไปประมาณ 100 เมตร เป็นต้นน้ำตก และไม่สามารถเดินทางทะลุไปได้ ทั้งซ้ายและขวาเป็นหน้าผาชันสูง

นางสาวมาลี (นามสมมติ) พนักงานโรงแรม เดินทางนำดอกไม้มาไว้อาลัยก่อน ข้อมูลว่า ผู้ตายเข้าพักที่โรงแรม 31 ก.ค. 64 ตอนเข้าเช็กอินโดยสารมาด้วยรถแท็กซี่ และเข้าพัก ทุกช่วงเช้ามักวิ่งออกกำลังกายที่ริมทะเลอ่าวยน ส่วนวันที่ 3 ส.ค. ทราบว่าผู้ตายออกไปน้ำตก เพื่อไปสวนภาวนาพุทธธรรมเขาขาม และได้เดินทางออกจากโรงแรมด้วยการเดินเท้าไปน้ำตก ไม่พบความผิดปกติ

นายสนธยา อุตสาหะ อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านแหลมพันวา อ่าวยน เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ได้จากพนักงานของโรงแรมบอกว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนชอบออกกำลังกาย และก่อนวันที่เสียชีวิต มักจะมาออกกำลังกายริมหาดอ่าวยน ส่วนวันที่ 3 ส.ค. มีการบอกกับพนักงานโรงแรมว่าจะไปที่สวนภาวนา เพื่อขึ้นไปไหว้พระ เนื่องจากผู้ตายเป็นคนธรรมะธรรมโม แต่การเดินไปมักใช้เส้นทางรถอีกฝั่ง เส้นทางน้ำตกมักไม่มีใครเดิน เพราะลาดชันมาก ต้องเป็นคนชอบการผจญภัยเท่านั้น ส่วนชาวบ้านเองหากจะขึ้นไปที่สวนภาวนามักจะขับรถขึ้นไปอีกเส้นทางหนึ่ง

ซึ่งจากการตรวจสอบวงจรปิดในร้านบ้านสวนอ่าวยน ห่างจากโรงแรมที่พัก 1.2 กม. พร้อมกับตำรวจเมื่อวานนี้ จุดนี้พบผู้ตายเดินผ่านร้านเวลา ประมาณ 11.48 น. ในภาพพบชาวบ้านหลายคนที่สัญจรผ่านไปมา และจุดนี้พบว่าผู้ตายมีการทักทายกับแม่ครัวด้วย ขณะเดียวกันมีภาพวงจรปิดประมาณ 4 ตัว เป็นของเทศบาลสามารถจับภาพผู้ตายไว้ได้เช่นกัน แต่ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าขณะนั้นมีใครบ้างที่เดินตามผู้ตายไป

สำหรับพื้นที่นี้ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ซึ่งเรื่องฆาตกรรมไม่เคยมีเกิดขึ้นเลย แต่ในพื้นที่ในช่วง 2 ปีมีแคมป์คนงาน 2 แคมป์ด้วย มาอยู่ก่อสร้างโรงแรม มีคนงานประมาณ 150 คน ส่วนใหญ่เป็นคนเมียนมา และมีแคมป์ไทยอิงเกอร์ คนงานตอนนี้ 40 คน แบ่งเป็นคนไทยแค่ 2 คน และที่เหลือเป็นเมียนมา ซึ่ง 2 แคมป์ไม่อนุญาตให้คนงานออกนอกพื้น ออกได้แค่ตอนไปทำงานเท่านั้น

ด้านนางอรสา บุโล อายุ 41 ปี แม่ครัวร้านบ้านสวนอ่าวยน เปิดเผยว่า ตนเข้ามาทำบานที่นี่ได้ 2 เดือน เป็นแม่ครัวคนเดียวที่ร้านจะเปิดร้านเตรียมของ 09.00 น. และปิดร้าน 18.00 น. ส่วนใหญ่ทำงานในครัวไม่ค่อยสนใจใครเดินไปมา จะรับแต่ลูกค้า ช่วงนี้ทำข้าวกล่องส่งโรงพยาบาลสนาม ส่วนวันที่ 3 ส.ค. ตนไม่ได้เห็นผู้ตายโดยตรงหรือผู้ตายอาจจะเดินผ่าน

แต่ตนไม่รู้จัก จึงไม่รู้ว่าเดินผ่านช่วงเวลาไหน ส่วนในพื้นที่มักมีชาวบ้านเดินผ่านไปมาเป็นปกติอยู่แล้ว โดยเฉพาะช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ มักมีนักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างชาติเป็นคู่ผัวเมีย หรือมาคนเดียว เข้ามาเที่ยวน้ำตกกันปกติ ส่วนในพื้นที่ก็มีแคมป์คนงาน 2 แคมป์ ส่วนใหญ่ที่ตนขี่รถจักรยานต์ผ่านแคมป์ช่วงหลัง 18.00 น. ตนก็ไม่ค่อยเห็นคนงานเดินเข้ามาในโซนน้ำตกหรือผ่านร้านอาหาร จะมีก็แต่ช่วงกลางวันเท่านั้น