บังหลีเปิดปากฆ่าแหม่มสวิต จับอุดปากกดน้ำชิง 300 โชว์แผลถูกถีบเอวกระแทกหิน (คลิป)

จากกรณี MRS.NICOLE SAUVAIN WEISSKOPF หรือ นางนิโคล ซาเวน ไวครอปฟ์ อายุ 57 ปี สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ นักท่องเที่ยว Phuket Sandbox หัวหน้าพิธีการทูตสหพันธรัฐสาธารณรัฐเยอรมนี

เดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 64 ก่อนถูกฆ่าเปลือยหมกศพในน้ำตกโตนอ่าวยน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีชาวบ้านในพื้นที่พบศพเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 64 และถูกอำพรางด้าสนผ้าใบ พบหลักฐานเสื้อผ้าและสร้อย โทรศัพท์ติดตัวอยู่

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดวงจรปิด แหม่มสวิตผ่านแคมป์พม่าก่อนถูกฆ่าเปลือย บิ๊กปั๊ดส่งหนุมานเด็ดหัว

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ล่าสุด วันที่ 7 ส.ค. 64 เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. มีรายงานว่าสามารจับคุมตัวต้องสงสัยได้ที่อ่าวขาม ห่างที่เกิดเหตุคือน้ำตกโตนอ่าวยน 3 กม. ทราบชื่อ นายธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ หรือ บังหลี อายุ 27 ปี ชาว ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต อาศัยอยู่ในหมู่บ้านกรอบโกย ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต

ภาพนิ่งวงจรปิดที่หน้าน้ำตกโตนอ่าวยน สามารถจับภาพผู้ต้องสงสัยรายนี้ขี่รถจักรยานยนต์ แต่งกายเสื้อสีดำมีลวดลายสีขาวด้านหน้า สวมกางเกง 3 ส่วนขาสั้น รองเท้าเตะ สวมใส่แว่นตาดำ และใส่หน้ากากอนามัยสีดำ ขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปน้ำตก เวลา 10.01 น.

ซึ่ง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8, พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภาค 8, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. และพ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผู้กำกับการ สภ.วิชิต รวมสอบปากคำผู้ต้องสงสัยโดยละเอียด

ผู้ต้องสงสัยเปิดปากรับสารภาพ จากบาดแผลถลอกยาวที่เอวข้างขวา มีการต่อสู้กับผู้ตาย และได้ล้มไถลกับโขดหิน

ส่วนพฤติการนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์จอดที่หน้าน้ำตก ก่อนจะเดินเข้าไปหากล้วยด่างในน้ำตกโตนอ่าวยน ประมาณ 1 ชม. ก่อนไปพบกับผู้ตายโดยบังเอิญจุดที่ศพ และมีอารมณ์ทางเพศ ก่อนมีความพยายามจะข่มขื่น กำลังขึ้นคล่อมร่างแต่ผู้ตายขัดขืน บีบคอจับกดน้ำจนเสียชีวิตคว่ำหน้า และนำผ้าใบมาอำพราง

ล่าสุด พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภาค 8 เปิดเผยว่า เป็นผู้ร้ายตัวจริง ไม่ได้จับแพะ ส่วนพฤติการทั้งการข่มขืน การฆาตกรรม ตำรวจได้ตัดทิ้ง เพราะอยู่ระหว่างการสอบปากคำ รายละเอียดต่าง ๆ จะมีการแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น.

โดยรายงานจากชุดจับกุม ระบุว่าก่อนจับกุมคนร้ายได้นั้นในช่วงเช้าวันนี้ ชุดสืบสวนปฏิบัติหาข่าวได้นั่งดื่มกาแฟกันอยู่ร้านแห่งหนึ่ง ในย่านอ่าวมะขาม ได้สังเกตเห็นรถจักรยานยนต์คันหนึ่ง ป้ายทะเบียนตรงตามรถต้องสงสัยที่วงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงบ้านพักของคนร้าย

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ร้านกาแฟ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร จุดนี้มีมินิมาร์ต ร้านกาแฟ และร้านอาหารตามสั่งหลายร้าน ผู้คนพลุกพล่าน ห่างจากบ้านคนก่อเหตุเพียง 2 กิโลเมต

ข้อมูลจากชาวบ้านเล่าว่าตำรวจนอกเครื่องแบบมาอยู่ในย่านนี้ตั้งแต่วันที่รู้ข่าวว่านักท่องเที่ยวถูกฆ่า แต่คนในย่านนี้ก็รู้ว่าตำรวจมาปฏิบัติหน้าที่ และตำรวจเองก็มาดื่มกาแฟ กินข้าวกันปกติ ส่วนมาทำอะไรเป็นความลับของตำรวจอยู่แล้ว ชาวบ้านไม่ได้สอบถาม

เมื่อเวลา 16.00 น. นายวันภิรักษ์ เอียดซ้าย อายุ 45 ปี คนรู้จักนายธีรวัฒน์ ผู้ก่อเหตุ เดินทางมาที่สถานีตำรวจ อ้างว่าไม่เชื่อว่านายธีรวัฒน์เป็นคนฆ่านักท่องเที่ยว เพราะรู้จักนายธีรวัฒน์ เมื่อวันที่ 22 กร.ค. 64 วันนั้นกลับจากจังหวัดชุมพร กำลังจะเดินทางเข้าบ้าน แต่จู่คนที่บ้านได้ให้นายธีรวัฒน์มารับ จึงได้รู้จักกัน จากนั้นได้เห็นนายธีรวัฒน์ เป็นคนขยันทำงาน ส่วนใหญ่ตะไปถางหญ้าตามที่ต่าง ๆ ในพื้นที่ทั้งอ่าวยนและอ่าวขาม ดูเป็นคนแข็งแรง สู้งาน เลยคิดว่าจะจ้างให้ไปทำงานที่บ้านบ้าง แต่วันหนึ่งจำได้ว่าวันนั้นฝนตก นายธีรวัฒน์กลับรถจักรยานยนต์มาพบตนในย่านอ่าวขาว และถกเสื้อให้ดูรอยแผลที่เอว มีรอยขูดยาว ตนคิดว่าเป็นงูสวัด จึงบอกว่าเดี๋ยวจะหายามาทาให้ วันนั้นนายธีรวัฒน์ไม่ได้มีพฤติกรรมน่าสงสัย บอกแค่ว่าไปหากล้วยด่าง

วันนี้มาให้ข้อมูลกับตำรวจ เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าเขาก่อเหตุฆ่าคน แต่หากตำรวจมีหลักฐาน แถลงข่าวยืนยันว่าต้องว่าไปตามกระบวนการ แต่ตอนนี้ยังมีเวลา อยากให้ตำรวจตามหาคนร้ายจุดอื่นด้วย

ชุดสืบสวน เปิดเผยว่า ส่วนบนร่างกายของนายธีรวัฒน์ ผู้ต้องหามีร่องรอยบาดแผล และจุดอื่น ๆ ตามที่รายงานไป โดยผู้ต้องหาบอกว่าเกิดจากการต่อสู้และล้มโดนลงหิน ตอนแรกหวังแค่ทรัพย์แต่ผู้ตายต่อสู้ เลยล็อกคอแล้วจับกดน้ำ จนเสียชีวิต หลังจากได้ผ้าใบพลาสติกสีดำที่อยู่ในละแวกนั้นมาคลุมอำพรางร่าง ก่อนที่รื้อค้นทรัพย์สินได้เงิน 300 บาท แต่ทรัพย์อื่นที่ยังอยู่ เพราะมองไม่เห็น