จากกรณีเหตุ นายนพพร เจริญบุญ ขับรถบรรทุกเล็ก 4 ล้อ ชนชาวบ้านบริเวณปากซอยรังสิต-นครนายก 45 จนกระทั่งมีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 3 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนั้น
วันที่ 11 ส.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่เกิดเหตุ อยู่ริมถนนรังสิต-นครนายก พบว่ายังหลงเหลือสภาพความเสียหายอบู่ จุดนี้มีร้านข้าวแกงและร้านลาภติดกัน พบกิ่งต้นตีนเป็ดยังหักกองอยู่กับพื้น มีกองเลือดหนึ่งในผู้ตายอยู่ที่ริมถนนห่างจากจุดเกิดเหตุราว 50 เมตร
ล่าสุด พ.ต.ท.สวัสดิ์ คงแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุคือ นายเรียบ ลาบุญ คนขายข้าวแกง, นายวิจิตร แก้วกาหลง วินรับจ้าง, น.ส.วรรณา แดงด้วย ผู้โดยสารของวินรับจ้าง, นางเพียร เพ็ญราช คนนั่งรถพ่วงข้าง เสียชีวิตหลังส่งโรงพยาบาล
ส่วนผู้บาดเจ็บคือ นางทัศนีย์ สุขสวรรค์ แม่ค้าหมู่ปิ้งหน้าร้านข้าวแกง, นางสมร ลายรัตน์ คนขับรถพ่วงข้าง และนายนพพร เจริญบุญ คนขับรถคันก่อเหตุ เบื้องต้น นายนพพรให้การว่าจะไปรับภรรยาที่คลอง 5 ธัญบุรี แต่เกิดวูบหลังในจนเกิดเหตุขึ้น
นางวรรณวิสา เอี่ยมแม้น ภรรยานายเรียบ เปิดเผยว่า ปกตินายเรียบจะนอนเฝ้าอยู่ที่ร้านทั้งคืน และคอยช่วยตนในการทำข้าวแกงขาย โดยเมื่อช่วงเช้ามึดก็ช่วยกันตามปกติ นายเรียบไม่ได้บอกอะไรเป็นลาง เพียงแต่บ่นตน ตนเองก็บอกให้หยุดพูดเพราะตนทำกับข้าวเหนื่อยแล้ว จากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรกัน จนนายเรียบกินข้าว และจะกลับไปนอนพักที่บ้าน
ตนอยู่หลังร้าน จู่ ๆ ได้ยินเสียงรถชนดังพื้นสั่นไปหมด ตนเองจึงจะออกมาดู ก็พบว่าหนึ่งในคนเจ็บซึ่งขายหมู่ปิ้งหน้าร้านตน วิ่งมาบอกว่ารถชนสามีตน ยอมรับว่าตกใจมา
ปกติสามีตนจะกลับไปพักช่วง 6 โมงเช้าอยู่ประจำ สภาพที่ตนออกมาคือไม่เห็นสามี เพราะร่างถูกลากไปไกล 50 เมตร ทุกอย่างเกิดเร็วไปหมด ไม่คิดว่าสามีจะจากไปเช่นนี้ หลังจากนี้ตนก็ต้องดูแลตัวเองต่อไป ส่วนเรื่องค่าเยียวก็ให้เป็นไปตามเรื่องของตำรวจ
นางชลธิชา บุญเพ็ญ ภรรยานายวิจิตร แก้วกาหลง คนขับวิน กับลูกสาว เปิดใจทั้งน้ำตาว่า สามีเพิ่งวิ่งรถได้เพียง 2 รอบ ก็เกิดเหตุสลดขึ้น ช่วงเกิดเหตุสามีออกจากวินไปราว 05.54 น. คนตายอีกคนก็คือคนซ้อนรถสามีตน กำลังจะให้ไปส่งตลาดเพื่อขายของ
ก่อนออกไปสามีไม่ได้เรียกคุยอะไรกับตน มีเพียงพูดว่า วันนี้ให้ตนเลี้ยงเครื่องดื่มชูกำลัง ตนเองจึงเข้าไปซื้อในร้านสะดวกซื้อให้ เมื่อออกมาสามีก็ไม่อยู่แล้ว ตนเองก็รอสามีให้กลับมากิน สุดท้ายเขาไม่กลับมา ทราบอีกทีว่าเกิดเหตุแล้ว โดยมีคนรู้จักมาบอกตนว่ามีเหตุสามีตนถูกรถชน ตนเองรีบไปดู ตอนนั้นพยายามภาวนาว่าอาจจะไม่ใช่สามี เมื่อไปถึงเห็นสามีนอนนิ่งคว่ำหน้ากับพื้น ตนเองเข้าไปเขย่าแต่สามีไม่ตอบสนอง ตนเองยังคิดว่าสามีบาดเจ็บ ไม่คิดว่าเสียชีวิต
วานนี้ก็มีเหตุเกิดกับสามี คือสามีถูกรถแท็กซี่ขับรถชนท้าย แต่ไม่เจ็บมาก วันนี้สามีก็ไปทำงาน แต่ไม่คิดว่าจะเสียชีวิต สามีเป็นเสาหลัก ต้องช่วยงานกับตนเสมอ ตนเองขายโจ๊กตรงวินของสามี ซึ่งปกติสามีจะช่วยเตรียมของ ขับรถไปส่ง จากนี้สามีจากไปไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ถึงตอนนี้นังเหมือนฝันไป ตนยังไม่คิดว่าคือเรื่องจริง
สถานการณ์แบบนี้ตนเองเหมือนถูกตอกย้ำ ตนทนขายของสู้โรคระบาดมาเป็นปี สามีก็บอกว่าไม่ต้องกลับต่างจังหวัด ให้สู้กันไป ยิ่งตนเพิ่งซื้อบ้านอยู่กับสามีได้ปีเศษ สามีมาจากไปแบบนี้ ตนไม่รู้จะทำอย่างไร ตนเองไม่รู้ว่าทำไมเรื่องนี้ต้องมาเกิดกับสามีตน หากคนขับบรรทุกขับดีก็คงไม่ต้องมีคนตาย ถึงตอนนี้ตนยังไม่รู้สาเหตุว่าคนร้ายชนสามีตนเพราะอะไร ที่รู้คือไม่มีการเบรกเลย
ทีมข่าวเดินทางมาพบกับ นางสมร ลายรัตน์ ผู้บาดเจ็บที่ยังคงรักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากยังมีอาการบาดเจ็บ มีแผลที่หัวเย็บ 5 เข็ม มีอาการเจ็บที่หัวไหล่ขวา ซึ่งเป็นคนขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างมากับ นางเพียร ยายที่เสียชีวิตหลังส่งโรงพยาบาล เปิดเผยว่า ตนเป็นเพื่อนบ้านของยายเพียร ซึ่งนับถือเป็นญาติกัน ก่อนเกิดเหตุตนเองจะไปส่งยายสมรเพื่อขายขนมจีบที่ปั้ม ปตท. ห่างจึดเกดเหตุเพียง 100 เมตร
โดยตนเองออกจากซอยรังสิตนครนายก 37 ห่างที่เกิดเหตุไม่นาน ขับออกมา 4-5 นาที ก็มาเกิดเหตุ ตนคุยกับยายปกติ ขับรถมาเลนซ้าย ตอนขับมาไม่เห็นรถของคู่กรณีเพราะถนนโล่ง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนไม่รู้สึกตัวเลย จู่ ๆ ภาพก็ตัดไป มารู้สึกตัวตอนที่ถูกหามขึ้นรถป่อเต็กตึ๊งแล้ว ตนมองไปเห็นยายเพียรนอนอยู่ที่พื้นถนน ไม่ขยับตัว ตนมาถึงโรงพยาบาลได้เจอคนขับบรรทุก บอกว่าหลับใน เกิดวูบหลับ ส่วนคุณยายเพียร ขณะนี้เสียชีวิตแล้ว เหตุเพระาเลือดออกในสมองมาก ยายเป็นคนแข็งแรงมาก ตนเองสงสารยายมาก
