รัฐตอนใต้สหรัฐฯ ป่วยโควิดพุ่ง เหตุประชาชนปฏิเสธการ ฉีดวัคซีน จนหมดอายุไปหลายหมื่นโดส โดยพบว่า 90% ของผู้ป่วยใน รพ.ในลุยเซียนา คือผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
วันที่ 11 ส.ค. 64 สำนักข่าวซินหัว รายงานอ้างอิงหนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน ระบุว่ารัฐทางใต้ตอนในของสหรัฐฯ พบผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มอย่างต่อเนื่อง หลังจากประชาชนในพื้นที่ปฏิเสธเข้ารับวัคซีนและทำให้วัคซีนจำนวนมากหมดอายุก่อนการใช้งาน
รายงานระบุว่ารัฐลุยเซียนา มิสซิสซิปปี และแอละแบมา มีผู้ฉีดวัคซีนครบโดสเพียง 1 ใน 3 ขณะรัฐจอร์เจียมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงกว่าเล็กน้อยที่ร้อยละ 41 พร้อมเสริมว่าตอนนี้มีผู้ป่วยหลายพันรายที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยผู้ป่วยในโรงพยาบาลร้อยละ 90 ในลุยเซียนาเป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
ด้านรัฐแอละแบมารายงานกรณีวัคซีนโรคโควิด-19 หมดอายุกว่า 65,000 โดส โดยมีสาเหตุจากอัตราการฉีดวัคซีนในรัฐที่ไม่มีความคืบหน้าตลอดฤดูร้อน
“เราเสียวัคซีนไปเปล่าๆ 65,000 โดส ซึ่งน่าเสียดายมาก เพราะเรามีอัตราการฉีดที่ต่ำ ขณะผู้คนจำนวนมากในโลกยังไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้” สกอตต์ แฮร์ริส เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแอละแบมากล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เยอรมนี ให้ประชาชน 8,600 รายมาฉีดวัคซีนอีกรอบ หลังสงสัยพยาบาลสลับฉีดน้ำเกลือ
- สหรัฐฯ เผย โควิดเดลตา ระบาดง่ายเหมือนอีสุกอีใส ฉีดวัคซีนแล้วยังแพร่เชื้อได้
- สหรัฐฯ ยกระดับ ไทย เป็นประเทศความเสี่ยงสูงมาก เตือนประชาชนเลี่ยงเดินทาง