กรณีกลุ่มมวลชนที่เรียกตัวเองว่า #ม็อบทะลุฟ้า นัดรวมตัวที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อรวมตัวชุมนุมเวลา 15.00 น. ก่อนจะเคลื่อนขบวนเดินทางไปยังบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 พัน 1 รอ.) เพื่อเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง
ล่าสุดวันที่ 13 ส.ค.64 เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่เริ่มปิดการจราจร ทางคู่ขนาน ถนนวิภาวดีรังสิต ตั้งเเต่ด้านหน้าโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมกับนำตู้คอนเทนเนอร์ เเละลวดหนามหีบเพลง มาตั้งเรียงบริเวณด้านหน้า กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 พัน 1 รอ.) ซึ่งภายในเป็นบ้านพักของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ขณะเดียวกันพบว่ามีกำลังตำรวจกองอารักขา เเละควบคุมฝูงชน จำนวน 1 กองร้อย มีการรวมพลเตรียมความพร้อม อยู่ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ติดกับกรมทหารราบที่ 1
เวลา 14.00 น. บรรยากาศบริเวณเเยกดินเเดง เจ้าหน้าที่ปิดช่องจราจร ถนนอโศก-ดินแดง ฝั่งที่มาจากอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มุ่งหน้าถนนวิภาวดีรังสิต พร้อมทั้งติดตั้งรั้วลวดหนาม รั้วเหล็ก เเละตู้คอนเทนเนอร์ ความสูง 2 ชั้น ไม่อนุญาตให้รถหรือผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องผ่านพื้นที่โดยเด็ดขาด
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่าตั้งแต่เวลา 14.30 น. เริ่มมีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมกับเปิดเพลง และร่วมกันรำวง ก่อนจะถึงเวลานัดหมายเวลา 15.00 น. โดยมีผู้ชุมนุมทยอยเดินทางเข้ามาร่วมกิจกรรมเรื่อย ๆ ภายใต้ชื่อกิจกรรม "ศุกร์ 13 ไล่ล่าทรราช"
ขณะเดียวกันบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตขาออก เวลา 15.00 น. มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 5-6 คน ได้ขี่รถจักยานยนต์มายังบริเวณเเยกดินเเดง เพื่อรื้อลวดหนามเเละรั้วเหล็ก ที่เจ้าหน้าที่ติดตั้งไว้ หวังที่จะเตรียมเปิดทางให้มวลชนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มุ่งหน้าไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 พัน 1 รอ.) ซึ่งภายในเป็นบ้านพักของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เวลา 15.30 น. ผู้ชุมนุมบางส่วน โดยมีนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท อดีต กปปส. กลับใจ ซึ่งนำแผ่นป้ายไวนิลขนาดใหญ่มาขึงบริเวณเกาะกลางอนุสาวรีย์ ระบุข้อความว่า “ปาสีไม่ปาขวด ไม่อยากปะทะกับตำรวจ แต่อยากดวลกับประยุทธ์” นอกจานี้ ยังมีป้ายผ้าเขียนข้อความสีแดง ระบุว่า “ประยุทธ์ต้องออกไปโดยทันที ประยุทธ์ออกไป”
จากนั้นเวลา 15.40 น. เริ่มมีรถเครื่องขยายเสียงเข้ามาในพื้นที่ ก่อนเวลา 15.42 น. กลุ่มทะลุฟ้า จะเริ่มแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยการนำผลไม้ ลำไยและมังคุด อย่างละ 300 กก. รวมทั้งหมด 600 กก. มาเทกองบนถนนรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นอกจากนี้ ยังมีผู้ชุมนุมบางส่วนเตรียมผลไม้มาด้วย โดยระบุว่า เพราะราคาผลไม้ตกต่ำ ชาวบ้านขายได้กิโลกรัมละ 4 บาท จึงต้องแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เช่นนี้ เพื่อสะท้อนความล้มเหลวของการทำงานรัฐบาล จากนั้นจึงนำฟางมาสุมรอบ ๆ ผลไม้
เวลา 16.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้จุดไฟเผามังคุดกับลำไย รวม 600 กก. ที่นำมาเทกองอยู่บนถนน กลางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเเสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ว่าขณะนี้ผลไม้ดังกล่าวราคาตกต่ำอย่างหนัก จากนั้นได้ตั้งขบวนก่อนเคลื่อนไปตามถนนอโศก-ดินเเดง มุ่งหน้าบ้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เวลา 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมาถึงบริเวณเเยกดินเเดง ก่อนจะวางป้ายไวนิลบนถนน ที่เขียนข้อความว่า "ปาสีไม่ปาขวด ไม่อยากปะทะกับตำรวจ เเต่อยากดวลกับประยุทธ์" ขณะที่ตัวเเทนมีการประกาศให้มวลชนยืนคล้องเเขนเป็นเเนว เพื่อจะเดินหน้าไปบ้านพักของ พลเอกประยุทธ์ พร้อมเเจ้งมวลชนว่าจะไปอย่างสันติ ไม่ใช้อาวุธตอบโต้เจ้าหน้าที่ แต่จะใช้สีตอบโต้เเทน
เวลา 17.15 น. หลังจากมวลชนเคลื่อนขบวนมาถึงบริเวณเเยกดินเเดงเพียง 15 นาที เจ้าหน้าที่ซึ่งประจำการอยู่หลังเเนวตู้คอนเทนเนอร์ เเละบางส่วนอยู่บนทางด่วนดินเเดง เปิดฉากยิงเเก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมจนผู้ชุมนุมต้องวิ่งหลบคนละทิศคนละทาง
ขณะเดียวกัน พบผู้ชุมนุมเป็นชาย 1 ราย ถูกเเก๊สน้ำตาอัดเข้าเต็มใบหน้าจนล้มลงที่พื้น ผู้ชุมนุมต้องช่วยกันปฐมพยาบาล โดยระหว่างนี้ตัวเเทนพยายามประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง เเจ้งมวลชนว่าจะไม่ตอบโต้เจ้าหน้าที่ เเละวอนขอให้เจ้าหน้าที่หยุดใช้ความรุนเเรงกับประชาชน
เวลา 17.30 น. ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ระดมยิงเเก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ปรากฎว่านายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท ถูกเเก๊สน้ำตาเข้าอย่างจังบริเวณคิ้วซ้าย จนเลือดอาบเต็มใบหน้า มวลชนต้องช่วยกันหามขึ้นรถ เพื่อนำส่งโรงพยาบาล ตอนนี้กำลังเข้าห้องผ่าตัด และอยู่ในความดูแลของแพทย์เรียบร้อยแล้ว
จากนั้นเวลา 17.50 น. ตัวเเทนประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ขอยุติการชุมนุม เนื่องจากมองว่าหากปล่อยให้ยืดเยื้อจะเป็นอันตรายกับมวลชน ดังนั้น จึงขอให้มวลชนเดินทางกลับบ้าน เเล้วรอการนัดหมายครั้งต่อไป
เวลา 18.00 น. ฝนตกลงมาอย่างหนัก มวลชนบางส่วนทยอยกลับ เเต่มวลชนบางส่วนยังไม่กลับ หลบในอยู่ใต้ทางด่วนดินเเดง ขณะเดียวกันบริเวณใต้ทางด่วนดินเเดง มีการจุดไฟเผาถังขยะอีกด้วย
พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อมีเหตุปะทะกันจึงมีความจำเป็นต้องสลายการชุมนุม เพราะมวลชนได้โจมตีเจ้าหน้าที่จากหลายแนว ตนจึงฝากไปถึงประชาชนและผู้ชุมนุม ให้เร่งรีบแยกย้ายกันกลับบ้าน ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะปรับใช้กฎหมายตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนกรณีของไฮโซลูกนัท ที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้เจ้าหน้าที่รับทราบเรื่องแล้ว กำลังอยู่ในระหว่างรอตรวจสอบรายละเอียด
เวลา 19.10 น. เจ้าหน้าที่ยิงเเก๊สน้ำตาเเละกระสุนยาง เเต่มีผู้ชุมนุมบางรายได้หยิบเเก๊สน้ำตา เเล้วขว้างกลับมาใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้ฝั่งเจ้าหน้าที่เเละสื่อมวลชนต้องถอยหลบ เจ้าหน้าที่จึงประกาศเตือนสื่อมวลชนให้หลบอยู่หลังเเนวเจ้าหน้าที่ เเละประกาศให้ประชาชนในพื้นที่อยู่ในเคหสถาน ห้ามออกมาด้านนอกเด็ดขาด
เวลา 19.25 น. เจ้าหน้าที่ได้นั่งท้ายรถกระบะ เเล้วไล่ยิงกระสุนยาง ผลักดันผู้ชุมนุมกลุ่มสุดท้าย ไปทางเเยกพระราม 9 จากนั้นตำรวจควบคุมฝูงชน ได้ตั้งเเนว 2 จุด โดยจุดเเรกคือบริเวณใต้ทางด่วนดินเเดง หันหน้าไปทางเเยกพระราม 9 เจ้าหน้าที่อยู่ท้ายรถกระบะ ส่วนอีกจุดไปตั้งเเนวอยุ่บนถนนอโศก-ดินเเดง ฝั่งมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เจ้าหน้าที่ยืนตั้งเเนวหันหน้าไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กระทั่งสถานการณ์บริเวณเเยกดินเเดง เริ่มเบาลง เเต่เจ้าหน้าที่ยังต้องยิงกระสุนยางเป็นระยะ ๆ