จากกรณีนายประเสริฐ ประไพพงษ์ อายุ 66 ปี เสียชีวิตหลังรู้ว่าตัวติดโควิด เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 64 จากการตรวจแอนติเจนเทสเอง เนื่องจากมีอาการไข้ ไอ จนกระทั่งมาเสียชีวิตวันที่ 14 ส.ค. 64 เวลา 13.00 น. นั้น
ทีมข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ ภายในชุมชนไปรษณีย์ ท้ายซอยรามอินทรา 65 แยก2-14-2 ซอย 7 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ลักษณะเป็นบ้านปลูกกันเอง ติดกันเป็นชุมชนค่อนข้างแออัด บ้านผู้เสียชีวิตเป็นบ้านชั้นเดียวอยู่ด้านในสุด ข้อมูลระบุว่าอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน คือ แม่ยายวัย 80 ปี ผลตรวจแอนติเจนเทสติดเชื้อ น้องภรรยา อายุ 40 ปี ผลตรวจแอนติเจนเทส ไม่ติดเชื้อ
ซึ่งในชุมชนยังมีผู้ติดเชื้อแล้วส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ถึง 7 คน หากรวมครอบครัวผู้ตายติดเชื้อ 2 คน มีกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับการตรวจอีกหลายคน ชุมชนนี้มีผู้ตดเชื้อแล้วมากกว่า 10 คน แต่ยังไม่มีหน่วยงานเข้ามาดูแล ซึ่งขณะเก็บศพวันนี้ ลูกสาวยืนร่ำไห้เกาะรถของเจ้าหน้าที่ร่ำลาครั้งสุดท้าย
น.ส.วัน (นามสมมติ) ลูกสาวของผู้ตาย เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า พ่อตนเสียชีวิตเมื่อช่วง 13.00 น. ที่ผ่านมา พ่อมีอาการหนักเมื่อเช้า โดยตนบอกให้พ่อรอก่อน เพราะตนพยายามประสานรถพยาบาลให้มารับ ตนเองเป็นคนเอาแอนติเจนเทสมาตรวจให้พ่อเมื่อ 10 ส.ค. 64 พ่อป่วยเป็นไข้หวัดมาก่อนหน้านั้น 2-3 วัน จากนั้นไปตลาดจึงคิดว่าป่วยทั่วไป แต่พ่อมีโรคประจำตัวคือเบาหวาน แต่เป็นคนแข็งแรงมาก เบื้องต้นคาดว่าพ่อติดยาย ยายน่าจะติดจากคนในชุมชนที่เป็นโควิด แต่ไม่ได้แจ้งในชุมชน
ที่ผ่านมาตนเองประสานงานหน่วยงานต่าง ๆ มาตลอด เมื่อคืนก็ติดต่อ เช้าก็โทร เขาบอกให้ตนเองรอ ไม่มีใครเร่งด่วนให้ครอบครัวตน จนกระทั่งพ่อตนตาย ตอนพ่อตายไม่มีใครรู้ ตนเองมาถึงบ้านเดินไปหาพ่อ พ่อนอนอ้าปากแล้ว ตนเองไม่คิดว่าพ่อจะตาย พ่อแข็งแรงมาก ไม่มีใครคาดคิด หากมีคนรับเรื่องเร็ซ พ่อตนอยู่ในมือหมอคงไม่ต้องสังเวยชีวิตแบบนี้
"ตนเองมีพ่อคนเดียว คนที่ตนเองติดต่อไป ทุกหน่วยงานบอกให้ตนเองรอ ๆ ๆ ไม่เคยมีใครช่วย ทุกอย่างครอบครัวต้องหาเอง เครื่องวัดออกซิเจน วัดไข้ก็ต้องหาเอง ตนเองโทรหาเจ้าหน้าที่ตั้งแต่พ่อตนอาการสีเขียว จนแดง และตาย ตนเองรักษาพ่อทุกอย่าง อะไรว่าดีตนเองทำให้หมด แต่ช่วยอะไรไม่ได้"
ตนเองคุยกับพ่อเมื่อเช้า ตนบอกให้พ่อทน พ่อไม่มีแรงจะพูด ตอบแค่ "อือ" ตนก็ประสานงานตลอด พ่อพูดกับตนสายสุดท้ายเวลา 12.50 น. บอกว่า "พ่อรอหนูก่อนนะ" พ่อตอบว่า "รีบ ๆ นะ พ่อไม่ไหวแล้ว" ตนเองมาถึงบ้าน 13.00 น. พ่อตนเองตายแล้ว ไม่ได้สั่งเสีย ไม่ได้กราบไม่ได้ร่ำลา ตอนนี้ตนเองก็กลัวยายที่มีโรคประจำตัวเยอะพบว่าติดเชื้อ แต่พี่ ๆ กู้ภัยบอกว่าชื่อเข้าระบบแล้ว เดี๋ยวก็รอประสานรถมารับ แต่ตนยังไม่แน่ใจเช่นกันว่าจะได้รักษาเร็วหรือไม่
นางสาหร่าย ม่วงศรี แม่ยายผู้ตาย ติดเชื้อ เปิดเผยว่า ช่วงเช้าตนเองเรียกลูกเขยให้กินยา เขาก็ไม่กิน เหมือนคนไม่มีแรง เมื่อคืนมีแค่อาการไอเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นนอนป่วย ตนเองก็ไม่รู้ว่าลูกเขยตาย ตนเองก็นอนดูโทรัทศน์อยู่บ้าน จนกระทั่งหลานมาก็พบว่าลูกเขยตายแล้ว ส่วนตัวตรวจเชื้อก็พบว่าติดเชื้อเช่นกัน ตนเองอยากไปรักษาพยาบาล ตนเองมีอาการเหนื่อย ท้องเสีย 1 วัน มีไข้ตัวร้อนจมูกไม่ได้กลิ่นแล้ว
ทีมข่าวมอบเสบียงกำลังใจ 1 กล่อง ให้กับครอบครัวนางสาหร่าย เนื่องจากทุกวันจะมีเพียงหลานสาวคอยหาข้าง หาน้ำมาให้กิน
นางอุไร ดอกไม้ เพื่อนบ้านหลังติดกัน เคยเปิดเป็นร้านอาหารตามสั่ง เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนก็ติดเชื้อโควิด หลังตรวจแอนติเจนเทสเมื่อ 11 ส.ค. 64 หลังรู้ว่าครอบครัวคนตายติดเชื้อ ตนเองไปซื้อเครื่องแอนติเจนเทสมาตรวจเอง ตนเองอยู่กับสามี แต่สามียังไม่ได้ตรวจ เนื่องจากเครื่องตรวจราคา 300 บาท ตนเองไม่มีเงิน จีงตรวจแค่คนเดียว หลังรู้ผลก็ติดต่อหาหน่วยงานแล้ว แต่ทุกที่ก็โยนไปให้โทรไปอีกที่ เหมือนโยนกันไปมา ไม่มีใครรับ ตนไม่รู้จะโทรหาใคร โทรไปแม้กระทั่งเบอร์ 191 อีกทั้งส่วนตัวก็ออกไปนอกบ้านไม่ได้ ได้แต่อยู่บริเวณบ้าน เพราะชาวบ้านรังเกียจ วานนี้ตนเองออกไปเอาน้ำดื่มมากิน ชาวบ้านก็จะพูดว่าออกมาทำไม ทำเหมือนตนเป็นตัวอะไร
ตอนนี้ได้แต่รักษาตัวเอง กินยาพาราฯ กินยาสามัญประจำบ้าน ต้มสมุนไพร อบสมุนไพร ตนเองไม่รู้ว่าตนติดเชื้อจากใคร เพราะบ้านตนเป็นร้านอาหารตามสั่ง มีคนมาเยอะ ครอบครัวคนตายก็มักมานั่งเล่น ส่วนตัวยังไม่มีอาการ ตนอยากให้หน่วยงานมาพาตัวไปรักษา จะได้พานางสาหร่ายไปรักษาด้วย อีกอย่างอยากให้สามีได้ตรวจเชื้อเช่นกัน