ม็อบทะลุฟ้าบุกปา "สีชมพู" เต็มรั้วสตช. คฝ.ล็อก 7 โจ๋ บุกยึดคืนราชประสงค์ (คลิป)

เมื่อวันที่ 17 ส.ค.64 ที่เเยกราชประสงค์ ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานบรรยากาศกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มทะลุฟ้า ได้นัดรวมตัวชุมนุมกันในเวลา 15.00 น. ซึ่งเมื่อถึงเวลาดังกล่าวกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้เดินทางมาตามเวลานัดหมาย และเริ่มรวมตัวกันบริเวณริมฟุตพาท ฝั่งห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์

เวลา 16.00 น. มวลชนเริ่มตั้งขบวนที่กลางเเยกราชประสงค์ จากนั้นเคลื่อนขบวนออกไปตามถนนพระรามที่ 1 มุ่งหน้าไปยังสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ซึ่งเจ้าหน้าตำรวจได้ติดตั้งรั้วเหล็ก เเละรั้วลวดหนามหีบเพลงไว้ภายใน สตช. ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนหลังเเนวรั้วดังกล่าว ก็จะมีกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ยืนตั้งแถวเป็นเเนวกำแพง พร้อมกับมีรถฉีดน้ำเเรงดันสูง 1 คัน จอดเตรียมความพร้อมไว้

เวลา 16.15 น. เจ้าหน้าที่ประกาศเตือนผู้ชุมนุมว่า อย่าทำลายทรัพย์สินทางราชการ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งฝั่งของผู้ชุมนุมประกาศว่าการเดินทางมาในครั้งนี้ จะทำเพียงปาสี ไม่ได้ใช้ความรุนเเรงใด ๆ เวลา 16.20 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้สีชมพูที่เตรียมมา ปาใส่ป้ายสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ส่วนทางตำรวจได้ฉีดน้ำจนมวลชนต้องถอยออกมาจากเเนวปะทะ พร้อมกับมีเสียงดังคล้ายประทัดดังขึ้นประมาณ 3 ครั้ง

เวลา 16.30 น. ตำรวจควบคุมฝูงชนได้เปิดประตู เเล้วเดินออกมาตั้งเเถวริมฟุตพาท เเกนนำมวลชจึงประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า ขอยุติการชุมนุม และขอให้มวลชนเดินทางกลับ รอการนัดหมายในครั้งต่อไป เเต่มวลชนบางส่วนไม่ยอมกลับ และยังคงปักหลักอยู่ด้านหน้าสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ

เวลา 16.40 น. เจ้าหน้าที่ได้ขยับรั้วเพื่อจะจำกัดเขตการนวมตัวของมวลชน จึงได้ตั้งแถวยืนเป็นเเนวกำแพงอยู่บนถนนพระรามที่ 1 ทำให้ผู้ชุมนุมพากันยืนคล้องเเขน ชูป้าย เเละตะโกนให้เจ้าหน้าที่ถอยกลับเข้าไปด้านใน สตช. แต่เจ้าหน้าที่ได้เดินหน้าผลักดันหวังจะกระชับพื้นที่ไปจนถึงเเยกราชประสงค์ พร้อมประกาศให้ทราบว่า จะเข้าควบคุมตัวผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งจึงทำให้มวลชนยอมถอยร่นไปคนละทิศทาง อย่างไรก็ตาม ในวันนี้พบว่า "ป้าเป้า" ซึ่งเป็นขวัญใจของชาวม็อบ ได้เข้าร่วมกิจกรรมชุมนุมด้วย

ภายหลังจากกิจกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมทะลุฟ้า บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สงบลงแล้ว แต่ยังคงมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่บริเวณใกล้เคียง โดยเจ้าหน้าที่ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงด้านในรั้วของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกลับบ้าน รวมถึงให้กลุ่มผู้ชุมนุมทยอยเดินทางกลับเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 การชุมนุมอาจก่อให้เกิดโรคได้ โดยบริเวณนี้ ไม่มีการใช้แก๊สน้ำตา หรือกระสุนยาง มีเพียงการฉีดน้ำและกระชับพื้นที่เท่านั้น

เวลา 17.00 น. สถานการณ์หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลับมาเป็นปกติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน มีการเดินตรวจบริเวณโดยรอบหน้า สตช. ถนนพระรามที่ 1 และไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณนี้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนบางส่วน ยังตรึงกำลังอยู่ท่ามกลางฝนที่ตกลงมา และมีการเปิดการจราจรแล้ว เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตดินแดง จึงเข้าทำความสะอาดพื้นที่มีสีชมพูกระจายอยู่ทั่วบริเวณ โดยใช้ไม้กวาดทางมะพร้าวกวาดสีชมพูที่ผสมน้ำฝนลงท่อระบายน้ำ และรถขยะ 1 คันเคลียร์ขยะโดยรอบ ส่วนความเสียหายเบื้องต้นที่สำรวจพบ บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีรอยเปื้อนสีชมพู บริเวณรั้วและพื้นที่ประตูเล็กน้อย และยังมีโคมไฟ 2 ดวงขนาดใหญ่หน้าประตู ตกลงมาพังเสียหาย

พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ กล่าวภายหลังเข้ากระชับพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า ตั้งแต่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนถึงแยกราชประสงค์ ว่า หลังจากผู้ชุมนุมได้เริ่มรวมตัวกันในเวลา 15.00 น. ก่อนที่จะเคลื่อนมาที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจได้ประกาศแจ้งเตือนแล้วว่าเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย แต่ผู้ชุมนุมยังเพิกเฉย และได้ขว้างถุงสีต่าง ๆ ระเบิดปิงปอง ขวดน้ำ และวัตถุอื่น ๆ เข้าไปภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ทั้งนี้ ตำรวจประกาศแจ้งเตือนหลายครั้งแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง ทำให้ผู้ชุมนุมแยกไป 2 ส่วน คือ แยกราชประสงค์ และแยกเฉลิมเผ่า จากนั้นตำรวจได้เข้าดำเนินการจับกุมตามกฎหมาย ซึ่งสามารถจับกุมผู้ชุมนุมได้ประมาณ 6-7 ราย เเต่ถึงแม้จะมีการยุติการชุมนุมแล้ว ผู้ชุมนุมบางส่วนประกาศว่าจะเคลื่อนไปยังสามเหลี่ยมดินแดง อย่างไรก็ตาม ตำรวจมีแนวทางในการดำเนินการ และปรับแผนนการรักษาความสงบอยู่แล้ว และใช้ความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงอยากให้ผู้ชุมนุมคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนละแวกใหล้เคียงด้วย เพราะประชาชนไม่สามารถที่จะทำมาหากินได้ตามปกติ ส่วนหลังจากนี้จะมีการนัดหมายการชุมนุมอีกหรือไม่ ตำรวจมีการข่าวรายงานอยู่แล้ว