จากกรณีดราม่าทัวร์ลงแหก แร็ปเปอร์สาว มิลลิ ดนุภา คณาธีรกุล ที่ออกมาโพสต์เรื่องคะแนนสอบหาย อาจารย์ไม่ช่วยเหลือ จนตนต้องไปปรึกษาคณบดีช่วยทำเรื่องยื่นสอบล่าช้า จนเจอกระแสตีกลับ! ใช้ความวีไอพี สิทธิพิเศษ ทั้งที่เรียกร้องความเท่าเทียม นักศึกษามหาลัยเดียวกันแห่แชร์ขนาดอยู่รพ. ยังต้องเข็นไปเข้าสอบ แต่มิลลิกลับได้สิทธิการสอบล่าช้า
ประเด็นความวีไอพี ขัดแย้งกับการแสดงออกทางความเท่าเทียม ที่สาว มิลลิ ออกมา call out อยู่เสมอ ส่งให้แฮชแทกชื่อของ มิลลิ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ และถูกวิจารณ์อย่างหนักในเพจต่างๆ
ล่าสุด เจ้าตัวออกมาชี้แจง 17 ข้อ สรุป คะแนนสอบหายเพราะตอนทำข้อสอบใช้ล็อกอินยูเซอร์เพื่อนที่มายืมใช้โน้ตบุ๊กของตน ขอโทษอาจารย์เป็นความผิดพลาดของตนเอง เตรียมนัดคุยขอโทษอาจารย์วันศุกร์ (20ส.ค.) เวลา 2 ทุ่ม
ส่วนประเด็นการยื่นเรื่อง Late Exam พูดไม่เคลียร์ทำให้คนเข้าใจผิดว่าได้สอบใหม่ ซึ่งเจ้าตัวเพียงแต่ลองยื่นเรื่องพิจารณา Late Exam ผ่านการเขียนคำร้องผ่านระบบออนไลน์ของมหาวิทยาลัย แนบหลักฐานวิดีโอที่บันทึกภาพขณะทำการสอบ โดยยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงเกี่ยวกับคะแนนสอบของตัวเองที่หายไป
โดย มิลลิ โพสต์ทวิตเตอร์ว่า "ขออนุญาตทุกท่านชี้แจงประเด็นเรื่องคะแนนสอบ / late exam /อาจารย์ผู้สอนที่ถูกกล่าวถึง จากโพสต์ทวิตเตอร์ของหนู เรื่องคะแนนสอบหายจนเกิดผลกระทบอย่างหนัก คือเรื่องเป็นอย่างนี้ค่ะ ขอเล่าเหตุการณ์นะคะ ยาวหน่อยนะคะ เพื่อความละเอียด"
1. วันที่ 29 ก.ค. 64 คือ วันที่น้องได้ทำการสอบกลางภาคในวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งในการสอบครั้งนี้ ประกอบไปด้วยหลายส่วน เป็นทั้งพาร์ทข้อเขียนที่สอบในระบบ Microsoft Teams และพาร์ทข้อช้อยส์ที่สอบในเว็บไซต์ LMS ของทางมหาวิทยาลัย ซึ่งน้องยืนยันว่าได้ทำไปครบทุกพาร์ท
2. แต่ในวันประกาศคะแนนสอบ(10 ส.ค.) อาจารย์บอกว่าหนูเนี่ยไม่มีคะแนน ก็ค่อนข้างเหวอเลยทีเดียว และด้วยการสื่อสารที่ผิดพลาด+ใช้อารมณ์เป็นหลัก หนูจึงโพสต์พาดพิงอาจารย์ลงทวิตไปในทันที โดยที่ยังไม่ได้สืบหาข้อเท็จจริงก่อนเลยด้วยซ้ำ ทำให้อาจารย์ท่านนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียงและรู้สึกไม่ดี
3. หนูต้องขอโทษอาจารย์ด้วยนะคะ
4. การยื่นขอ late exam
- หลังจากทราบเรื่องคะแนนหาย หนูเลยรีบไปปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษา (ซึ่งเป็นคณบดีของคณะหนูเอง) ว่าจะสามารถตรวจสอบยังไงได้บ้าง อาจารย์เลยช่วยประสานกับทางพี่เจ้าหน้าที่คณะเพื่อสอบถามไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อถามหาสาเหตุที่ไม่พบคะแนนในพาร์ทนั้น
5. และเสนอว่าลองยื่นเรื่องพิจารณา Late Exam ไหม ซึ่งวันนั้นที่คุยกันเป็นวันที่สามารถยื่นเรื่องพิจารณา Late Exam ได้เป็นวันสุดท้ายพอดี หนูเลยตัดสินใจจะลองยื่นเรื่องไปก่อน ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงเกี่ยวกับคะแนนสอบของตัวเอง โดยอาจารย์ได้ให้คำปรึกษาในทุกๆ กระบวนการ
6. ว่าจะต้องเขียนคำร้องผ่านระบบออนไลน์ของมหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีให้เลือกหัวข้อสาเหตุในการยื่นเรื่อง โดยหนูเลือกหัวข้อที่ 4 “กรณีอื่นๆ” และได้แนบหลักฐานที่สามารถยืนยันว่าตัวเราเข้าสอบจริงๆ ประกอบไปด้วย (1.)วิดีโอที่บันทึกภาพหนูขณะที่กำลังทำการสอบ (วีดิโอตัวนี้เราสามารถเข้าไปเซฟ หรือ ดูย้อนหลังได้ใน Microsoft Teams ขึ้นอยู่กับว่ามีใครกด recordเอาไว้หรือไม่นะคะ)
7. ซึ่งครั้งนี้อาจารย์คุมสอบได้ทำการบันทึกวีดิโอเอาไว้ใน Microsoft Teams และ (2.) ส่งประวัติการใช้งานจากบราวเซอร์ Safari ที่แสดงถึงการเข้าไปทำข้อสอบผ่านทางเว็บไซต์ LMS ทั้งหมด 23 หน้าบนระบบในวันสอบนั้น
8. โดยอาจารย์บอกเพิ่มเติมว่า การยื่นขอ Late Examจะต้องมีการพิจารณาขึ้นอยู่กับหลักฐานของนศ.+การพิจารณาจากมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่รับประกันว่าจะได้หรือไม่ (เมื่อวันที่ 16 ส.ค. รายชื่อผู้ได้รับ late exam ถูกประกาศผ่านเว็บไซต์ แต่ตัวหนูเองไม่ได้เช็คให้ดีก่อน วันนี้หนูเลยทวิตบอกว่ายังไม่ได้ค่ะ)
9. การหาข้อเท็จจริงและผลลัพธ์เรื่องคะแนนหาย
- บ่ายวันนั้นที่รู้เรื่องคะแนนหาย (10 ส.ค.) หลังจากได้รับการประสานจากมหาวิทยาลัยผ่านทางอาจารย์ที่ปรึกษา เรื่องสาเหตุที่คะแนนหายไป เบื้องต้นทางมหาวิทยาลัยได้เช็คระบบอีกรอบแล้วว่า ไม่มีคะแนนสอบหนูในระบบจริงๆ ทางมหาวิทยาลัยก็เลยถามเพิ่มว่า "หนูได้ไปใช้คอมของคนอื่นในการทำข้อสอบหรือเปล่า หรืออาจจะไปล็อคอินเป็นชื่อของคนอื่นมั้ย"
10. แต่หนูยืนยันว่าใช้โน้ตบุ๊คของตัวเองอย่างแน่นอน เลยทำให้หนูเอะใจขึ้นมาเพราะนึกได้ว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อนของหนูเคยขอยืมโน้ตบุ๊คไปใช้ล็อคอินในเว็บไซต์ LMS เช่นเดียวกัน
11. ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าบัญชีของเพื่อนถูกล็อคอินค้างไว้ในโน้ตบุ๊คของหนู เพราะหลังจากสอบพาร์ทแรกเสร็จ ก็เปลี่ยนมาเข้าลิงค์เพื่อทำข้อสอบใน LMS หนูล็อคอินเข้าเว็บไซต์โดยการสแกนนิ้วไปเลยด้วยความเคยชิน โดยไม่ได้เช็คให้รอบคอบก่อนว่าเป็น ID ของหนูหรือไม่ เพราะคิดว่ามันคือuserของเราที่เคยเซฟไว้
12. โน้ตบุ๊กหนูคือ MacBook Pro 13 ซึ่งมีระบบ Finger Scan ที่จดจำ username & password ที่เราเคยล็อกอินเอาไว้ก่อนหน้านี้ จริง ๆ หนูก็เคยล็อกอิน user หนูไว้แล้วและเซฟ password เพื่อที่จะ scan นิ้วในรอบต่อไป แต่พอเพื่อนเอาไปใช้ เขาก็เซฟ password ไว้เช่นเดียวกัน โน้ตบุ๊กก็เลยจำ user ของเพื่อนแทน
13. หนูจึงได้แจ้งชื่อและ ID ของเพื่อน ที่หนูสงสัยให้กับทางมหาลัยวิทยาลัย เพื่อเอาไปตรวจสอบอีกรอบ ซึ่งปรากฎว่าคะแนนสอบพาร์ทช้อยส์ทั้งหมดได้ถูกทำบนบัญชีที่เป็นชื่อของเพื่อน ซึ่งเพื่อนคนนี้ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาอังกฤษเหมือนกัน แต่คนละ section และเขาไม่ได้เข้าสอบในครั้งนี้
14. เพราะว่าเขา ใช้คะแนน IELTS ยื่นขอเทียบเกรดไปแล้ว และเพราะว่าไม่มีคนเข้าสอบ หนูเลยสามารถทำข้อสอบอันนี้ได้โดยทำในชื่อบัญชีของเพื่อน เพราะฉะนั้นมหาวิทยาลัยจึงพบแต่คะแนนในพาร์ทช้อยส์ที่หนูทำ ส่วนพาร์ทอื่นๆ ของเพื่อนก็ว่างเปล่า เนื่องจากเขาไม่ได้เข้าสอบอยู่แล้ว ทำให้คะแนนในส่วนนี้เป็นโมฆะไป
15. ขอชี้แจงเพิ่มเติม จากที่หนูไลฟ์ไปเมื่อวันที่ 11 สค. คือตอนนั้นรู้แล้วว่าคะแนนหายไปได้ยังไง แต่ยังไม่ได้รับการตัดสินว่าจะได้ late exam นะคะ แต่ด้วยความใจร้อนของหนูตอนนั้นอีกนั่นแหละที่อยากอธิบาย เพราะอาจารย์โดนถล่มเยอะมาก เลยอยากออกมาบอกว่าเป็นความผิดของหนูเองค่ะ ไม่ใช่ใครเลย
16. รวมถึงมีการพูดไปว่าได้ late exam แล้ว ซึ่งหนูพูดไม่เคลียร์เองค่ะ และตอนนั้นก็ถูกคนอื่นเข้าใจไปแล้วว่าได้สอบใหม่ ตรงนี้หนูผิดเองจริงๆค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ
17. การโพสต์ข้อความโดยใช้อารมณ์และไม่ไตร่ตรอง จนทำให้อาจารย์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
- หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดและได้รับข้อมูลทุกอย่าง รู้สึกว่าเรื่องที่ทำลงไปได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออาจารย์ ช่วงสัปดาห์ที่แล้วหนูเลยรีบติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อขอนัดพบอาจารย์ท่านนั้น เพื่อพูดคุยและขอโทษถึงเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งอาจารย์ท่านว่างและรับนัดเป็นวันศุกร์ที่จะถึงนี้ และตอนสองทุ่มน้องคิดเอาไว้แต่แรกว่าหลังพบอาจารย์แล้ว ก็อยากจะคุยกับหลายท่านที่อาจจะยังมีข้อสงสัยอยู่และต้องการรับฟังคำอธิบายจากน้อง เพราะว่าจะได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างครบถ้วนค่ะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปู ไปรยา เจอทัวร์ลง โพสต์ถึงอัฟกานิสถาน ชาวเน็ตจี้อย่าลืมประเทศไทย
- แอน ทองประสม ช่วยชาวนา จ.สุรินทร์ รับซื้อข้าวหอมมะลิอินทรีย์จากเกษตรกร ส่งต่อชุมชนที่เดือดร้อน
- เจนนี่ - ยิว ปล่อยเพลงคู่ครั้งแรก “เก็บรักไว้นานๆ” พร้อม MV สุดโรแมนติก