จากกรณีที่ทางเพจเฟซบุ๊ก โพสต์ข้อความระบุข้อความว่า "อันนี้ก็อีกรายที่เขียนใบสั่งจากการตั้งด่านจับ-ปรับ เอาตรงๆนะตอนนี้ประชาชนหลายๆคนสงสัยกันแล้วว่า ทำไมไม่โอนเงินเข้าบัญชีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำไมถึงเข้าบัญชีส่วนตัว #เคสนี้ไม่ได้ยืมเงินจ่ายแทนนะทางตำรวจบอกว่าให้โอนเข้าเดี๋ยวจะไปกดเงินเข้าสถานีตำรวจเอง ทางผู้เสียค่าปรับไม่มีเงินสดพอจ่ายจึงโอนค่าปรับแทน ซึ่งตามความจริง (ไหม)ต้องโอนเข้าบัญชีสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ #ทำแบบนี้ใครๆเค้าก็สงสัยได้ทั้นนั้น ละยุค 4.0" โดยมีภาพด่านตรวจ และใบเสร็จเป็นข้อหาขับรถด้วยอัตราเร็วเกินกฎหมายกำหนด โดยสถานีตำรวจภูธรหางน้ำสาคร อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เป็นเงิน 500 บาท ลงวันที่ 28 ส.ค. 61 ทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
วันที่ 2 ต.ค. 61
พ.ต.ท.พิสิฐชัย ปักเคระกา รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.หางน้ำสาคร เปิดเผยว่า ในวันดังกล่าวตนอยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งทางผู้ที่ขับขี่ใช้ความเร็วเกินกำหนด ต้องชำระค่าปรับจำนวน 500 บาท แต่เงินสดในกระเป๋ามีไม่พอ ตู้กดเงินสดใกล้ ๆ ก็ไม่มี ตนจึงอธิบายไปแล้วว่าสามารถรับใบสั่งไปชำระที่ธนาคาร หรือที่ทำการไปรษณีย์ในภายหลังได้
แต่ทางผู้ขับขี่อยากจะดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อย โดยไม่อยากเสียเวลา จึงถามทางเจ้าหน้าที่ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง พอที่จะโอนเงินเข้าบัญชีของใครได้บ้างหรือไม่ เพราะเจ้าตัวสามารถโอนผ่านโทรศัพท์มือถือได้ทันที ทางพนักงานเปรียบเทียบปรับ จึงให้ยืมเงินสด แล้วให้ผู้ขับขี่โอนเข้าบัญชีของพนักงานเปรียบเทียบปรับภายหลัง โดยเจ้าหน้าที่ได้ออกใบเสร็จให้ผู้ชำระค่าปรับไปเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเป็นลักษณะการยืมเงิน ไม่ใช่การโอนเข้าบัญชีส่วนตัวเพื่อชำระค่าปรับแต่อย่างใด จนกระทั่งตนมาเห็นเรื่องนี้ในเฟซบุ๊ก ทุกคนก็เข้าใจผิดได้ ซึ่งตนช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน แต่เป็นประเด็นให้เกิดข้อสงสัยได้ ต่อไปตนคงไม่ทำแบบนี้แล้ว กังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก
ด้าน
พ.ต.อ.อารักษ์ สมถวิล ผู้กำกับการ สภ.หางน้ำสาคร เปิดเผยว่า จากที่ชาวโซเชียลมีเดียสงสัยว่าทำไม่ไม่โอนเงินเข้าบัญชีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรงนั้น การส่งมอบเงินค่าปรับต้องรวบรวมเงินส่งไปให้ที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาทก่อน แล้วจึงส่งต่อไปที่คลังจังหวัด และจะทำการเบิกจ่ายไปยังองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อใช้ในกิจการครึ่งหนึ่ง ส่วนหนึ่งเป็นรายได้แผ่นดิน และส่วนที่เหลือจะเป็นเงินให้กับผู้ปฏิบัติงานจราจร ไม่มีการโอนเงินเข้าบัญชีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรง
พ.ต.อ.อารักษ์ ยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานตามระเบียบ ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบ โปร่งใส มีการออกใบเสร็จยืนยันทุกขั้นตอน แต่ครั้งนี้เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ซึ่งมีการโอนเงินเข้าบัญชีของเจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับ ทำให้ประชาชนอาจเข้าใจผิด อยากให้ประชาชนทำความเข้าใจกับเส้นทางการเงินค่าปรับใหม่ด้วย