กรณีแฟนเพจ สายไหมต้องรอด โพสต์ข้อความแสดงความอาลัยและเสียใจต่อครอบครัวของคุณยายหนู ญาณะลักษ์ อายุ 97 ปี เนื่องจากคุณยายมีอาการไม่ค่อยดี ซึ่งก่อนหน้านี้วันที่ 17 ส.ค.64 ทีมสายไหมต้องรอดได้เดินทางเข้าไปช่วยเหลือเปลี่ยนจากถังออกซิเจน เป็นเครื่องผลิตออกซิเจน เพื่อให้ค่าออกซิเจนในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
กระทั่งช่วงค่ำของวันที่ 18 ส.ค.64 ร่างกายของคุณยายหนู มีอาการตอบสนองน้องลง ทางทีมสายไหม จึงเร่งเดินทางเข้าไปช่วยเหลืออีกครั้งอย่างเต็มขีดความสามารถ แต่สุดท้ายคุณยายหนูก็ได้จากไปอย่างสงบ
ล่าสุดวันที่ 19 ส.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังวัดสายไหม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ญาติ ๆ ได้นำศพของคุณยายหนูมาประกอบพิธีฌาปนกิจศพ บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า หลานสาวได้จุดธูปไหว้หน้าเมรุ และนิมนต์พระสงฆ์ 1 รูปทอดผ้าบังสุกุล ก่อนฌาปนกิจศพคุณยายหนู
น.ส.กันต์ธนัท แสงแจ่มวรกานต์ อายุ 29 ปี เหลนของคุณยายหนู และเป็นหนึ่งในผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในบ้านที่รักษาหายแล้ว กล่าวว่า ที่บ้านหลังอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 คน และติดเชื้อโควิด-19 ยกบ้าน ซึ่งเริ่มติดมาจากคนในบ้านที่ออกไปซื้อของที่ร้านขายของชำ แล้วมีอาการไข้ ในวันที่ 1 ส.ค.64 จึงได้ตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจแอนติเจน ปรากฏว่าผลเป็นบวก
จากนั้นวันที่ 5 ส.ค.64 คุณยายหนู ก็มีอาการไข้ จึงได้ตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจแอนติเจน ทราบว่าผลเป็นบวกเช่นกัน หลังจากนั้นคนในบ้านอีก 5 คนก็เริ่มมีอาการและทยอยติดเชื้อทีละคนจนครบทั้งหมด กระทั่งวันที่ 6 ส.ค.64 ทุกคนได้ตรวจด้วยชุดตรวจแอนติเจน มีผลเป็นบวกทุกคน
ต่อมาวันที่ 7 ส.ค.64 ครอบครัวก็ได้ประสานไปลงทะเบียน และแจ้งข้อมูลผู้ป่วยติดเชื้อกับ 1330 หลังจากลงทะเบียนเสร็จ เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีการติดต่อหรือนัดหมายเพิ่มเติม ซึ่งทางบ้านต้องโทรศัพท์ไปแจ้งทุกวันว่า อาการของคุณยาย แย่ลง ๆ ทุกวัน แต่เจ้าหน้าที่ของ 1330 บอกให้แต่รอแล้วก็รอ พร้อมกับแจ้งว่ารายชื่อของทั้ง 7 คนยังไม่เข้าระบบ
กระทั่งวันที่ 16 ส.ค.64 หน่วยงานของ 1330 ได้ส่งยาฟาวิพิราเวียร์มาให้ที่บ้าน แต่ระยะเวลา 11 วันที่ไม่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ ครอบครัวต้องหาซื้อยามาทานกันเอง ซึ่งวันที่คุณยายหนูได้รับยา อาการก็แย่มากแล้ว และไม่สามารถกินยาฟาวิพิราเวียร์ได้ โดยในวันที่ 17 ส.ค.64 ชีพจรคุณยายหนู ลดลงอย่างต่อเนื่อง ครอบครัวเห็นท่าไม่ดีจึงร้องขอเครื่องผลิตออกซิเจน ไปทางเพจสายไหมต้องรอด หลังจากได้รับเครื่องออกซิเจน อาการของคุณยายหนูก็ดีขึ้นระดับหนึ่ง กระทั่งเวลา 20.30 น. ของวันที่ 18 ส.ค.64 คุณยายหนูก็สิ้นใจไปอย่างสงบ
โดยทางครอบครัวที่เหลืออีก 6 คน ก็พยายามหาซื้อยามากินกันเองจนรักษาหาย ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมา ทำไมทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงไม่ตัดสินใจส่งยาฟาวิพิราเวียร์มารักษาคุณยายหนู ตั้งแต่วันแรก ๆ ที่ครอบครัวขอความช่วยเหลือ ตนคิดว่าหากคุณยายหนูได้รับยาหรือรักษาในช่วงเวลา 10 วันหลังจากที่แจ้งไป ก็อาจจะไม่ต้องเสียชีวิตหรือไม่
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม กล่าวว่า สำหรับเคสคุณยายหนู เบื้องต้นทางแฟนเพจสายไหม ได้ส่งเครื่องผลิตออกซิเจนและยาฟ้าทะลายโจร ยาลดไข้ ก่อนจะโทรศัพท์เข้าไปแจ้ง 1330 ดูแล้วเคสนี้ต้องใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ จึงจำเป็นต้องลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.64 แต่เจ้าหน้าที่ของ 1330 ส่งยามาให้ในวันที่16 ส.ค.64 ซึ่งใช้เวลา 10 วัน ตนคิดว่าเป็นระยะเวลารอที่นานเกินไป ส่วนคนในบ้านต้องหาซื้อยากินกันเอง เพราะคนในบ้านเชื่อว่าหลังจากลงทะเบียนแล้ว เจ้าหน้าที่จะรีบส่งยามาแต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น
แม้จะใช้เครื่องผลิตออกซิเจน ในการช่วยแต่ก็ไม่เพียงพอ เพราะเครื่องตัวนี้ใช้สำหรับช่วยผู้ป่วยสีเหลือง แต่สำหรับเคสนี้เป็นสีแดง ที่ต้องใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ควบคู่กัน ตนขอฝากอมรินทร์ ทีวี กระจายข่าวไปหาหน่วยงานราชการว่า สำหรับเคสสีแดงอยากให้ทำแบบแฟนเพจสายไหมต้องรอด เมื่อรับแจ้งให้รีบประเมินอาการ แล้วออกไปช่วยเหลือทันที ไม่ต้องมีพิธีขั้นตอนให้มาก เพราะยาฟาวิพิราเวียร์เป็นตัวยาสำคัญ หากส่งไม่ทันให้กระจายตามพื้นที่กลุ่มอาสาแต่ละพื้นที่ หรือแฟนเพจที่กำลังช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตนเชื่อว่าทุกคนพร้อมที่จะช่วยเหลือ ไม่เช่นนั้นจะมีคนเสียชีวิตแบบใบไม้ร่วงหรือเสียคาบ้านอีกจำนวนมาก