ปิดคดีผัวฆ่าสาวท้องชันสูตรไม่เจอศพเด็ก ญาติซึ้งครอบครัวผัวไม่ปกป้องคนผิด (คลิป)

จากกรณีเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 64 เวลา 18.20 น. กู้ภัยหน่วยบรรเทาสาธารณะภัยช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุมีคนพบศพที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ข้างรีสอร์ตแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมตำรวจ สภ.ช้างกลาง

พบศพหญิงอายุประมาณ 40 ปี นอนเสียชีวิตที่ชั้น 2 ตรงกับทางลงบันได สภาพศพเริ่มเน่าเหม็น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 วัน บริเวณศีรษะถูกตีด้วยของแข็ง ข้างกันเจอค้อนตอกตะปูที่ด้ามหัก 2 ท่อน และขันอะลูมิเนียมที่มีรอยบุบ คาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งทราบชื่อผู้เสียชีวิตภายหลังคือ น.ส.พัชราพร สุวรรณกาศ หรือ พัชร อายุ 40 ปี คาดว่าตั้งท้องอยู่ประมาณ 4 เดือน ส่วนผู้ก่อเหตุคาดว่าเป็นสามีของผู้เสียชีวิต

ต่อมาวันที่ 18 ส.ค. 64 เวลา 15.00 น. นายตะวัน รักษาวงศ์ หรือ แบต ผู้ก่อเหตุ ได้ประสานตำรวจชุดสืบสวน สภ.ช้างกลาง เพื่อมอบตัว โดยให้ไปรับตัวที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งที่ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จับผัวโหดฆ่าเมียท้องอ้างแค้นแอบทำแท้งลูก ญาติแฉพาหนีถูกซ้อมย่องคืนดีเพราะรัก
- สยอง! ผัวคลั่งยาฆ่าเมียตายทั้งกลม สุดอำมหิตฟาดค้อนหักขันทุบหัวบุบ ญาติลมจับรู้ลูกดับจากสื่อ

วันที่ 19 ส.ค. 64 เวลา 10.00 น. ตัวแทนญาติของผู้เสียชีวิต 2 คน ได้เดินทางมาจากจังหวัดนนทบุรี มายังโรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อรับศพ น.ส.พัชราพร สุวรรณกาศ ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดคีรีวรรณา (บ้านนา) อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งพี่สาวของ น.ส.พัชราพร ได้จุดธูป 1 ดอก เพื่อเชิญวิญญาณ

ผลชันสูตรเบื้องต้นระบุว่า "พบบาดแผลที่ลำตัว กระโหลกถูกทุบด้วยของแข็ง ไม่สามารถยืนยันสาเหตุการตายได้ เพราะศพเน่าเปื่อย และไม่พบว่าผู้ตายตั้งครรภ์" ต้องรอผลตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

เมื่อศพเคลื่อนไปถึงวัดคีรีวรรณา มีญาติของนายตะวันกว่า 50 คน มารอรับศพเข้าศาลา ทุกคนต่างโศกเศร้า ศพจะสวดเพียงวันนี้ และเผาทันที ญาติจะเก็บกระดูกในวันพรุ่งนี้ และนำแต่กระดูกของผู้เสียชีวิตกลับบ้านเกิด ค่าใช้จ่ายในการจัดพิธีศพ ญาติทั้ง 2 ฝ่าย ได้ช่วยกันจ่าย

เมื่อญาติของ น.ส.พัชราพร เดินทางมาที่วัด ญาติทั้ง 2 ฝ่ายได้พูดคุยกัน ไม่ได้มีปัญหาหรือมีปากเสียงใด ๆ พี่สาวของ น.ส.พัชราพร ยืนยันว่าญาติไม่รู้มาก่อนว่า น.ส.พัชราพร ตั้งครรภ์ และช่วงที่ น.ส.พัชราพร นั่งรถไฟจากจังหวัดนครศรีธรรมราชกลับบ้าน ญาติก็ไม่รู้ว่าน.ส.พัชราพร เดินทางกลับมา ส่วนผลชันสูตรวันนี้ แพทย์ระบุว่าร่างของผู้ตายเหมือนไม่มีการตั้งท้องมาตั้งแต่แรก แต่ก็ยืนยันไม่ได้ทั้งหมดเพราะศพเน่าแล้ว ครอบครัวไม่มีใครมั่นใจว่า น.ส.พัชราพร ตั้งท้อง เพราะช่วงที่เจ้าตัวคบหากับนายตะวัน ผู้ตายก็ตัดขาดกับญาติที่บ้าน

ขณะเดียวกัน น.ส.อุ้ม และน้องสาวอีกคนของนายตะวัน พยายามชี้แจงว่าก่อนหน้านี้หลังจากที่พบว่า น.ส.พัชราพร ถูกนายตะวันทำร้าย ญาติก็ส่งตัวนั่งรถไฟกลับกรุงเทพฯ ซึ่ง น.ส.พัชราพร ก็ยังติดต่อกลับมาบอกว่าเดินทางถึงคอนโดที่กรุงเทพฯแล้ว ญาติก็ไม่รู้เลยว่าเจ้าตัวแอบกลับมา พบอีกครั้งก็เป็นศพแล้ว เพิ่งทราบจากนายตะวันว่า น.ส.พัชราพร แอบนั่งรถกลับมาวันที่ 7 ส.ค. 64 โดยโทรให้นายตะวันไปรับที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

เวลา 11.30 น. ญาติของทั้ง 2 ฝ่าย ได้นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป เดินทางไปทำพิธีเชิญวิญญาณที่จุดเกิดเหตุ เป็นบ้านพักตากอากาศในพื้นที่หมู่ 1 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช

นางแพรว (นามสมมติ) พี่สาวของผู้เสียชีวิต เป็นคนถือรูปของ น.ส.พัชราพร ไปยังจุดเกิดเหตุ รูปดังที่ใช้เป็นรูปตั้งหน้าศพ เป็นรูปที่ผู้ตายชอบที่สุด ซึ่งเมื่อไปถึงบริเวณชั้น 2 ของบ้าน พระเจริญสงฆ์อาจิน พระวัดคีรีวรรณา ซึ่งเป็นผู้ทำพิธีเชิญวิญญาณ ก็ได้ปูเสื่อและนั่งตรงหน้ากองน้ำเหลืองของ น.ส.พัชราพร ได้ปักธูป 1 ดอกและดอกไม้ที่ตรงหน้า และได้สวดขอเจ้าที่เจ้าหน้า สวดถอดถอน เชิญวิญญาณของ น.ส.พัชราพร ให้กลับไปอยู่ร่างที่วัด และให้วิญญาณสงบจากแรงอาฆาต และได้พรมข้าวสารเสกทั่วบ้านเพื่อเป็นการบอกทางให้วิญญาณกลับวัด

หลังจากนั้น ญาติก็ได้กรวดน้ำอุทิศส่วนบุญกุศลให้กับผู้ตาย และได้นำผ้าที่ใช้เช็ดน้ำเหลืองของผู้เสียชีวิตกลับไปเผาด้วย เพราะเชื่อว่าผ้าที่ใช้เช็ดน้ำเหลืองนั้น จะเป็นสิ่งนำทางวิญญาณของผู้ตายกลับวัด ระหว่างที่ทำพิธี พี่สาวของผู้เสียชีวิตก็อยู่ในอาการสงบนิ่ง และนั่งกอดรูปผู้ตายอยู่ตลอดเวลา

นางแพรว (นามสมมติ) พี่สาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ญาติไม่เคยมีลางสังหรณ์ เพราะตั้งแต่ผู้ตายคบกับนายตะวัน ก็ไม่ค่อยติดต่อญาติ แต่ช่วงก่อนที่ น.ส.พัชราพร จะเสียชีวิต ประมาณ 2-3 สัปดาห์ก่อน น้าชายของตนก็ฝันเห็นน.ส.พัชราพร แต่มาในสภาพดี หลังจากทำพิธีเชิญวิญญาณเสร็จจะเผาร่างของน้องสาวทันที เก็บกระดูกพร้อมกับเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าก่อนหน้านี้ไม่รู้มาก่อนว่าน้องสาวท้อง เพราะเขาไม่เคยบอก แต่ติดตามในเฟซบุ๊ก ก็พอจะรู้ข่าวว่าเจ้าตัวท้อง และช่วงวันที่ 4 ส.ค. 64 ที่น้องสาวกลับกรุงเทพฯ ตนก็ไม่ได้เจอ เพราะเขาไม่ได้ติดต่อญาติ ส่วนที่ผลชันสูตรระบุว่าน้องสาวมีแผลที่มตัว มีรอยถูกตีด้วยของแข็งที่กะโหลกศีรษะ แต่ไม่มีบาดฉกรรจ์ที่ทำให้ถึงตาย ทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าอะไรคือสาเหตุการตาย เพราะศพเน่าเกินไปกว่าที่จะชันสูตรได้

อย่างไรก็ตาม ตนเป็นคนที่สนิทกับ น.ส.พัชราพร ที่สุด เพราะโตมาด้วยกัน น้องสาวเป็นคนเงียบ และเพื่อนน้อย ทำให้นายตะวันเป็นที่พึ่งเดียวของน้องสาว ตนได้คุยกับน้องสาวครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนที่แล้ว พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องอาการป่วยของยายทวด สำหรับเรื่องคดีตนก็จะปล่อยไปตามกระบวนการ ผู้ต้องหาจะอ้างว่าแค่ตบด้วยมือไม่ได้ตั้งใจทำให้ตาย มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา ตนก็ไม่อยากเจอ ไม่อยากให้เขามาขอโทษ

หลังจากทำพิธีเชิญวิญญาณ พี่สาวผู้เสียชีวิตนำรูปถ่ายของน.ส.พัชราพรไปตั้งหน้าโลงศพ และพูดว่า "หญิง กลับบ้านเรานะลูกนะ กลับไปหาแม่หายายนะหญิง"

เวลา 13.30 น. พี่สาวและหลานของน.ส.พัชราพร รวมถึงน้องของนายตะวัน นั่งร่วมกันไหว้พระและเคารพศพ ค่าใช้จ่ายในการจัดพิธีศพ ญาติของนายตะวันเป็นคนจ่ายทั้งหมด หลังจากสวดเสร็จ ญาติทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้ทอดผ้าบังสกุล และผู้มาร่วมงาน ก็ได้ร่วมวางดอกไม้จันทน์ที่หน้าศพ หลังจากนั้นญาติก็ช่วยกันยกศพขึ้นเมรุ ในเวลา 14.00 น. บรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่น

น.ส.พิมพ์ (นามสมมติ) หลานสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากน้าสาวคบหากับนายตะวัน น้าสาวก็ขาดการติดต่อกับครอบครัวไปเลย เพราะนายตะวันอ้างว่าเป็นตำรวจ ไม่อยากให้ญาติรู้เกี่ยวกับเจ้าตัว เพราะจะมีผลกระทบต่องานราชการ แม้จะรู้ความจริงว่านายตะวันไม่ใช่ตำรวจ น้าสาวของตนก็ยังรัก ที่ผ่านมาจึงไม่รู้ว่านายตะวันเป็นคนขี้หึงหรือมีพฤติกรรมทำร้ายน้าสาวหรือไม่ แต่โดยอุปนิสัยของน้าสาวของตนนั้น เจ้าตัวจะเป็นคนน่ารักแฟนมาก รักใครก็จะทุ่มเทให้ตลอด ที่ผ่านมาก็มักจะถูกแฟนเก่าข่มเหงมาตลอด

อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องท้องตนก็ไม่รู้ว่าท้องหรือไม่ เพราะช่วงที่ขาดการติดต่อไป ก็ไม่เคยโทรแจ้งมาบอกครอบครัวว่าตั้งท้อง สุดท้าย วันนี้ครอบครัวของตนก็พยายามปิดข่าวเรื่องการตายของ น.ส.พัชราพร เพราะไม่อยากให้ยายทวดวัย 90 ปีทราบ กลัวว่าอาการจะทรุดหนัก เนื่องจากยายทวดเป็นคนที่รักผู้ตายมาก เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก

น.ส.อ้อม (นามสมมติ) อายุ 28 ปี น้องสาวของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า หลังจากได้พูดคุยกับญาติของ น.ส.พัชราพร ก็ได้ชี้แจงในทุก ๆเรื่อง ซึ่งญาติก็ไม่ได้โกรธพวกตน เพราะเขาก็แยกแยะได้ว่าใครเป็นผู้กระทำ และได้ทำพิธีเผาศพลุล่วง ตนก็รู้สึกโล่งใจไปได้บ้าง เพราะได้ทำพิธีทางศาสนา ฃส่งวิญญาณของผู้ตายขึ้นสวรรค์ไปสู่ภพภูมิที่ดี อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ที่ผ่านมาตนก็ปกป้องและดูแล น.ส.พัชราพร ได้ดีที่สุดแล้ว

ด้าน พ.ต.ท.ศุภชัย งามปลอด สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย กับนายตะวัน รักษาวงศ์ และยังไม่สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ เนื่องจากผลชันสูตรศพไม่พบบาดแผลฉกรรจ์ที่ทำให้ถึงความตาย ซึ่งจะเตรียมฝากขังนายตะวันในวันพรุ่งนี้ และคัดค้านการประกันตัว