ล็อกหนุ่มหลอนยา แทงเพื่อนดับลากศพเผาอำพราง พ่อแม่ยังผวาขู่ฆ่าขอเงินแสน (คลิป)

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 ส.ค.64 มีชาวบ้านไปพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย สภาพศพถูกแทงด้วยของมีคม และถูกเผาร่าง ทิ้งไว้ใกล้กระท่อมปลายนา ใกล้เชิงเขาหมู่บ้านโนนส้มกบ ตำบลบ้านแก้ง อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ จึงประสานผู้นำชุมชนรีบแจ้ง ร.ต.อ.พิทักษ์ คงนาวัง รอง สว.(สอบสวน) สภ.อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

ผู้เสียชีวิตชื่อ นายกรุงเทพ ทองอร่าม อายุ 43 ปี สภาพศพถูกแทงด้วยของมีคม บริเวณใต้ราวนม 1 แผล และหลังอีกจำนวน 3 แผล ก่อนที่จะมีร่องรอยนำร่างผู้เสียชีวิตมาเผาทิ้งอำพรางศพ แต่ไฟยังไหม้ศพไม่หมดนั้น

ล่าสุด วันที่ 19 ส.ค.64 ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านแก้ง อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ บ้านพักและที่จัดพิธีบำเพ็ญกุศลของนายกรุงเทพ ทองอร่าม อายุ 43 ปี นายประวัติ ทองอร่าม พ่อของผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อเช้านี้ ชาวบ้านโทรมาบอกว่าเห็นลูกชายทะเลาะกับคนอื่น ตนเลยเริ่มเอะใจ เพราะลูกชายไม่ได้กลับมาที่บ้าน จากนั้นภรรยาของตน กับหลานอายุ 10 ปี ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปดู เมื่อเข้าไปดูก็เห็นกองเลือดที่กระท่อม และพบว่าศพถูกลากไปเผา ภรรยาของตนขี่รถกลับมาบอกทั้งน้ำตาว่า "ลูกเราถูกแทงตายแล้ว"

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนคิดว่าโหดเกินไป เพราะฆ่าจนตายแล้วยังลากไปเผาอีก เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้มีการคุมตัวนายเสถียร ผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำ ซึ่งตนมองว่าอาจจะเป็นคนที่ก่อเหตุ เพราะก่อนเกิดเรื่องนายเสถียรมีอาการเมายา และอาละวาดขู่พ่อแม่ อีกทั้งเมื่อ 3 วันก่อนที่จะเกิดเรื่อง พ่อแม่ของผู้ต้องสงสัยได้เข้ามาเตือนว่านายเสถียรจะฆ่าลูกชายของตนก่อน แล้วค่อยไปฆ่าพ่อแม่ของตัวเอง

ทั้งนี้ เมื่อก่อนลูกชายของตนกับนายเสถียรสนิทกันมาก เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน แต่เพิ่งจะมีปัญหาได้ไม่กี่วัน เนื่องจากนายเสถียรกล่าวหาว่าลูกชายของตนเอาภรรยาของเขาไปซ่อนไว้ แต่ไม่เคยมีใครเห็นภรรยาที่นายเสถียรพาดพิงถึง ส่วนลูกชายของตนไม่เคยทำเรื่องแบบนั้น และไม่เคยมีเรื่องกับใคร ส่วนนายเสถียรมีพฤติกรรมเสพยา ลูกชายตนไม่ทราบว่าเสพยาหรือเปล่า แต่ตนมองว่าก็ไม่ควรจะถูกคนอื่นฆ่าตายเช่นนั้น

นางพวน ทองอร่าม แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า วันนี้เวลาประมาณ 9.00 น. ตนขี่รถจักรยานยนต์พ่วงไปรดน้ำพืชผักสวนครัวที่ทุ่งนา พอไปถึงพบว่ารถจักรยานยนต์ของผู้ตายล้มอยู่ และเห็นว่ามีกองเลือด ตนหันไปมองที่ด้านข้างกระท่อมห่างกันประมาณ 3 วา ก็เจอศพทันที

ขณะนี้มีคนที่ตนรู้สึกสงสัยมากที่สุด เพราะพ่อแม่ของผู้ต้องสงสัยเคยมาเตือนให้ลูกชายระวังตัว ผู้ต้องสงสัยขู่จะฆ่า และไม่ถึง 3 วันก็ถูกฆ่า โดยสาเหตุที่อ้างว่าลูกชายของตนเอาภรรยาของผู้ต้องสงสัยไปซ่อน แต่ลูกชายของตนไม่เคยรู้จักคนที่เขาพาดพิงถึงจริง ๆ และไม่รู้ว่ามีตัวตนจริงหรือเปล่า ซึ่งเพิ่งจะมีปัญหาได้ไม่ถึงสัปดาห์ เพราะเมื่อก่อนเป็นเพื่อนสนิทกัน

ทั้งนี้ ถ้าจับตัวผู้ก่อเหตุได้ ตนอยากจะให้ประหารชีวิต และให้ตายตามกัน ถ้าจะมาขอขมาตนก็ไม่ยินยอม เพราะลูกชายเป็นลูกชายคนโต และเป็นเสาหลักของครอบครัว

ทีมข่าวเดินทางมาที่หมู่บ้านโนนส้มกบ ตำบลบ้านแก้ง อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ นายเวธิน นวลเกษา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 พาทีมข่าวชี้จุดเกิดเหตุ อยู่บริเวณกระท่อมปลายนา จุดที่ถูกแทงเสียชีวิตอยู่ข้างกระท่อม พบว่ามีรอยเลือด และรอยลากลงไปจุดที่มีการเผาศพ ลักษณะมีรอยเผาไหม้บริเวณพื้นดิน พื้นที่โดยรอบเป็นทุ่งนาทั้งหมด ติดกับผาดำ ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร เป็นบ้านในทุ่งนาของพ่อแม่ผู้ต้องสงสัย

นายเวธิน ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า เมื่อเช้านี้รับแจ้งว่ามีคนพบศพนายกรุงเทพที่กระท่อมปลายนา จึงโทรประสานร้อยเวร และสายตรวจให้เข้ามาตรวจสอบ โดยสภาพศพนอนหงาย ถูกไฟเผาไหม้ แต่ไฟรามไปบริเวณลำตัว แต่ไม่ไหม้ โดยเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 19.00 น ชาวบ้านที่อยู่ตรงทุ่งนาใกล้เคียงได้ยินเสียงคนขี่รถจักรยานยนต์ตามมากัน และมาทะเลาะกันมาจากที่เกิดเหตุ แต่ไม่เห็นเหตุการณ์เพราะมืดมาก

ทั้งนี้ ผู้ตายมักจะมานอนที่กระท่อมเถียงนาเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ไม่ทราบว่าเคยมีปัญหากับใครหรือไม่ ขณะนี้ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของผู้ตายไปสอบปากคำแล้ว แต่ในส่วนของปัญหาที่ทำให้ก่อเหตุ ยังไม่สามารถตอบได้ อย่างไรก็ตาม ทางหมู่บ้านไม่เคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาก่อน และปกติได้มีการตรวจตราความปลอดภัยเป็นประจำ แต่จากนี้คงจะต้องเข้มงวดมากขึ้น

นายดาว หมู่หัวนา อายุ 58 ปี พ่อเลี้ยงของผู้ต้องสงสัย และนางเรียน หมู่หัวนา อายุ 60 ปี แม่ของผู้ต้องสงสัย เปิดเผยว่า เมื่อเช้านี้ ตำรวจได้มานำตัวลูกชายชื่อ นายเสถียร อายุ 42 ปี ไปสอบสวนในฐานะผู้ต้องสงสัย ลูกชายของตนเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัดได้แค่ 4 วัน และอยู่ในช่วงกักตัวที่บ้านตรงทุ่งนา แต่ลูกชายไม่ยอมกักตัว และหนีการกักตัวตลอด

ทั้งนี้ ตนไม่เห็นลูกชายหลายวันแล้ว เพราะตนหนีลูกชายอยู่ เนื่องจากลูกชายได้ถามหาพ่อแม่จากชาวบ้าน และขู่ไว้ว่าถ้าเจอตนจะฆ่าทิ้ง โดยลูกชายต้องการให้ตนโอนที่ดินให้ ถ้าไม่โอนก็ต้องเอาเงินมาให้ 100,000 บาท แต่ตนไม่ยอม เพราะลูกชายยังเด็กอยู่ และถ้าให้เงินหรือที่ดินไปต้องเอาไปใช้จนหมด เนื่องจากลูกชายมีอาการทางประสาท และเป็นคนติดยาด้วย หลังจากที่ลูกชายถูกจับตัวไป วันนี้เป็นครั้งแรกที่ตนได้ออกมาจากบ้าน