เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลย เมื่อนักปั้นมือทองชื่อดัง อุ๊บ วิริยะ โพสต์ภาพตัวเองสมัยอายุ 18 ปี ซึ่งดูมาดแมนมากๆ เพราะเป็นเรียนช่างกล พร้อมรีวิวตัวเองในสมัยนั้นให้ทุกคนฟังว่า “วิถีชีวิตบั้นปลายเด็กช่างกลในยุคนั้นไม่พิการ..ติดคุก..หรือก็ตาย..เพื่อนๆ หลายๆ คนต้องเสียชีวิต..ในขณะเรียน..เพราะความห้าวและความซ่า”
วันนี้ (19 สิงหาคม 2564) ก็เลยไปพูดคุยกับพี่อุ๊บ ถึงเรื่องนี้ เจ้าตัวก็เผยว่า ช่วงนี้ว่างงานมาก ก็เลยรำลึกถึงความหลังครั้งอดีต ซึ่งการลงรูปมันก็ทำให้มีความสุข เพราะได้คิดถึงเพื่อน คิดถึงสมัยก่อน โดยตนก็เพิ่งได้เจอเพื่อนสมัยเรียนช่างกล หลังจากห่างหายไปนานถึง 42 ปี ตนต้องขอขอบคุณเฟซบุ๊กมากๆ
ทั้งนี้ พี่อุ๊บ ได้เล่าย้อนให้ฟังว่า จริงๆตนเป็นคนขี้อายมาก ไม่กล้าแสดงออก ก็เลยเรียนช่างกลเพื่อปรับบุคลิกและนิสัยใจคอให้เกิดความห้าวและความกล้า วันแรกที่เข้าเรียนก็สร้างวีรกรรมเลย ด้วยการกระโดดเตะเพื่อน ซึ่งก็ได้ผลเพื่อนๆมีความยำเกรง
จากนั้นก็กลายเป็นผู้นำทัพตลอดเวลายกพวกไปตีกับใคร จนมีอยู่วันหนึ่งเจอคู่อริไล่ยิง ซึ่งตนเป็นคนโดนยิงเข้าตรงคาง ในขณะที่เพื่อนวิ่งหนีหายไปหมด ตนนอนพะงาบๆอยู่ จนกู้ภัยมาช่วย พอถึงโรงพยาบาลหมอก็ไม่ได้รีบให้การรักษา เพราะเอือมระอากับเด็กช่างกลที่ชอบตีกันบ่อย โดยเรื่องราวนี้ทำเอาตนเฉียดตายเลย จึงอยากฝากบอกเด็กช่างกลเลยว่า “อย่าหาทำ”
นอกจากนี้ ก็ยังได้อัปเดตชีวิตช่วงนี้ของพี่อุ๊บมาด้วย เจ้าตัวก็บอกเลยว่า วงการบันเทิงได้รับผลกระทบหนักมาก แล้วตนก็ไม่ใช่ดาราตัวท็อป ก็แค่หาเช้ากินค่ำเหมือนคนทั่วไป ซึ่งตนไม่มีรายรับเข้ามา 6-7 เดือนแล้ว จึงตัดสินใจขายทองที่สะสมมานานแล้ว ประมาณ 30 บาท แต่ก็ยังพอเหลืออยู่นิดหน่อย เท่าที่ตนใส่อยู่ในตอนนี้ ที่ยังเก็บไว้ก็เพื่อประดับบารมี
โดยรายจ่ายตนต่อวันประมาณ 1 พันบาท เพราะต้องดูแลน้องหมาน้องแมวเกือบร้อยชีวิต พวกมันต้องกินข้าวทุกวัน แต่ตนอดมื้อกินมื้อก็ยังได้ ทำให้ตอนนี้ตนคิดหารายได้ทางใหม่ ด้วยการทำธุรกิจส่วนตัว เป็นน้ำปลาร้า จะเปิดตัวเร็วๆนี้ ราคาก็แค่ 3 ขวดร้อย สำหรับสถาบันสอนเดินแบบของตนก็ปิดชั่วคราวไปสักระยะแล้ว เนื่องจากห้างปิด แต่ก็มีสอนออนไลน์บ้าง เล็กๆน้อยๆ
ทั้งนี้ พี่อุ๊บ ยังได้ตัดพ้อถึงดาราเก่าๆที่ตนเคยปั้นมาก่อนด้วย โดยเล่าว่า ดาราที่ตนเคยปั้นมา ไม่เห็นเข้ามาสอบถามสารทุกข์สุขดิบ หรือส่งอาหารการกินมาให้เลย ยอมรับว่าซึ้งเลย ซึ่งบางคนที่ตนรู้ว่าเขารวยๆ ตนก็ทักไปบ้างว่า ช่วยค่าอาหารหมาแมวหน่อย พวกเขาก็อ่านแต่ไม่ตอบ (บอกหลังไมค์ว่า เช่น ทีน สราวุฒิ , เวฟ สาริน ) ยอมรับเลยว่านอยด์มาก
ซึ่งตนก็อยากบอกว่า คนเรามันต้องนึกถึงกันบ้าง ตนไม่ได้ทวงบุญคุณ แต่นิดๆหน่อยๆ แค่ส่งสติ๊กเกอร์มาตนก็ดีใจแล้ว หลายคนมองว่าตนทำตัวแบบนี้ ดาราก็เลยหนีหมด มันไม่ใช่นะ คือพอเขาโตก็ต้องแยกตัวออกไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปอยฝ้าย มาลัยพร โอดเงินเก็บอยู่ได้อีกแค่ 2 เดือน บ้านที่ยังต้องผ่อนอยู่อาจถูกยึด หากถูกฟ้องล้มละลายก็ต้องยอม
- ตั๊ก - นุ้ย เผยเตรียมอำลาวงการปีหน้า ขอใช้ชีวิตบั้นปลายที่ต่างจังหวัด
- แอน ทองประสม ช่วยชาวนา จ.สุรินทร์ รับซื้อข้าวหอมมะลิอินทรีย์จากเกษตรกร ส่งต่อชุมชนที่เดือดร้อน