เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 22 ส.ค. 64 พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ เอี่ยมอ่อน สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก รับแจ้งมีชายตกจากทางพิเศษศรีรัช ลงมาเสียชีวิต บนถนนพระราม 9 มุ่งหน้ามอเตอร์เวย์ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. ที่เกิดเหตุอยู่บนบาทวิถีริมถนนพระราม 9
เจ้าหน้าที่พบศพ นายสุนทร อุบลรัตน์ อายุ 41 ปี ถูกรถชนตกลงมาจากทางพิเศษ ร่างกระแทกพื้นเสียชีวิต ในสภาพนอนคว่ำ สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีม่วง สวมกางเกงขาสามส่วนสีเทา มีกระเป๋าคาดอกสีเขียวขี้ม้าติดอยู่กับผู้ตาย 1 ใบ
ภายในมียาบ้า 1 มัดใหญ่ คาดว่ามีจำนวนกว่า 20,000 เม็ด และไอซ์บรรจุถุงซิปล็อกขนาดเล็ก 2 ถุง จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน และมีชายที่มาด้วยกันคาดว่าเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิตคือ นายชัยรัตน์ เชาว์วิจิตร อายุ 42 ปี อยู่ในอาการบาดเจ็บหนัก ศีรษะแตก มีอาการมึนงง ถลอกตามร่างกาย ร่างอยู่บนทางด่วน
โดยผู้ตายขับรถเก๋งฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีขาว ทะเบียน 1 กผ 4576 กรุงเทพมหานคร มาจากทางฝั่งพระราม 9 มุ่งหน้าไปทางมอเตอร์เวย์
ส่วนคู่กรณี คือนายธีรวิทย์ ชาญโกเวทย์ อายุ 32 ปี ขับรถเก๋งฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน 3 กฮ 3102 กรุงเทพมหานคร มาพุ่งชนท้ายจนร่างผู้ตายตกลงมาจากบนทางพิเศษ นายธีรวิทย์ คู่กรณีหัวแตก บาดเจ็บที่ขา มีอาการถลอกปอกเปิก เบื้องต้นนำส่ง รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ ให้แพทย์รักษาอย่างเร่งด่วน
ล่าสุด วันที่ 23 ส.ค. 64 นายมนตรี ไกยะฝ่าย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 14.00 น. ได้รับแจ้งจากสน.ทางด่วน จึงได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบอาการของผู้บาดเจ็บ เมื่อไปถึงก็พบว่ามีรถเก๋งทั้งหมด 2 คัน คือ รถของฝ่ายผู้เสียชีวิต รถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ถูกชนอัดท้ายจนด้านหลังพังยับ
พบร่างนายชัยรัตน์ อยู่ฝั่งซ้ายของรถติดกับแนวขอบสะพาน อาการค่อนข้างหนัก ศีรษะแตก มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย และร่างไม่ได้ตกลงมาเหมือนนายสุนทร
ส่วนรถของคู่กรณี ยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ ของนายธีรวิทย์ อยู่บนช่องทางด่วนเลนกลาง ถัดจากรถของผู้ตายไปประมาณ 100 เมตร สภาพรถเสียหายยับบริเวณด้านหน้า ส่วนนายโกวิทย์มีอาการแน่นหน้าอกแรง เพราะแรงกระแทกจากแอร์แบ็ก ส่วนจะมีอาการหลับใน หรือมึนเมาหรือไม่นั้น ตนเองไม่ได้สอบถาม ส่วนสภาพศพของนายสุนทร นอนคว่ำหน้า เลือดออกบริเวณศีรษะจำนวนมาก
ซึ่งเหตุการณ์ก่อนหน้า จะเห็นว่ารถของฝ่ายผู้ตายมีการจอดบริเวณจอดไหล่ทาง คล้ายรถเสีย ส่วนรถเก๋งสีดำนั้น มีการเบนรถไปหารถเก๋งสัขาว และจากกล้องหน้ารถ จะสังเกตว่าไม่มีการเบรกเลย ทำให้ชนเข้าไปจัง และทำให้ร่างของนายสุนทรตกลงไปด้านล่างบริเวณฟุตพาท ซึ่งรอบข้างไม่มีบ้านเรือนประชาชน และไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์
ส่วนยาเสพติดที่ตรวจพบนั้น ตกลงไปพร้อมกับกระเป๋าของผู้ตาย เพราะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นหาบัตรประชาชนของผู้ตาย จึงไปพบยาเสพติด เป็นยาบ้า 1 มัดใหญ่ คาดว่ามีจำนวนกว่า 20,000 เม็ด และไอซ์บรรจุถุงซิปล็อกขนาดเล็ก 2 ถุง และเงินสดจำนวน 500 บาท ส่วนบนรถไม่มียาเสพติดหรืออาวุธปืน
ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณใต้ทางพิเศษศรีรัช ถนนรามคำแหง แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. พบว่าจุดที่พบศพ คือบนฟุตพาทริมถนน ยังมีคราบเลือดหลงเหลืออยู่เล็กน้อย แต่มองไม่ชัดมากนัก บริเวณรอบข้างไม่มีบ้านเรือนของชาวบ้าน หรือ ร้านค้า จึงไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์ โดยความสูงจากพื้นขึ้นไปบนทางระดับ สูงประมาณ 20 เมตร
จากการสอบถามข้อมูลของพี่สาวผู้ตาย ระบุว่า ผู้ตายเป็นน้องชายคนเล็ก พี่น้องแต่ละคนต่างคนต่างอยู่ เพราะต่างมีครอบครัว ผู้ตายเคยมีครอบครัว ภรรยาและลูก แต่ได้เลิกรากันไปแล้ว ส่วนรถที่ถูกชนนั้นก็ไม่ใช่รถของน้องชาย ไม่ทราบว่ายาเสพติดที่พบนั้น เป็นของน้องชายหรือไม่ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้น้องชายเคยเสพยาจริง แต่ไม่พบประวัติการค้ายามาก่อน ตกใจที่พบยาเสพติดที่อยู่กับตัวผู้ตายจำนวนมาก ส่วนเพื่อนที่บาดเจ็บ ทางครอบครัวยืนยันว่าไม่รู้จักมาก่อน
นางนิภา (นามสมมติ) อายุ 69 ปี แม่ของนายชัยรัตน์ เปิดใจา เมื่อวานนี้ลูกชายได้บอกว่าจะออกไปเยี่ยมเพื่อนที่ป่วย หลังจากนั้นก็ขี่รถจักรยานยนต์ไปบ้านอา และมีคนขับรถเก๋งสีขาวที่อยู่ในที่เกิดเหตุมารับออกไป รถยนต์คันดังกล่าวไม่ทราบเป็นของใคร ก่อนจะมาทราบช่วงเย็น เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาแจ้งเวลาประมาณ 18.30 น. ตนเองก็ตกใจมาก ที่ผ่านมายืนยันว่าลูกชายไม่ได้ลำบาก หรือเดือดร้อนเรื่องเงิน เพราะพี่สาวจะมีการโอนเงินมาให้ทุกเดือน เดือนละ 6,000 บาท ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป
ส่วนนายสุนทรนั้น ตนเองเคยเห็นหน้าประมาณ 2 ครั้ง เพราะมาที่บ้าน มาของานลูกชายทำ เพราะช่วงนี้ลูกชายทำงานก่อสร้างด้วย โดยมาจอดรถจักรยานยนต์ที่หน้าบ้าน ลูกชายมีนิสัยเป็นคนใจดี รักเพื่อนฝูง ส่วนนายสุนทรก็เป็นคนดี และเห็นว่าช่วยเหลือลูกชาย และแม่ตลอด เคยพาแม่ไปโรงพยาบาลด้วย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่านายชัยรัตน์อาการยังไม่ดี และยังอยู่ห้องไอซียู ตนเองก็ยังไม่ได้คุยกับลูกชายเลย และยังไม่ได้ไปเยี่ยม ส่วนรถที่นำไปด้วยนั้นไม่ใช่รถของลูกชาย ที่ผ่านมาลูกชายก็พฤติกรรมปกติ ไม่ได้เสพยาที่บ้าน แต่ก่อนหน้านี้นายชัยรัตน์เคยถูกจำคุกมาแล้วเรื่องเสพยาเสพติด เพิ่งจะออกมาประมาณ 1 ปีกว่า ส่วนคู่กรณีนั้นตนเอง ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าตั้งใจชนหรือไม่อย่างไร
ความคืบหน้าทางคดี ตำรวจสน.หัวหมาก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบยาเสพติดที่พบขณะนี้ ยังไม่สามารถระบุเจ้าของ หรือดำเนินคดีกับใครเพิ่มเติม ระหว่างชุดสืบสวนดำเนินการขยายผลต่อไป ขณะที่อาการของนายชัยรัตน์ยังอยู่ในขั้นวิกฤต อาจจะต้องมีการผ่าตัดสมอง เนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง ยังไม่สามารถให้การได้ในขณะนี้ โดยรถยนต์ฮอนด้าซิตี้ สีขาวนั้น เป็นของพี่สาวนายชัยรัตน์ ที่จะให้นายชัยรัตน์นำไปซ่อม จึงเชื่อได้ว่าการออกมายืนหน้ารถนั้นรถเสียจริง
ส่วนนายธีรวิทย์ ผู้ขับขี่ที่ขับรถพุ่งชนนั้น อาการไม่หนัก และสามารถให้การได้เบื้องต้น สาเหตุที่พุ่งชนรถของผู้ตายนั้น นายธีรวิทย์ให้การว่าตนเองหลงทางกำลังจะหาทางลงไปยังถนนพระราม 9 แต่ไม่แน่ใจว่าจะลงทางเบี่ยงใด ระหว่างนั้นไม่ทันได้ดูเส้นทาง จึงไม่เห็นว่ามีรถจอดอยู่ จึงพุ่งชนเข้าอย่างจัง สอบสวนเบื้องต้น ทางคู่กรณีไม่เกี่ยวข้องกับผู้ตายแต่อย่างใด ในเรื่องของยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ขับรถประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย บาดเจ็บ และทำให้เสียทรัพย์