คืบหน้ากรณีเหตุวันที่ 5 ส.ค.64 ตำรวจชุด สภ.เมืองนครสวรรค์ จับกุมผู้ต้องหายาเสพติด เป็นชายและหญิง ที่มีการเรียกรับเงิน 2 ล้านบาท ผู้ต้องหายินยอมจ่ายที่ 1 ล้านบาท แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่เอาถุงดำคลุม ผู้ต้องหาชายชื่อนายมาวิน อายุ 24 ปี จนเสียชีวิต หลังจากนั้นจึงนำศพส่งตรวจนิติเวช แล้วปล่อยผู้ต้องหาหญิงเป็นแฟนสาว ชื่อใบเฟิร์น โดยไม่ดำเนินคดีนั้น
ล่าสุด วันที่ 23 ส.ค. 64 เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.ภูริวัจน์ พูลสวัสดิ์ ผบก.กองตรวจราชการ 6 สำนักงานจเรตำรวจ นำทีมตำรวจ ลงพื้นที่ไปยังบ้านของนายมาวิน อายุ 24 ปี ผู้ตาย ภายในบ้านมีนางจันจิรา แม่ของคนตาย, นายจักร์กฤษณ์ พ่อคนตาย, นางสาวใบเฟิร์น แฟนสาว อาศัยอยู่ภายในบ้าน ซึ่งชุดของจเรตำรวจได้มีการพูดคุยกับคนในบ้าน ใช้เวลาร่วมประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้มีการขอความร่วมมือคนในบ้านเชิญตัวไปสอบปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เวลา 11.00 น. จเรตำรวจได้เชิญให้คนในบ้านเดินทางมาให้ปากคำ ใช้อาคารสำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เป็นสถานีที่ในการสอบปากคำ ไม่ใช้โรงพักเมืองหรือโรงพักตาคลีในการทำงาน เพื่อลดข้อครหาทางสังคมเรื่องความโปร่งใส และการสอบปากคำ ส่วนการสอบปากคำนางจันจิรา แม่คนตาย กับนางสาวใบเฟิร์น ได้มีการแยกห้องสอบ ใช้พนักงานสอบสวนแยกกัน ซึ่งเริ่มต้นทำการสอบปากคำตั้งแต่เวลา 11.15 น.
ขณะที่ ตัวของ นายจักร์กฤษณ์ พ่อคนตาย ปฏิเสธที่จะเดินทางมาให้ปากคำ อ้างกับจเรตำรวจว่าไม่ติดใจการตายของลูก โดยลูกชายเสียชีวิตแล้ว จึงไม่อยากให้ไปรื้อฟื้น จเรตำรวจจึงได้ให้ชุดพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำแยกอยู่ภายในบ้านต่างหาก
การสอบปากคำนายจักร์กฤษณ์ ใช้เวลา 11.00 - 15.30 น. จากนั้นพนักงานสอบสวนได้กลับออกมาจากบ้าน ทราบว่าพ่อนายมาวิน คนตาย ยืนยันคำเดิมว่าไม่ติดใจการตาย เชื่อว่าลูกชายตายจากการใช้ยาเสพติด และมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ
นายดี (นามสมมติ) ตาของนางสาวใบเฟิร์น แฟนคนตาย เปิดเผยว่า หลังจากที่หลานสาวแต่งงานไปอยู่กับนายมาวินแล้ว ก็ไม่ค่อยได้กลับมาบ้าน นอกจากจะมาพาตายายไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเท่านั้น ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ตนเองและยายเป็นคนเลี้ยงนางสาวใบเฟิร์นมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน นางสาวใบเฟิร์นเรียนจนกระทั่งจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็ไปสมัครเป็นพนักงานธุรการของคลินิก หลังจากที่แต่งงานคบหากับนายมาวินก็ได้ออกจากงาน และไปอยู่ด้วยกันที่อำเภอตาคลี
กระทั่งเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ตนเองทราบจากหลานสาวว่านายมาวินเสียชีวิตแล้ว ตกใจไม่คิดว่านายมาวินจะจากไปอย่างกะทันหัน สอบถามสาเหตุการตายกับหลานสาว ทราบว่าเสียชีวิตจากการอุดตันในเส้นเลือดหัวใจ ทำให้หายใจไม่ออก และเสียชีวิต
กรณีที่นายมาวินถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ถุงดำคลุมหัว ขาดอากาศหายใจตาย และนายมาวินกับนางสาวใบเฟิร์น ยังถูกจับในข้อหายาเสพติด 1 แสนเม็ด ตนสาบานต่อดวงพระอาทิตย์ว่า ตนเองไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาก่อน และเชื่อว่าหลานสาวไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด เนื่องจากที่ผ่านมาหลานสาวเป็นเด็กน่ารักคนหนึ่ง ไม่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด
นางอ้วน (นามสมมติ) ยายของนางสาวใบเฟิร์น เปิดเผยว่า ตนเองเป็นคนเลี้ยงหลานมากับมือเชื่อว่าหลานจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องคดียาเสพติด หลานไม่เคยมีประวัติ ที่สำคัญแม้ว่าเจ้าตัวจะเรียนไม่จบ แต่ก็เป็นคนขยันทำมาหากิน จนกระทั่งแต่งงานออกจากบ้านไปอยู่กับนายมาวิน แต่เจ้าตัวก็ยังไปมาหาสู่ และมาดูแลตายายตลอด
สำหรับการลงพื้นที่มาสอบปากคำของตำรวจ เกี่ยวกับการตายของนายมาวิน ก่อนหน้านี้ระบุว่าเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและระบบการหายใจทำให้เสียชีวิตนั้น ตนเองก็เดินทางไปร่วมงานศพ ทราบข้อมูลจากหลานและคนในงานแบบนั้นเช่นกัน แต่ถ้าหากผลการตรวจสอบของตำรวจ พบว่าการตายของนายมาวินเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหลานสาวเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จำนวน 1 แสนเม็ดจริง ตนเองก็พูดอะไรไม่ออก เพราะตอนนี้แค่รู้ข่าวก็ถึงกับจุกอก พูดตอบไม่ได้แล้ว ส่วนตัวก็สงสารหลานสาว เพราะจากเดิมอาจไม่ได้เป็นผู้ต้องหา แต่ถ้าเกิดคดีพลิก จะต้องกลายเป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติดโดยทันที
และเมื่อเวลา 17:00 น. พล.ต.ต.ภูริวัจน์ พูลสวัสดิ์ ผบก.กองตรวจราชการ 6 สำนักงานจเรตำรวจ นำทีมสอบสวนเดินทางออกจากอาคารสำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ เนื่องจากมีการสอบปากคำ นางจันจิรา แม่คนตาย และ นางสาวใบเฟิร์น แฟนคนตาย เสร็จสิ้นแล้ว โดยการสอบปากคำครั้งนี้ใช้เวลา รวม 6 ชั่วโมงเศษ
ภายหลังการสอบปากคำ พล.ต.ต.ภูริวัจน์ พูลสวัสดิ์ ผบก.กองตรวจราชการ 6 สำนักงานจเรตำรวจ ให้ข้อมูลระหว่างเดินทางไปขึ้นรถ ว่า ตอนนี้ยังอยู่ขั้นตอนการสอบสวนและยังไม่เสร็จ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการสอบทั้งพยาน และตัวบุคคลเพิ่มเติม แล้วตอนนี้ยังตอบไม่ได้ว่ามีการสอบพยานไปแล้วกี่ปาก แล้วจะต้องมีการเรียกสอบคนในครอบครัวของนายมาวินเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ตอนนี้ขอดูรายละเอียดเพิ่มเติมก่อน
ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่วัดหัวเขา ตำบลตาลี อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ สถานที่เผาศพของนายมาวิน ด้านนายมงคล นิลทิม สัปเหร่อประจำวัดหัวเขา เปิดเผยว่า วันที่ 7 ส.ค. เวลา 07.00-08.00 น. ตนเองได้รับโทรศัพท์จากทางพ่อนายมาวิน โทรมาแจ้งว่าน้องมาวินเสียแล้วจึงได้ให้มีการนิมนต์พระ 1 รูป เดินทางไปที่โรงพยาบาล เพื่อรับศพกลับมาที่บ้าน
หลังจากนั้นตนเองก็เดินทางไปที่บ้านของนายมาวิน พบว่าญาติได้มีการเตรียมงานสำหรับพิธีบำเพ็ญกุศลศพแล้ว ตนเองจึงได้ยกร่างออกมาจากโลงศพ เพื่อทำพิธีมัดตราสัง และได้มีการอัดใบชา ป็นการป้องกันไม่ให้ศพอืดหรือส่งกลิ่น เนื่องจากร่างของนายมาวินได้รับการผ่าชันสูตรศพบริเวณหน้าท้อง และศีรษะ จึงทำให้ไม่สามารถอัดฟอร์มาลีนเข้าไปในตัวศพได้ ตนเองสังเกตว่าร่างของนายมาวิน ยังมีลักษณะไม่แข็งตัว อ่อนนิ่ม ที่สำคัญสังเกตตามตัวก็ไม่ได้มีร่องรอยของการถูกทำร้าย เพราะถ้าหากศพที่ถูกทำร้ายร่างกายมาจะสังเกตได้ชัดว่ามีรอยช้ำตามตัว แต่สภาพศพของนายมาวินเหมือนสภาพศพทั่วไปที่เสียชีวิตปกติ ไม่มีรอยบีบรัดบริเวณคอ
การบำเพ็ญกุศลศพของนายมาวิน ญาติได้มีการจัดขึ้นที่บ้าน ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนพื้นที่ เพราะถ้าหากบ้านใครมีพื้นที่กว้างขวาง ก็สามารถตั้งศพหรือจัดกิจกรรมที่บ้านได้ ไม่ต้องจำเป็นต้องจัดที่วัด
ซึ่งหลังจากที่ตนเองเดินทางไปร่วมประกอบพิธีจัดเตรียมศพลงโลงเสร็จ ได้มีการพูดคุยกับนางจันจิรา แม่ของคนตาย โดยเล่าเหตุการณ์ถึงสาเหตุการตายให้ตัวเองฟังว่า ในช่วงวันที่ 5 ส.ค. ลูกชายเดินทางพร้อมกับแฟนสาว ออกจากพื้นที่นครสวรรค์ไปทางจังหวัดชัยนาท เพื่อจะไปเข้าคลินิกดูแลรักษาสิว โดยตัวของคนตายเป็นคนรักสวยรักงาม จึงพากันไปเข้าคลินิก ระหว่างทางที่ขับรถไปพบว่ามีอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก จึงตั้งสติและจอดรถเบี่ยงข้างทาง จากนั้นก็เอนเบาะล้มตัวนอน สักพักก็ขาดอากาศหายใจ หมดสติไป ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ด้าน พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนพล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ให้สัมภาษณ์ผ่าน เดลินิวส์ออนไลน์ ว่าเรื่องนี้ทางตำรวจไม่ได้มีการซ้อม หรือทำร้ายใด ๆ จนทำให้เกิดการเสียชีวิต ส่วนประเด็นการเสียชีวิตนั้นทางครอบครัวก็ทราบดีว่า น้องที่เสียชีวิตมีโรคประจำตัว
ส่วนการเรียกร้องเงินทอง ผมขอยืนยันในฐานะในตำรวจว่า ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น แล้วทีมงานตำรวจก็ไม่เคยทำเช่นนี้นะครับ ซึ่งในขณะนี้ ให้ทางฝ่ายพิสูจน์หลักฐานและฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าไปเก็บรายละเอียดหลักฐานเพื่อรายงานผู้บังคับบัญชาต่อไปครับ ทางผู้บังคับบัญชาในระดับสูงขึ้นไปท่านทราบเรื่องรายละเอียดเป็นอย่างดีและสั่งการลงมาว่า ให้อยู่เงียบ ๆ เฉย ๆ เพื่อที่จะได้ดำเนินการต่อไปตามระเบียบ
สำหรับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เป็นนายตำรวจหนุ่มหน้าตาดี ฐานะดี มีรสนิยมชอบ รถซูเปอร์คาร์ เป็นพิเศษ เคยได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของรถเก๋งสปอร์ตหรู ลัมบอร์กินี รุ่น Aventador LP 720-4 50 Anniversario ฉลองครบรอบ 50 ปี ผลิตออกมา 100 คันทั่วโลก และเขาได้มาเป็นคันแรกในประเทศไทย ราคาประมาณ 46 ล้าน
สมัยที่ยังเป็นสารวัตรโจ้ ครั้งหนึ่งเคยตกเป็นข่าวจีบ "เมย์ พิชญ์นาฏ สาขากร" ดาราสาว ถึงขั้นขอแต่งงาน แต่ดาราสาวสืบทราบว่าสารวัตรโจ้มีเมีย มีลูกแล้ว จากนั้นติดยศ พ.ต.ท. ในฐานะตำรวจปราบปรามยาเสพติดมือฉมัง มีผลงานการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ ก่อนปัจจุบันเป็น ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ประวัติ ผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ตำรวจหนุ่มเจ้าของฉายา โจ้ เฟอร์รารี่
- ผู้กำกับส่อพ้นมลทิน! ญาติไม่ติดใจข่าวลูกตายถูกซ้อมถุงคลุมหัว ชี้แค่ขับรถวูบ (คลิป)
- ทนายษิทรา แชร์คลิปอ้างนาที ผู้กำกับโจ้ คลุมถุงพ่อค้ายารีดเงิน 2 ล้าน จนเสียชีวิต