วันที่ 16 พ.ย. 67 พ.ต.อ.สมบูรณ์ สีแดง ผกก.สภ.นครไทย จ.พิษณุโลก พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.พิษณุโลก ตำรวจคอมมานโด กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ(บก.ปพ.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เกือบ 100 นาย เปิดปฏิบัติการ “ฟ้าสางที่นาบัว” รวมกำลังพลที่หน้า สภ.นครไทย
โดย ผกก.สภ.นครไทยได้นำหมายค้น และหมายจับ จำนวน 16 หมายแจกไปให้แก่หัวหน้าชุดกระจายกำลังไปจับกุม ตามคำสั่งศาล โดยพุ่งเป้าไปจับตามหมายค้น เลขที่414/67 ศาลแขวงนครไทย ลงวันที่ 15 พ.ย. 67 และหมายจับศาลฯเลขที่ 44/2567 ซึ่งเป็นบ้านของแกนนำ ส่วนอีก 15 หมายเป็นลูกน้อง ซึ่งอยู่ในบ้านละแวกเดียวกัน
กล่าวคือผู้ต้องหามีตำแหน่งเป็นประธาน และคณะกรรมการหมู่บ้าน ธนาคารหมู่บ้าน ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันกู้ยืมเงิน ซึ่งปฏิบัติการวันนี้เป็น 1 ใน 8 คดี มีผู้เสียหาย 700 คน ความเสียหาย 107 ล้านบาท หากรวม 8 คดีมูลค่าความเสียหายกว่า 400 ล้านบาท
โดยการเปิดปฏิบัติการช่วงรุ่งเช้านั้น เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังกระจายไปหมู่บ้านนาบัว อ.นครไทย ตามที่อยู่ของหมายจับ ทั้ง 16 หมาย ซึ่งอยู่ละแวกเดียวกัน โดยเน้นไปหมายค้นบ้านประธานธนาคารหมู่บ้าน คือ นายสมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งมีตำแหน่งนายกอบต.
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกชื่อ นายกฯ ทำให้นายสมศักดิ์ซึ่งอยู่ในชุดนอนกางเกงขาสั้นเสื้อยืดขาวเพิ่งตื่นนอนไม่นานนัก เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าตื่นตกใจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ่านหมายค้น และหมายจับ ทำให้นายกฯนิ่งไปพักหนึ่ง จากนั้นได้พูดจาเอะอะโวยวายต่อว่า พ.ต.อ.สมบูรณ์ สีแดง ผกก.สภ.นครไทยว่ามาบ้านตนถึง 3 รอบแล้ว ขณะที่ลูกสาวสีหน้าและอารมณ์ไม่ดีโวยวายกับสื่อมวลชนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บุกจับกุม แต่สุดท้ายนายสมศักดิ์ก็เปลี่ยนชุดเสื้อผ้า และยอมนั่งรถของตำรวจนอกเครื่องแบบไปยัง สภ.นครไทยทันที
ทั้งนี้สืบเนื่องจากมีการนำเอาโครงการเกี่ยวกับการออมเงินมาหลอกลวงชาวบ้านในพื้นที่ จ.พิษณุโลก มีการเสนออัตราค่าตอบแทนต่อปีสูงถึง 15% ทำให้ชาวบ้านหลงเชื่อจำนวนมาก ชักชวนกันเปิดเป็นธนาคารชุมชนกันหลายตำบล หลายอำเภอ สุดท้ายไม่ได้เอาเงินไปลงทุน ก็ทำให้ระบบถอนเงินกันไม่ได้ มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท จนชาวบ้านไปร้องเรียนหน่วยงานต่างๆ จนมีการสืบสวนขยายผลของตำรวจ ก่อนศาลจะอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทุกคนในวันนี้ดังกล่าว
ล่าสุดขณะนี้ทางตำรวจอยู่ระหว่างควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมรวบรวมเอกสารหลักฐานสำคัญต่างๆ เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดีดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
Advertisement